Red Wine Time

ไวน์แดงยอดนิยมของคนส่วนใหญ่มักหนีไม่พ้นองุ่นพันธุ์ Cabernet Sauvignon และ Merlot วันนี้ขอแนะนำไวน์จากองุ่นสองชนิดนี้ที่เหมาะที่จะดื่มในวันฟ้าครึ้ม

Red Wine 2

Cabernet Sauvignon Grapes

Casa Silva Chile 2

ไวน์ตัวแรกเป็นไวน์จากประเทศชิลี ส่วนใหญ่เวลาใครมาถามว่าจะซื้อไวน์อะไรดื่มดีเรามักบอกไปว่าคิดอะไรไม่ออกสั่งไวน์ชิลี เพราะไวน์จากที่นี่มักมีรสชาติถูกปาก เลือกแล้วมักไม่พลาด ดื่มง่าย ราคาไม่แพง สำหรับไวน์ชิลีตัวนี้ไม่ได้เป็นไวน์ธรรมดาๆ แต่เป็นไวน์ Cabernet Sauvignon Reserve ของ Casa Silva ซึ่งเป็นผู้ผลิตจาก Colchagua Valley ทางตอนใต้ของเมืองหลวง Santiago ตระกูล Silva เป็นหนึ่งในตระกูลผลิตไวน์ที่เก่าแก่ที่สุดของชิลี และตระกูลนี้เป็นผู้บุกเบิก Colchagua ให้เป็นแหล่งผลิตไวน์ที่สำคัญของประเทศ โดย Casa Silva นั้นเป็นไวน์ที่กวาดรางวัลมาแล้วมากมาย ถือว่าเป็นหนึ่งในยี่ห้อไวน์ชิลีที่ได้รางวัลมากที่สุด ไวน์รุ่น Reserve นี้ ทางผู้ผลิตจะคัดเลือกองุ่นจากโซนที่ดีที่สุดของไร่โดยได้สายพันธุ์องุ่นมาจากบอร์โดซ์ เก็บเกี่ยวองุ่นด้วยมือทั้งหมดและคัดเฉพาะองุ่นที่คุณภาพดีที่สุดมาผลิต ลักษณะของไวน์ตัวนี้น่าจะเป็นที่ถูกใจของคอไวน์เข้มๆ แมนๆ เพราะเป็นไวน์สีทับทิมเข้ม บอดี้หนักแน่น มีแทนนินสูงแต่นุ่มละมุน มีกลิ่นหอมของผลแบล็คเคอแรนท์ แบล็คเบอรี่ เชอรี่ ช็อกโกแลต และเครื่องเทศ เหมาะที่จะทานกับสตูขาแกะ หรือสตูเนื้อ หรือจะลองทานกับชีสเบอเกอร์ฉ่ำๆ ก็ดีเช่นกัน

Stew meat 2

 

Red Wine 1

Merlot Grapes

สำหรับไวน์อีกตัวนึงเป็นองุ่นพันธุ์ Merlot จากประเทศอิตาลี หลายคนอาจสงสัยว่าประเทศอิตาลีที่มีองุ่นสายพันธุ์ของตัวเองนั้นปลูกองุ่นของฝรั่งเศสด้วยหรือ คำตอบคือใช่ และปลูกมานานแล้วด้วย โดยมีการปลูกสายพันธุ์ Merlot ตั้งแต่ต้นศตวรรษที่ 19 และปัจจุบัน Merlot เป็นสายพันธุ์ที่ปลูกมากเป็นอันดับ 4 ของประเทศเลยทีเดียว ไวน์ตัวนี้ชื่อ Villa Martina จากแคว้น Friuli Venezia Giulia แคว้นนี้เป็นแคว้นที่ปลูกองุ่นจากต่างประเทศเยอะมาก และMerlot ก็เป็นหนึ่งในนั้นเพราะองุ่นเข้ากันได้ดีกับสภาพดินฟ้าอากาศของแคว้น ทำให้สามารถผลิตไวน์ทีดีมีคุณภาพ Villa Martina เป็นของตระกูล Sfiligoi ผลิตไวน์ในเขต Colio ซึ่งเป็นหนึ่งในเขตผลิตไวน์ที่ดีที่สุดของแคว้น ไวน์ตัวนี้เป็นไวน์ระดับ IGT ซึ่งถือว่าเป็นไวน์ที่ไม่มีกฎระเบียบในการผลิตมากนักโดยผู้ผลิตค่อนข้างมีอิสระในการผลิต ราคามักไม่แพง ไวน์ตัวนี้แสดงลักษณะเด่นของ Merlot คือมีทั้งกลิ่นหอมของลูกพลัม ผลเบอรี่ ช็อกโกแลตและกาแฟคั่ว มีบอดี้และแทนนินปานกลาง และเป็นไวน์ที่เหมาะกับอาหารหลากหลายชนิดตั้งแต่ไก่อบไปจนถึงหมูและสเต็กเนื้อ

steak 1

 

หาซื้อไวน์ Casa Silva Cabernet Sauvignon Reserve และ Villa Martina Merlot ได้ที่  www.passiondelivery.com

*** พิเศษสุดสำหรับแฟนๆ ของ The Editors Society เมื่อช้อปปิ้งผลิตภัณฑ์ของ Passion Delivery ผ่านทางเว็บไซด์ของ The Editors Society จะได้รับส่วนลด 200 บาทจากการสั่งซื้อของครั้งแรก เมื่อช้อปขั้นต่ำ 1,000 บาท เพียงใส่โค้ด PDEDITOR ในช่องลดราคาก่อนเช็คเอ้าท์จาก www.passiondelivery.com ***

 

เครดิตภาพ : 1, 2, 3, 4, 5, 6, 7, 8, 9

Moscato d’Asti – ไวน์หวานชื่นใจ

ในการจับคู่อาหารกับไวน์มีหลักการง่ายๆ เช่น เนื้อสัตว์สีแดงพวกเนื้อวัวหรือเนื้อแกะควรทานคู่กับไวน์แดง ส่วนเนื้อสัตว์สีขาวพวกปลาหรือไก่ก็ควรทานคู่กับไวน์ขาว สำหรับขนมหวานล่ะควรทานกับอะไร วันนี้ขอแนะนำไวน์ตัวนึงเป็นไวน์ซ่าๆ เล็กน้อยที่ผลิตมาสำหรับทานกับขนมหวานโดยเฉพาะ

Wine & Dessert

Wine & Dessert 2

ไวน์ตัวนี้คือ Moscato d’Asti ไวน์มีฟองเบาๆ หรือที่ภาษาอิตาเลี่ยนเรียกว่าเป็น frizzante เป็นไวน์จากเมือง Asti ในแคว้นเพียมอนต์ซึ่งเป็นแคว้นที่ผลิตไวน์อันเลื่องชื่อของอิตาลี Moscato d’Asti ทำจากองุ่นพันธุ์ Moscato Bianco ซึ่งเป็นองุ่นที่มีความหอมยวนใจของดอกไม้นานาพันธุ์และผลไม้สุกฉ่ำ เป็นองุ่นที่มีกลิ่นหอมตราตรึงแม้ได้ลองเพียงครั้งเดียว ไวน์ Moscato d’Asti นั้นเขามีกฎว่าจะต้องปลูกองุ่นบนภูเขาที่ระดับความสูงที่กำหนดไว้ การปลูกองุ่นในที่สูงแบบนี้จะทำให้องุ่นได้รับลมเย็นจากภูเขาอันจะมีผลให้องุ่นสามารถกักเก็บacidity เอาไว้ได้ถึงแม้ว่าองุ่นจะสุกได้ที่ ไวน์ที่ได้จะไม่หวานเลี่ยนหยาด แต่จะเป็นความหวานที่มีระดับความเปรี้ยวมาตัดแบบกำลังดี ทานได้ไม่เบื่อ

Bersano Italy

Bersano Italy 1

moscato-asti-grape-bunch

วิธีผลิต Moscato d’Asti ก็คือเขาจะหมักน้ำองุ่นไปจนได้ระดับแอลกอฮอล์ที่ต้องการ (ประมาณ 5%) แล้วทางผู้ผลิตจะหยุดการหมักโดยการนำไวน์ไปแช่เย็น เพื่อให้ยีสต์หยุดทำงานที่แอลกอฮอล์ระดับ 5%นี้ ไวน์จะยังคงมีความหวานและมีก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์อ่อนๆ ให้ความซ่าเบาๆ เพราะการมีแรงดันในขวดไม่มาก Moscato d’Asti จึงสามารถใช้จุกก็อกธรรมดาปิดขวดได้ ไม่ต้องใช้จุกก็อกรูปเห็ดแบบสปาร์คกลิ้งไวน์ทั่วไป

Moscato d'Asti Wine & Dessert 1

Moscato d’Asti ในบ้านเรามีหลายยี่ห้อ วันนี้ขอแนะนำไวน์ของ Bersano ซึ่งเป็นหนึ่งในผู้ผลิตที่สำคัญของเพียมอนต์ที่เริ่มทำไวน์มาตั้งแต่ต้นศตวรรษที่ 20 ปัจจุบัน Bersano ตกเป็นของตระกูล Massimelli และ Soave ไวน์ตัวนี้มีกลิ่นอันหอมกรุ่นของดอกส้ม ลูกพีชและผลแอปริคอทสุกฉ่ำ บวกกลิ่นสมุนไพรพวกใบเซจ มีรสชาติหวาน และมีรสเปรี้ยวมาตัดให้ชื่นใจ เหมาะสำหรับทานแช่เย็นในอากาศร้อนๆ เคล้ากับไอศกรีมซันเดย์หรือทาร์ตผลไม้เป็นที่สุด

Wine & Dessert 3

Wine & Dessert 4

 

 

หาซื้อ Bersano Moscato d’Asti Monteolivo ได้ที่ www.passiondelivery.com

*** พิเศษสุดสำหรับแฟนๆ ของ The Editors Society เมื่อช้อปปิ้งผลิตภัณฑ์ของ Passion Delivery ผ่านทางเว็บไซด์ของ The Editors Society จะได้รับส่วนลด 200 บาทจากการสั่งซื้อของครั้งแรก เมื่อช้อปขั้นต่ำ 1,000 บาท เพียงใส่โค้ด PDEDITOR ในช่องลดราคาก่อนเช็คเอ้าท์จาก www.passiondelivery.com ***

 

เครดิตภาพ : 1, 2, 3, 4, 5, 6, 7, 8, 9, 10

 

Primitivo – ไวน์แดงแห่ง Puglia

หากพูดถึงประเทศอิตาลี แน่นอนคอไวน์คงนึกถึงไวน์ Barolo หรือ Brunello สองไวน์ระดับเทพแห่งแคว้นเพียตมอนต์และทัสคานี แต่วันนี้ขอแนะนำไวน์แดงจากทางใต้ที่มีรสชาติเข้มข้นแต่ราคาสบายกระเป๋า

Wine Recommend Donna Marzia Primitivo 2

Primitivo Grape for Italy Wine

Primotivo เป็นองุ่นสายพันธุ์โบราณที่มีการปลูกกันมาตั้งแต่สมัยก่อนกรีกโรมัน และมีความเชื่อต่อๆ กันมาว่าไวน์ Primitivo นี่แหละที่พระเยซูดื่มใน Last Supper จะจริงแท้แค่ไหนก็คงยากที่จะพิสูจน์ แต่ที่แน่ๆ คือหากใครเป็นแฟนไวน์อเมริกันแล้วล่ะก็ Primitivo ก็คือองุ่นพันธุ์เดียวกับกับ Zinfandel นั่นเอง โดย Primitivo เป็นองุ่นตัวหลักของแคว้น Puglia ทางตอนใต้ หากนึกภาพรองเท้าบู๊ท แคว้น Puglia ก็คือส่วนที่เป็นส้นรองเท้า และเพราะอยู่ตอนใต้ของประเทศ Puglia จึงมีอากาศค่อนข้างร้อนแต่โชคดีที่มีทะเลล้อมรอบจึงช่วยให้มีลมเย็นๆ พัดผ่าน ทำให้อุณหภูมิไม่ร้อนจัด องุ่นจึงสุกแต่ไม่โอเว่อร์จนเกินไป ในสมัยก่อนที่แคว้นแห่งนี้มักนิยมผลิตไวน์แบบเน้นปริมาณ แต่ปัจจุบันมีการใส่ใจในคุณภาพมากขึ้น ตั้งแต่ขั้นตอนการปลูกองุ่นไปจนถึงการผลิตไวน์ ทำให้ไวน์จากแคว้นนี้เป็นที่สนใจของผู้ดื่มที่ต้องการไวน์แดงโอเคๆ สักตัวโดยที่ราคาไม่แพงมากนัก

Wine Recommend Donna Marzia Primitivo 3

Wine Recommend red wine with pasta

ไวน์ที่จะแนะนำวันนี้เป็นไวน์ Primitivo ชื่อ Donna Marzia ผลิตโดย Conti Mezza ซึ่งเป็นไวน์เนอรี่ที่เก่าแก่แห่งแคว้น Puglia ก่อตั้งมาตั้งแต่ยุคปี ค.ศ. 1500 โดยตระกูลขุนนางของทางใต้ และทุกวันนี้ยังตกทอดสู่รุ่นลูกหลานผลิตไวน์โดยยึดแบบแผนโบราณที่สืบทอดมาผสมผสานกับวิวัฒนาการอันทันสมัย ชื่อ Donna Marzia นั้นตั้งเป็นชื่อของหนึ่งในไร่ประจำตระกูล เป็นชื่อของ Countess Marzia Conza ที่จบชีวิตของตัวเองลงเพราะถูกกีดกันความรักระหว่างตัวเธอกับหนุ่มยาจกผู้เป็นที่รัก ไวน์ตัวนี้เป็นไวน์สีแดงทับทิมเข้ม เนื่องจากบ่มและหมักในถังสเตนเลสไวน์ตัวนี้จึงมีกลิ่นหอมของผลไม้นำ ไม่ว่าจะเป็นผลเบอร์รี่สีแดง ลูกพลัมและเชอร์รี่สุกฉ่ำ มีน้ำหนักปานกลางและมีความเปรี้ยวและฝาดอันนุ่มนวล จึงได้ไวน์ที่ไม่หนักจนเลี่ยนและสามารถทานเข้ากับอาหารได้ดี ไม่ว่าจะเป็นพาสต้าต่างๆ รวมไปถึงชีสอิตาเลี่ยนอร่อยๆ ก็น่าจะดี

Wine Recommend red wine with pasta 1

red wine with Cheese

 

หาซื้อ Donna Marzia Primitivo ได้ที่ www.passiondelivery.com

*** พิเศษสุดสำหรับแฟนๆ ของ The Editors Society เมื่อช้อปปิ้งผลิตภัณฑ์ของ Passion Delivery ผ่านทางเว็บไซด์ของ The Editors Society จะได้รับส่วนลด 200 บาทจากการสั่งซื้อของครั้งแรก เมื่อช้อปขั้นต่ำ 1,000 บาท เพียงใส่โค้ด PDEDITOR ในช่องลดราคาก่อนเช็คเอ้าท์จาก www.passiondelivery.com ***

 

เครดิตภาพ : 1, 2, 3, 4, 5, 6, 7, 8

Flying Solo – ไวน์ฝรั่งเศสที่เข้าถึงง่าย

ปัจจุบันนี้คนไทยนิยมดื่มไวน์กันมากขึ้น โดยทั่วไปแล้วไวน์ที่คนไทยเลือกดื่มมักเป็นไวน์จากประเทศโลกใหม่ หรือที่เรียกว่า “New World” ซึ่งก็ได้แก่ประเทศสหรัฐอเมริกา ชิลี อาร์เจนติน่า ออสเตรเลีย หรือนิวซีแลนด์ หนึ่งในเหตุผลก็น่าจะเป็นเพราะว่าไวน์จากประเทศเหล่านี้มีความเข้าใจง่าย บนฉลากจะให้ข้อมูลครบทั้งยี่ห้อ และพันธุ์องุ่น ในขณะที่ไวน์จากทางยุโรปส่วนใหญ่นั้นจะเป็นอะไรที่เข้าใจยากเสียเหลือเกิน อ่านฉลากก็ไม่ค่อยจะออก ซึ่งนี่ถือว่าเป็นจุดด้อยอันสำคัญเพราะผู้บริโภคจะไม่รู้เลยว่าในขวดนั้นเป็นองุ่นพันธุ์อะไรถ้าไม่ศึกษามาก่อน แต่วันนี้อะไรๆก็เปลี่ยนไป มีผู้ผลิตไวน์ฝรั่งเศสหลายเจ้าหันมาผลิตไวน์ด้วยแนวคิดแบบใหม่ให้เข้าถึงง่าย ทำฉลากให้ดูมีเรื่องมีราว อย่างเช่นไวน์ที่อยากแนะนำในครั้งนี้

domaine gayda

White Wine Flying Solo Recommened 2

White Wine Flying Solo Recommened 1

Flying Solo เป็นไวน์ของ Domaine Gayda จากแคว้นลองก์ด็อก-รูซียง (Languedoc-Roussillon) เป็นไวน์ระดับ IGP (Indication Géographique Protégée) ซึ่งเอาเข้าจริงๆ เป็นไวน์ที่ถือว่าเป็นระดับรอง แต่ในแคว้นนี้กลับเป็นพวกไวน์ระดับรองเนี่ยแหละที่เป็นที่น่าสนใจ และไวน์ที่ดีที่สุดของแคว้นก็เป็นไวน์ระดับนี้ทั้งนั้น เพราะไวน์ IGP จะไม่ได้มีกฎระเบียบข้อบังคับในการผลิตมากมายนักเราจึงได้เห็นฉลากที่เป็นภาษาอังกฤษ มีการระบุพันธุ์องุ่นบนฉลาก เลยทำให้ไวน์พวกนี้เป็นที่นิยมสูง โดย Flying Solo นั้นทางผู้ผลิตตั้งชื่อเพื่อเป็นเกียรติให้แก่เหล่านักบินผู้หาญกล้าแห่ง aéropostale ในยุคหลังสงครามโลกครั้งที่1 พวกเขาเหล่านั้นมีหน้าที่ขับเครื่องบินใบพัดขนาดเล็กนำไปรษณีย์ไปส่งยังประเทศต่างๆ ด้วยเทคโนโลยีการบินในสมัยนั้นที่คงไม่ค่อยก้าวหน้าเท่าไหร่ นักบินที่ต้องบินเส้นทางระหว่างเมือง Toulouse กับ Barcelona ต้องอาศัยต้นสนขนาดใหญ่ที่บังเอิญอยู่ด้านหลังของไร่องุ่นแห่งนี้เป็นสัญลักษณ์นำทางอีกด้วย

White Wine Flying Solo Recommened 3

Flying Solo มีทั้งไวน์แดง โรเซ่ และไวน์ขาว แต่ช่วงนี้อากาศร้อนขอแนะนำไวน์ขาวแล้วกัน เป็นไวน์ที่ทำจากองุ่น Granache Blanc ผสมกับ Viognier องุ่นปลูกบนดินเหนียวและหินปูน มีกลิ่นหอมของผลไม้ประเภทเลมอน และลูกเนคทารีน มีแอซดิตี้ที่กำลังดี ให้ความรู้สึกสดชื่น เป็นไวน์ทานง่ายๆ มีบอดี้ปานกลางจึงเป็นไวน์ที่เหมาะที่จะทานกับอาหารอันหลากหลาย ทั้งสลัด ปลา ไปจนถึงไก่อบ

White Wine Flying Solo Recommened with food

White Wine Flying Solo Recommened with food. 1

 

หาซื้อ Flying Solo ได้ตามร้านขายไวน์ทั่วไป หรือ  www.passiondelivery.com

*** พิเศษสุดสำหรับแฟนๆ ของ The Editors Society เมื่อช้อปปิ้งผลิตภัณฑ์ของ Passion Delivery ผ่านทางเว็บไซด์ของ The Editors Society จะได้รับส่วนลด 200 บาท จากการสั่งซื้อของครั้งแรก เมื่อช้อปขั้นต่ำ 1,000 บาท เพียงใส่โค้ด PDEDITOR ในช่องลดราคาก่อนเช็คเอ้าท์จาก www.passiondelivery.com ***

 

เครดิตภาพ : 1, 2, 3, 4, 5, 6, 7, 8

Party 101

 

***พิเศษสุดสำหรับแฟนเพจเฟสบุ๊คและ Website ของ The Editors Society เมื่อช้อปปิ้งผลิตภัณฑ์ของ Passion Dilivery ผ่านทาง Website ของ The Editors Society จะได้ส่วนลด  200 บาท (สำหรับการช้อปขั้นต่ำ 1,000 บาทจากการสั่งของครั้งแรก) เพียงใส่ code PDEDITOR ในช่องลดราคาก่อนเซ็คเอ้าท์จาก Website Passion Delivery***

 

คิดจะจัดงานเลี้ยง…..

 

ไม่ต้องต่อว่า แค่คิดก็เหนื่อยเสียแล้ว

 

ทำแบบไม่เหนื่อยมาก (จนเข็ด) เอาแบบทุกคนแฮปปี้ สบายๆก็ได้ค่ะ แค่มีการวางแผนบ้าง มีตัวช่วยบ้าง

 

อาหารหลายๆอย่างสามารถเตรียมไว้ล่วงหน้าได้ อาหารบางชนิด ที่ต้องทำทานร้อนๆวันนั้น พยายามให้มีให้น้อยที่สุด

 

เมื่อไม่นานมานี้ จัดงานแบบกันเองในหมู่ญาติสนิท ไม่เกิน ๑๐ คน คิดสรุปหลังจากงานเลิกแบบเข้าข้างตัวเองว่าประสบผลสำเร็จดี มานำเสนอไอเดียไว้ที่นี่ เผื่อใครกำลังคิดจะจัดงานค่ะ

 

ข้อแรกเลย : สิ่งที่กลัวที่สุด คือแขกมักมาก่อนเวลา แขกมาไม่พร้อมกัน เราเองก็กำลังยุ่ง เตรียมของต่างๆ จะทำอย่างไรกับแขกที่มาถึงก่อนดี ลองแบบนี้ค่ะ ให้แขกมีส่วนร่วมในงานด้วยการช่วยกันทำของง่ายๆ เช่นเสียบไม้บาร์บีคิว ในที่นี้ใช้เนื้อแกะหั่นมาเรียบร้อยแล้ว ของ Passion Delivery (Australian lamb diced AB008) หมักกับน้ำปลา รากผักชีกระเทียมพริกไทย และน้ำมันมะกอกไว้ (ไม้ที่จะเสียบ ให้ไปแช่น้ำไว้ก่อน เพื่อเวลาเอาไปปิ้งย่างจะได้ไม่ไหม้) เตรียมของทุกอย่างไว้ให้พร้อม เช่น สัปปะรด หอมใหญ่ มะเขือเทศ พริกหวาน หรือพริกเขียวของญี่ปุ่นก็อร่อยดีค่ะ แขกมาก็ให้เขาคุยกันไป เสียบไม้ไป ใครชอบอะไรก็จัดไปตามความชอบ สนุกดีค่ะ

 

 

partyfood002

 

 

ระหว่างนั้น ก็เสิรฟของว่าง ถ่วงเวลา เผื่อคนหิวมากจะได้มีอะไรรองท้องไปพลางๆก่อน ปอเปี๊ยะผักขม ชีส เบคอน สูตรของเรา ตามสถิติ ยังไม่เคยพบคนที่ไม่ชอบ ^_^ มีแต่ชอบมาก และชอบมากกว่า ไปจนถึงชอบมากที่สุด (แน่ะ คุยซะเลย)

 

 

partyfood003

partyfood004

 

 

ยิ่งตอนนี้มี อุปกรณ์ดีเด่น เป็นผ้าเคลือบแว๊กซ์ ที่ทาง Passion Delivery เพิ่งมีมาวางขาย ดีมากที่ใช้คลุมอาหารเก็บไว้ในตู้เย็น แทนพลาสติก cling film เวลามีงานเลี้ยงแบบนี้ ก็ใช้คลุมอาหารไว้ก่อนแขกมา ดูสวยงาม แถมยังนำกลับมาซักใช้ได้อีกในคราวต่อๆไป ทั้งประหยัด ทั้งรักษ์โลก และสะอาดปลอดภัยดี สั่งมาลองใช้แล้วก็ชอบมากค่ะ (จริงๆแล้ว เป็นของฝากคนที่รัก ที่นับถือดีมากเลยค่ะ ส่งไปทางไปรษณีย์น้ำหนักก็เบา ถือขึ้นเครื่องบินไป ก็ไม่เกะกะ ใช้ประโยชน์ได้สารพัดสิ่งจริงๆ)

 

อาหารจานแรกที่เตรียมไว้เป็น ซุปฟักทองผสม บัตเตอร์นัท (ที่เดี๋ยวนี้โครงการหลวงมีมาขายตามซุปเปอร์มาร์เก็ตใหญ่ๆ รสจะหวานกว่าฟักทอง) สะดวกตรงที่ทำไว้ล่วงหน้าได้เป็นหลายอาทิตย์ ใส่ช่องแข็งไว้ก่อนได้ วันงานค่อยมาอุนร้อน ก่อนเสิร์ฟ ตีนมร้อนให้เป็นฟอง หยดลงบนชาม โรยใบเครื่องเทศหอมๆเช่น ใบไทม์ หรือ ออริกาโน เสิรฟกับขนมปังกระเทียมที่ทำไว้ล่วงหน้า ได้เช่นกัน

 

 

partyfood005

partyfood006

 

 

จานที่สอง: ก็อีกแหละ เตรียมไว้ล่วงหน้าได้ตั้งแต่เช้า มะเขือเทศญี่ปุน หรือมะเขือเทศเนื้อ เลือกลูกสวยๆ ขนาดเท่าๆกัน กรีดเป็นรอยบากตรงผิว ลวกน้ำร้อนที่ใส่เกลือ ราวๆ ๒๐ วินาที แค่ดูว่า เปลือกเริ่มร่อนออก ตักขึ้นแล้วแช่น้ำเย็นจัดทันที ลอกเปลือกออก แช่ตู้เย็นไว้ ก่อนเสิรฟ โรยดอกเกลือ เราใช้ Kurera Himalayan Pink Salt (coarse grain) (KR004) จาก Passion Delivery เจ้าเดิม เกลือนี้จะไม่เค็มจัด เข้ากันได้ดี กับการเสิร์ฟมะเขือเทศสดแบบนี้

 

 

partyfood007

 

 

จากนั้น ก็เป็นอาหารจำพวก สตูว์ slow cook ซึ่งเตรียมไว้ได้ก่อนล่วงหน้าเป็นอาทิตย์ แค่ว่า ก่อนจะเสิรฟ เติมผัก เติมมันฝรั่งที่ทำใหม่ๆลงไปก่อนเสิร์ฟบ้าง เพื่อให้มีสีสันสวยงาม ในที่นี่ เป็น เนื้อส่วนซี่โครง ตุ๋นกับไวน์แดง Short Ribs in Red Wine Sauce with Glazed carrots and Pearl Onions.

 

 

partyfood008

partyfood009

 

 

อาหารอื่นๆ เช่น สลัดผัก ถ้าชอบก็อาจเสริมเข้าไปได้ และสั่ง Lobster จาก Passion Delivery มาด้วย รับรองไม่ผิดหวังค่ะ เขาต้มมาเสร็จแล้ว ทานได้เลยแสนจะประหยัดเวลา หาน้ำจิ้มซีฟู้ดแซ่บๆไว้สักถ้วยสองถ้วย รับรองงานดูดี ดูหรูหรา ในราคาไม่ต้องปวดหัวค่ะ

 

และสุดท้าย ของหวานที่ง่ายๆ ทำล่วงหน้าได้หลายวัน ให้อารมณ์สนุกสนานในงานปาร์ตี้ เห็นจะไม่พ้น โมจิน้ำใส (Raindrop Mochi) เป็นของหวานที่เบา สดชื่น ปิดท้ายรายการได้อย่างสมบูรณ์ งดงาม

 

 

partyfood0010

 

 

ทั้งหมดนี้เป็นไอเดียคร่าวๆของอาหารงานเลี้ยง ส่วน วิธีทำ สูตรอาหาร ของสิ่งต่างๆที่พูดมาทั้งหมดนี้ หากสนใจอยากทราบ อยากให้เขียนวิธีทำ โปรดบอกเข้ามาค่ะ รับรองจะจัดให้ ไม่มีเสีย

 

ขอให้สนุกสนาน กับชีวิต เฉลิมฉลองกับทุกวันที่มีอยู่กันนะคะ

 

 

La vie en Fêtes!

GranMonte – ไวน์ไทยมาตรฐานโลก

เมื่อสัปดาห์ก่อนเพิ่งมีโอกาสได้ไปร่วมงานเทศกาลเก็บองุ่นที่ไร่องุ่น ‘GranMonte’ ซึ่งในงานนี้ผู้ร่วมงานจะได้ลองเก็บองุ่นเอง(จึงได้รู้ว่ามันไม่ง่ายอย่างที่คิด) และที่สำคัญในงานเราได้มีโอกาสลิ้มลองไวน์ต่างๆ ของยี่ห้อกราน-มอนเต้อีกด้วย และมีหลายตัวที่อยากเขียนแนะนำ แต่วันนี้ขอแนะนำไวน์แดงรุ่น The Orient Syrah ซึ่งถือว่ามีคุณภาพดีไม่แพ้ไวน์จากทางยุโรปเลย และเป็นไวน์ที่คว้ารางวัลจากต่างประเทศมาแล้วมากมาย เช่น รางวัลเหรียญทองจาก AWC Vienna เป็นต้น

Drink Red Wine

GranMonte 1

GranMonte 2

vineyard GranMonte

กราน-มอนเต้เป็นไวน์ของคนไทยโดยตั้งอยู่บนอโศกวาเล่ย์ อำเภอปากช่อง ใกล้อุทยานแห่งชาติเขาใหญ่ มีพื้นที่ทั้งหมด100 ไร่ ปลูกองุ่นหลากหลายสายพันธุ์ ทั้งซีราห์ และเชนิน บล็องค์ ซึ่งเป็นองุ่นที่เหมาะสมที่สุดกับสภาพอากาศอย่างบ้านเรา รวมทั้งเป็นเจ้าเดียวที่ประสบความสำเร็จในการปลูกองุ่นพันธุ์การ์แบเนต์ โววิญองที่ปลูกยากมาก แต่ที่นี่ก็สามารถปลูกองุ่นพันธุ์นี้ให้มีคุณภาพดีได้อีกด้วย ที่นี่มีไวน์หลากหลายรุ่น ไล่ไปตั้งแต่รุ่นสำหรับดื่มง่ายๆ เน้นกลิ่นหอมผลไม้ เช่นรุ่น Heritage ไปจนถึงรุ่น The Orient ซึ่งถือว่าเป็นรุ่นที่เป็น”flagship” และแพงที่สุดของกราน-มอนเต้

Drink Red Wine 1

แต่สำหรับรุ่น The Orient Syrah นั้น ถึงแม้จะไม่ใช่รุ่นที่แพงที่สุดแต่คุณภาพก็ไม่ได้ด้อยไปกว่ากัน เพราะทำจากองุ่นซีราห์ต้นเก่าแก่ที่สุดของทางไร่ นำไปบ่มในถังไม้โอ๊คถึง 12 เดือน จึงได้ไวน์ที่ฟุลบอดี้ รสชาติเข้มข้น หอมกลิ่นลูกพลัม บลูเบอรี่ และมีกลิ่นของเครื่องเทศทั้งกานพลู วานิลลา และ อบเชย นับว่าเป็นไวน์ที่มีความสลับซับซ้อน เทียบได้กับไวน์จากลุ่มแม่น้ำ Rhone อันเลื่องชื่อของฝรั่งเศส มีรสเปรี้ยวกำลังดี ทำให้ไวน์นี้ไม่ฉ่ำเลี่ยนจนเกินไป และมีแทนนินสูงและเข้มจึงสามารถเก็บได้อีก 5-7 ปี หรือจะทานเลยก็ไม่ผิดอะไร

Drink Red Wine and Food.1

Drink Red Wine and Food

แน่นอนทานไวน์แดงโดยเฉพาะ Syrah ควรทานคู่กันกับสเต็กดีๆ ย่างแบบสุก Medium Rare จะทานเปล่าๆ หรือจะจิ้มน้ำจิ้มแจ่วก็เข้า หรือจะทานกับพาสต้าซอสเนื้อ สตูว์ หรือซี่โครงแกะย่างก็น่าจะเข้ากัน แต่ที่งานวันนั้นได้จิบไวน์ตัวนี้เปล่าๆ ก็เพลินดีไปอีกแบบ

ไวน์ไทยเราพัฒนามาไกลแล้ว อยากให้คนไทยสนับสนุนไวน์ของบ้านเรากันเยอะๆ เพราะไวน์ไทยไม่แพ้ชาติใดในโลก

 

หาซื้อไวน์กราน-มอนเต้ได้ที่ไร่องุ่นกราน-มอนเต้ หรือที่

 www.passiondelivery.com

 

*** พิเศษสุดสำหรับแฟนๆ ของ The Editors Society เมื่อช้อปปิ้งผลิตภัณฑ์ของ Passion Delivery ผ่านทางเว็บไซด์ของ The Editors Society จะได้รับส่วนลด 200 บาทจากการสั่งซื้อของครั้งแรก เมื่อช้อปขั้นต่ำ 1,000 บาท เพียงใส่โค้ด PDEDITOR ในช่องลดราคาก่อนเช็คเอ้าท์จาก www.passiondelivery.com ***

 

เครดิตภาพ : 1, 2, 3, 4, 5, 6, 7

 

Gavi – ไวน์ขาวเลอค่าของเจ้าหญิงผู้สูงศักดิ์

อยู่ดีๆ อากาศก็เย็นลงหลังจากที่ทำใจไปพักหนึ่งแล้วว่าเราคงไม่ได้สัมผัสอากาศหนาวอีกจนกว่าจะปลายปี อากาศแบบนี้ช่างชวนให้อยากเปิดไวน์ขาวเย็นๆ มาจิบ เลยนึกได้ถึงไวน์ขาวตัวหนึ่งที่มีความอ่อนหวานละมุนละไม นั่นก็คือไวน์ Gavi

How to Drink Gavi Wine 2

How to Drink Gavi Wine 1 White-wine-Grapes

Villa Sparina

Gavi เป็นไวน์ขาวจากแแคว้นเพียดมอนต์ (Piedmont) แคว้นไวน์อันเลื่องชื่อทางตอนเหนือของประเทศอิตาลี เป็นไวน์ที่ผลิตจากองุ่นพันธุ์ Cortese ไวน์ Gavi มีตำนานเล่าขานกันมาว่ามีเจ้าหญิงรูปงามคนหนึ่งได้ตกหลุมรักกับองครักษ์หนุ่มแต่ถูกผู้เป็นบิดาซึ่งเป็นกษัตริย์ขัดขวาง ทั้งสองจึงได้หนีออกจากวังแล้วมาใช้ชีวิตอยู่ร่วมกันในดินแดนอีกฝั่งหนึ่งของภูเขาที่เป็นอิตาลีในปัจจุบัน ทั้งสองอยู่กันแบบเงียบๆ ไม่เผยตนจึงสามารถเล็ดลอดจากทหารของฝ่ายบิดาไปได้หลายครั้งหลายครา แต่มาวันหนึ่งองครักษ์หนุ่มคาดว่าน่าจะอยู่ในอาการมึนเมาจากการดื่มไวน์ได้เผยกับชาวบ้านระแวกนั้น ว่าแท้จริงแล้วทั้งคู่เป็นใครจนเรื่องไปถึงหูของกษัตริย์ซึ่งตลอดเวลามีแต่ความอาลัยอาวรณ์ในตัวลูกสาว และได้ให้อภัยกับลูกสาวสุดที่รักทันที เมื่อได้เจอกันอีกครั้งผู้เป็นบิดาจึงมอบเมืองที่ทั้งสองไปอยู่ให้ทั้งคู่ครอบครองเป็นของขวัญในวันแต่งงาน และได้ตั้งชื่อเมืองและไวน์ที่ทำให้ทั้งคู่ได้พบกันอีกครั้งว่า Gavi

 

How to Drink Gavi Wine 3

สำหรับไวน์ Gavi ที่อยากแนะนำในครั้งนี้ชื่อ Conte de Alari จากผู้ผลิตชื่อ Villa Sparina เป็นไวน์สีทองอ่อนมีกลิ่นหอมของดอกไม้ เช่น ดอกส้ม และมีกลิ่นผลไม้จางๆ ทั้งส้ม มะนาว และลูกพีช มีความเปรี้ยวกำลังดี จึงเหมาะที่จะดื่มเคล้ากับอาหารเรียกน้ำย่อยประเภทอาหารทะเล เช่น คาลามารีชุบแป้งทอด หรือพวกปลาต่างๆ

Food with White Wine

Gavi Wine eat with Baked-Calimari

 

หาซื้อไวน์ Gavi ได้ตามร้านชั้นนำทั่วไป และ www.passiondelivery.com

*** พิเศษสุดสำหรับแฟนๆ ของ The Editors Society เมื่อช้อปปิ้งผลิตภัณฑ์ของ Passion Delivery ผ่านทางเว็บไซด์ของ The Editors Society จะได้รับส่วนลด 200 บาทจากการสั่งซื้อของครั้งแรก เมื่อช้อปขั้นต่ำ 1,000 บาท เพียงใส่โค้ด PDEDITOR ในช่องลดราคาก่อนเช็คเอ้าท์จาก www.passiondelivery.com ***

 

เครดิตภาพ : 1, 2, 3, 4, 5, 6, 7, 8

 

ชีวิตรื่นรมย์

 

***พิเศษสุดสำหรับแฟนเพจเฟสบุ๊คและ Website ของ The Editors Society เมื่อช้อปปิ้งผลิตภัณฑ์ของ Passion Dilivery ผ่านทาง Website ของ The Editors Society จะได้ส่วนลด  200 บาท (สำหรับการช้อปขั้นต่ำ 1,000 บาทจากการสั่งของครั้งแรก) เพียงใส่ code PDEDITOR ในช่องลดราคาก่อนเซ็คเอ้าท์จาก Website Passion Delivery***

 

ไม่มีสูตรสำเร็จว่าแบบไหนคือชีวิตที่สุขสมบูรณ์ ขึ้นอยู่กับช่วงเวลาและอยู่ที่ว่าเราให้ความสำคัญกับอะไรเป็นอันดับต้นๆ

 

สำหรับเรา บางครั้งหมายถึงการอยู่คนเดียวเงียบๆ กับหนังสือดีๆสักเล่ม

 

บางครั้งหมายถึงการเดินทางท่องเที่ยวกับคนที่รู้ใจ และบางครั้งก็หมายถึงการได้ใช้เวลาพบปะสังสรรค์กับคนที่ถูกใจ

 

หลายๆครั้ง ที่การพบปะสังสรรค์ก็มีอาหารเป็นสื่อ ทำอาหารเป็นน่ะมันดีหลายอย่างน้า อย่างน้อยๆ ก็เป็นตัวเชื่อมให้การพบปะสังสรรค์นั้นๆ มีอรรถรสยิ่งขึ้นไปอีก งานเลี้ยงง่ายๆ มีอาหารเด่นๆไม่กี่อย่าง ที่เหลือซื้อเอาบ้าง ให้เพื่อนๆถือมาบ้าง ทำให้สามารถจัดงานได้อย่างง่ายๆสบายๆ เจ้าภาพไม่เครียด ไม่เหนื่อย ยิ่งอากาศเย็นสบายแบบนี้น่าจะชวนกันมาพบปะสังสรค์กันนะคะ

 

foodfeb006

foodfeb005

 

วันนี้ยกให้นางเอกของงานเป็นนี่เลยค่ะ เนื้อ Australian T-Bone ( 700 g) สั่งมาจาก www.passiondelivery.com เขาส่งมาให้ถึงบ้านเป็นแบบแช่แข็ง เราเอามาวางไว้ในตู้เย็นช่องธรรมดาเสียก่อนหนึ่งคืน ให้หายแข็ง จากนั้นค่อยเอามาทำให้สุก ตามแต่ต้องการ

 

แต่วันนี้จะไม่เน้นสูตรอาหารละนะคะ จะเน้นเรื่องการทำเนื้อให้สุกพอดี ถ้าได้ตรงนี้แล้ว จะเอาเนื้อนี้ไปทานกับอะไรก็อร่อยทั้งสิ้น แม้จะรับประทานเปล่าๆกับเกลือ พริกไทย ยังอร่อยเลยค่ะ

 

สำหรับมาตรฐานของฝรั่งแล้ว ระดับความสุกของเนื้อ แยกได้ดังนี้

1. สุกน้อยเกือบดิบ Rare = Bleu (core temperature 45/47 C )

2. สุกกึ่งดิบกึ่งปานกลาง Medium rare = saignant ( core temperatue 50/52C )

3. สุกปานกลาง Medium = A point ( core temperature 55/60 C )

4. สุกปานกลางค่อนข้างสุกมากMedium well = cuit ( core temperature 63/65C )

5. สุกมาก Well done = bien cuit ( core temperature 70/72C )

 

คำว่า Core temperature ในที่นี้ หมายถึงเมื่อเอาที่วัดอุณหภูมิจิ้มลงไปที่ส่วนที่หนาที่สุดของเนื้อ อุณภูมิควรจะอยู่ไกล้เคียงกับระดับความสุกที่เราต้องการ เช่น เราชอบสุกกลางๆ เนื้อข้างนอกสีน้ำตาล ข้างในออกสีชมพู ก็คือความสุกที่ 55/60 C เราก็จะหยุดการ อบ ปิ้ง ย่าง ต่างๆของเราก่อนหน้าที่จะถึง 55/60 C สักเล็กน้อย (เช่นที่ 48-50 C) เพราะเนื้อยังมีการสุกต่อไปอีก แม้จะเอาออกจากไฟแล้ว การเช็คความสุกดิบของเนื้อนี้ บางคนทำบ่อยจนเกิดความชำนาญ เอามือกดๆเนื้อดู ก็จะรู้ทันทีว่าเนื้อสุกระดับที่เราต้องการหรือยัง ทีนี้คนที่เขาชำนาญขนาดนั้น เขาก็คงไม่อดทนอ่านมาถึงตอนนี้แน่ เอาเป็นอันว่าคนที่ยังไม่ชำนาญตอนนี้ ก้อใช้อุปกรณ์ช่วยเป็น guide line ไปพลางๆค่ะ

 

เปิดเตาอบไฟ 200 C รอท่าไว้ก่อน ระหว่างรอเตาร้อน ไปเตรียมสิ่งอื่นๆค่ะ

 

เนื้อที่ใช้ทำวันนี้ เป็นเนื้อขนาด 700 g ติดกระดูก ไม่ได้ทำอะไรมากค่ะ ก่อนจะเอามาปรุงสุก ดูว่าเนื้อนิ่มดี หายเป็นน้ำแข็งแล้ว ก็แค่นวดๆน้ำมันมะกอกทิ้งไว้ในตู้เย็นสักครู่ (อย่าใส่เกลือไว้ก่อนเด็ดขาดค่ะ เกลือจะไปดูดน้ำออกจากเนื้อ ทำให้เนื้อแห้ง) วันนี้กะจะเอาเนื้อมาทำพล่า ก็เริ่มหั่นผักต่างๆไป

ตะไคร้ ซอยบางๆ

ผักชีฝรั่ง ต้นหอม ผักชี

มะนาว

น้ำตาลปิ๊บ

น้ำพริกเผา

น้ำปลา

พริกป่น

ข้าวคั่ว คั่วใหม่ๆ พอเป็นสีน้ำตาล หอม ทิ้งไว้ให้เย็น แล้วเอาไปตำให้ละเอียด

มะเขือเปราะหั่นเป็นแว่นบางๆ

 

จากนั้นตั้งกระทะบนเตา ไฟแรง จนกระทะร้อน โรยเกลือ พริกไทย ทั่วชิ้นเนื้อทั้งสองด้าน ยกเนื้อด้านที่เป็นมันลงไปนาบ จนน้ำมันละลายออกไปบ้าง แล้วจึงวางเนื้อนอนลงบนกระทะ ราวๆด้านละ 2 นาที ไม่ต้องพลิกไปมา ถ้าหากด้านข้างหนามากก็ยกชิ้นเนื้อตั้งขึ้น ให้ได้จี่ seared จนทั่วทุกด้าน จากนั้นเอาชิ้นเนื้อวางบนถาด รองด้วยกระดาษฟอยด์ เข้าเตาอบที่ป่านนี้อุณหภูมิคงถึง 200 C ตามที่ต้องการ ชิ้นที่เห็นนี้อบไป 5 นาทีค่ะ เอาออกมาเช็ค ก็ได้ตามที่ต้องการพอดี คือราวๆ 48 C จากนั้นก็เอาเนื้อมาพัก คลุมฟอยด์ไว้หลวมๆ ราวๆ 5-7 นาที เรื่องการพักเนื้อนี่สำคัญมากนะคะ ถ้าหากไม่พักเขาเสียก่อน เวลาเอาไปเสิรฟ น้ำเลือดจากเนื้อจะไหลเจิ่งนอง หายอยากรับประทานไปทันที เวลาที่พักเนื้อ ความร้อนที่ยังอยู่ในชิ้นเนื้อ จะทำให้เนื้อค่อยๆสุกขึ้นอีกนิดหน่อยอย่างช้าๆ ได้เนื้อที่นุ่ม และไม่แห้งค่ะ

 

foodfeb004เนื้อหอมนุ่ม ชุ่มฉ่ำ หลังจากพักตามเวลาแล้ว

 

พักเนื้อครบตามเวลาแล้ว หั่นชิ้นสวยๆ จะเสิร์ฟแยก ให้แขกไปราดน้ำจิ้มเอง หรือจะจัดจานเป็นพล่าเนื้อมะเขือเปราะอย่างในรูปก็สุดแต่ใจปรารถนาเลยค่า สำคัญว่ารีบๆทำให้เสร็จ ยกไปตอนนี้เลย กำลังอร่อย ช้ากว่านี้เนื้อก็จะขึ้นไข หรือไม่ก็แห้ง พาลให้ไม่อร่อยไปเสียอีกค่ะ

 

foodfeb003

foodfeb002

 

ทานให้อร่อย คุยกันให้สนุก เก็บช่วงเวลาดีๆนี้ไว้เป็นกำลังใจยามที่ต้องการ คนเรามีประสิทธิภาพเพิ่มขึ้นเมื่อเรามีความสุข

 

ขอให้ใช้ชีวิตกันอย่างรื่นรมย์ค่ะ

ข้าวมันส้มตำแกงไก่

 

***พิเศษสุดสำหรับแฟนเพจเฟสบุ๊คและ Website ของ The Editors Society เมื่อช้อปปิ้งผลิตภัณฑ์ของ Passion Dilivery ผ่านทาง Website ของ The Editors Society จะได้ส่วนลด  200 บาท (สำหรับการช้อปขั้นต่ำ 1,000 บาทจากการสั่งของครั้งแรก) เพียงใส่ code PDEDITOR ในช่องลดราคาก่อนเซ็คเอ้าท์จาก Website Passion Delivery***

 

เราเป็นเด็กต่างจังหวัด โตมาในครอบครัวที่มีพี่น้องหลายคน สมัยก่อนแม่ต้องทำการค้าขาย ไม่มีเวลามานั่งทำอาหารเช้าให้ถูกใจลูกทุกคนได้ อาหารเช้าของพวกเราจึงเป็นอะไรหลากหลายที่แม่เจอที่ตลาด และเห็นว่าน่าอร่อย ในวันนั้นๆ อาจเป็นก๋วยจั๊บ ขนมจีน โจ๊ก เก้าลอเก้าไปยาลใหญ่ลูกคนไหนตื่นมาก็มาเลือกเอาจากโต๊ะกลมหินอ่อนกลางบ้าน แต่รายการข้าวมันส้มตำแกงไก่ นี้นับว่าเป็นเมนูฮิตตลอดกาล ถ้าวันไหนใครมาช้าก็อด จำได้ว่า ทั้งข้าวมันทั้งส้มตำ มาเป็นห่อใบตองเล็กๆ ติดไม้กลัด กินได้ไม่เบื่อเลย สมัยนี้แทบไม่เคยเห็นขายที่ไหนแล้วนะคะ ขนาดทำให้ลูกสาวรับประทานวันนี้ ลูกยังแปลกใจ “ ทำไมไม่เคยเห็นร้านไหนขายเลยละคะแม่ “ ตอบไม่ได้เหมือนกันว่าเพราะอะไร รู้แต่ว่า ของอร่อยๆของไทยเราแบบนี้ ไม่น่าจะปล่อยให้สูญหายไป ทำทานกันที่บ้านก็ได้ค่ะ

 

 

kaomun002

 

 

เครื่องปรุงข้าวมัน

ข้าวสารเก่า 1 ถ้วย

น้ำกะทิคั้นใหม่ๆ (หัวหางปนกัน) หรือกะทิกล่อง 2 ถ้วย

น้ำตาล 1 ช้อนโต๊ะ

เกลือ 2 ช้อนชา

ใบเตย (ถ้ามี)

 

 

วิธีทำ

นำน้ำกะทิกับน้ำตาลและเกลือ ใส่หม้อตั้งไฟ ขยำใบเตยลงไปด้วย คนจนน้ำตาลและเกลือละลายดีแล้ว เทลงในหม้อหุงข้าวไฟฟ้า ซาวข้าวสารใส่ลงไป กดหุงตามปรกติ ถ้าชอบข้าวแข็งก็ให้ลดปริมาณน้ำลง เมื่อข้าวสุก ให้เอาทัพพี ซุยข้าวขึ้นจากข้างล่าง เพื่อไม่ให้ข้าวที่อยู่ตรงก้นแฉะ

 

 

เครื่องปรุงส้มตำ

1. พริกชี้ฟ้าเม็ดใหญ่แช่น้ำจนนิ่ม หั่นเป็นชิ้นเล็กๆ 2-3 เม็ด

2. กระเทียม 2-3 กลีบ (แล้วแต่ชอบ)

3. มะละกอ ขูด หรือสับเป็นเส้นๆ ประมาณ 4 ถ้วยตวง

4. น้ำมะขาม น้ำปลาตามชอบ (ผสมเข้าด้วยกันแล้วตั้งไฟ ทิ้งไว้ให้เย็น) น้ำตาลปีบ เติมน้ำมะนาว ชิมรสตามชอบ

5. กุ้งแห้งป่น ประมาณ 1/4 ถ้วย

6. มะนาวหั่นเป็นชิ้นเล็กๆ (แบบเมี่ยงคำ) ทั้งเปลือก ประมาณ 1-2 ช้อนโต๊ะ

7. พริกขี้หนูสวน

 

 

วิธีทำ

ขูด หรือ สับมะละกอ แล้วห่อผ้าใส่ตู้เย็นไว้ก่อน

นำข้อ 1 และ 2 ตำรวมกันจนละเอียดดี เติม น้ำปรุงรส ในข้อ 4 ที่ทำไว้ก่อนแล้ว คลุกกับมะละกอขูด เติมกุ้งแห้งป่น และมะนาวที่หั่นเป็นชิ้นๆ โรยด้วยพริกขี้หนูสวน ปรุงรสตามชอบ

 

 

kaomun003

 

 

เครื่องปรุงแกงไก่

ถ้าเป็นสูตรที่เคยกินสมัยเด็ก รู้สีกว่าใช้ไก่บ้าน หรือไก่ออร์แกนนิค เลี้ยงในฟาร์ม จะให้อารมณ์มากกว่า เพราะไม่ใช่ไก่เนื้อ แบบนุ่มฟู เนื้อไก่ควรจะสู้ฟันบ้าง แต่ก็ไม่ใช่ถึงกับเหนียว เคี้ยวไม่ออก สั่งไก่จาก www.passiondelivery.com ได้ไก่แบบที่เหมาะจะทำแกงแบบนี้มากค่ะ

เครื่องแกง (ใช้แกงแดงสำเร็จ เลือกเอาเจ้าที่เราชอบ ใส่ฟักแก่หั่นชิ้นใหญ่หน่อยลงไปด้วย)

น้ำกะทิ 300 กรัม คั้นแยกหัว แยกหาง

น้ำตาลปีบ น้ำปลา ปรุงรส

ใบมะกรูด

 

 

วิธีทำ

ผัดหัวกะทิ ราวๆ 1/2 ถ้วยให้จนแตกมัน เติมเครื่องแกงลงไปผัดให้หอม เติมไก่ที่สับติดกระดูก เป็นชิ้นพอคำลงไปผัดจนไก่พอสุก เติมหางกระทิให้ท่วมชิ้นเนื้อไก่ เติมฟักหั่นชิ้นๆ ตั้งไฟไปจนไก่และฟักสุกทั่วดี ปรุงรสด้วยน้ำปลาดี และน้ำตาล สุดท้ายก่อนยกลงให้โรยใบมะกรูด ฉีก หรือหั่นฝอย

ตักใส่ชาม รับประทานกับข้าวมันส้มตำอร่อยที่สุด ถ้ามีหมูฝอย หรือเนื้อฝอยด้วย ยิ่งจะเลิศเลอเพอร์เฟ็ค เสิร์ฟไปกับผักสดต่างๆที่เราชอบ ผักสลัด แตงกวา ผักบุ้ง อะไรก็ได้ ที่บ้านมีใบชะพลูแตกยอดอ่อนเต็มสวน ตัดใบอ่อนๆมารับประทานด้วยกันก็เข้ากันดีค่ะ

 

 

อาหารไทยเรานี้ดีแท้ๆนะคะ

ฉลองปีใหม่แบบพอเพียงกับ Prosecco

Prosecco ไวน์มาแรงแห่งยุคที่เขย่าวงการสปาร์คกลิ้งไวน์ทั่วโลก ด้วยยอดขายที่เพิ่มขี้นทุกปีจนแทบจะเบียดแชมเปญเข้าไปทุกขณะ ในบ้านเราก็เช่นกันตอนนี้คนไทยรู้จัก Prosecco กันมาก ด้วยราคาที่ไม่แพงและรสชาติที่ออกแนวฟรุ้ตตี้ เลยทำให้เครื่องดื่มตัวนี้ครองใจคนไม่ยากนัก

 

recommend-drink-prosecco-3

Prosecco เป็นสปาร์คกลิ้งไวน์สัญชาติอิตาเลี่ยน ผลิตที่แคว้น Veneto และ Friuli Venezia Giulia ทำจากองุ่นพันธุ์ Glera และ Prosecco มีความแตกต่างกับแชมเปญตรงกรรมวิธีการผลิต โดย Prosecco นั้นจะผลิตโดยวิธีที่เรียกว่า Tank Method ก็คือการหมักตัวครั้งที่สองที่จะทำให้เกิดฟองนั้นเกิดขึ้นในแทงค์ความดัน ผลลัพธ์ที่ได้จึงทำให้ Prosecco มีความหอมของผลไม้นำ โดยวิธีแบบแทงค์นี้เหมาะสำหรับใช้กับสปาร์คกลิ้งไวน์ที่ทำจากองุ่นที่มีกลิ่นหอมอยู่แล้ว และโดยส่วนตัวองุ่น Glera เป็นองุ่นที่ให้กลิ่นหอมของแอบเปิ้ลเขียว เลมอน และ มะนาวเขียว จึงทำให้ Prosecco เป็นที่ชื่นชอบของหลายๆ คน เพราะดื่มง่าย สดชื่น ราคาไม่แพง

 

recommend-drink-prosecco-2

recommend-drink-prosecco-4

Prosecco ที่จะแนะนำในครั้งนี้เป็น Prosecco ยี่ห้อ Pitars ซึ่งเป็น Prosecco คุณภาพดี รูปลักษณ์สวยหรู โดย Pittaro เป็นตระกูลเก่าแก่แห่ง Friuli ผลิตไวน์มายาวนาน จากไร่องุ่น Braida Santa Cecilia และ Rivolto ที่มีดินที่เพอร์เฟคสำหรับองุ่นและมีภูเขาที่ช่วยบดบังลมหนาวจากทางเหนือ และมีทะเล Adriatic ที่ช่วยให้ลมทะเลอ่อนๆ Pitars ผลิต Prosecco หลายรุ่น เช่นรุ่น Millesimato มาในขวดสีทองอร่าม เป็นไวน์สีทองอ่อนมีกลิ่นหอมของแอบเปิ้ล ลูกแพร์สุกฉ่ำ และดอกไม้สีขาว อีกตัวนึงคือรุ่น Cuvee Prestige อันนี้มาในขวดสีดำ ฉลากสีฟ้า เป็นไวน์เบาๆสีทองอ่อน กลิ่นหอมฟุ้งของแอบเปิ้ล และมะนาว ไวน์สองตัวนี้เป็นไวน์ที่เหมาะที่จะดื่มเป็น Aperitif แต่เอาเข้าจริงๆ อากาศชิวๆ แบบนี้จะเปิดดื่มทั้งวันก็ยังได้ ฉลองกันตั้งแต่สายยันดึกไปจนถึงเคาท์ดาวน์ได้เลย ราคาสบายกระเป๋าอีกต่างหาก

 

หาซื้อ Pitars ได้ตามร้านขายไวน์ทั่วไปหรือ www.passiondelivery.com

*** พิเศษสุดสำหรับแฟนๆ ของ The Editors Society เมื่อช้อปปิ้งผลิตภัณฑ์ของ Passion Delivery ผ่านทางเว็บไซด์ของ The Editors Society จะได้รับส่วนลด 200 บาทจากการสั่งซื้อของครั้งแรก เมื่อช้อปขั้นต่ำ 1,000 บาท เพียงใส่โค้ด PDEDITOR ในช่องลดราคาก่อนเช็คเอ้าท์จาก www.passiondelivery.com ***

 

เครดิตภาพ : 1, 2, 3, 4,