Wolf Blass – President’s Selection Limited Edition

Wolf Blass ไวน์แบรนด์ดังจากออสเตรเลียออกรุ่นลิมิเต็ด เอดิชั่นที่เห็นขวดแล้วรู้สึกสะดุดตาเลยทีเดียว วันนี้เรามาทำความรู้จักไวน์ตัวนี้กันดีกว่า

ก่อนอื่นมั่นใจว่าผู้ที่ชอบดื่มไวน์หลายๆท่านน่าจะต้องเคยดื่มไวน์ของ Wolf Blass หรือหากไม่เคยดื่มก็น่าจะต้องเคยผ่านตายี่ห้อนี้บ้าง เพราะ Wolf Blass เป็นหนึ่งในไวน์ไอคอนของออสเตรเลียเลยทีเดียว คว้ารางวัลมานับไม่ถ้วน ล่าสุดก็เพิ่งได้รางวัลผู้ผลิตไวน์แดงแห่งปีหรือ Red Winemaker of the Year จากสถาบัน IWC ประเทศอังกฤษ

Wolf Blass Founder

Wolf Blass Our Region Content Eden Valley 1-vert

Wolf Blass ก่อตั้งมาตั้งแต่ค.ศ. 1966 ในสมัยนั้นออสเตรเลียยังเป็นสังคมของคนดื่มเบียร์อยู่ Wolf Blass เลยต้องทำการปฏิวัติความคิดของผู้บริโภคให้พวกเขาหันมาดื่มไวน์กันโดยเริ่มจากการผลิตไวน์ที่เข้าถึงง่าย ดื่มง่าย ไม่จำเป็นต้องเก็บหลายปีถึงค่อยนำมาดื่ม และเป็นผู้ริเริ่มการทำฉลากไวน์ให้มีสีต่างๆ ตามระดับของไวน์ (ในยุคนั้นฉลากไวน์ไม่เป็นสีขาวก็สีดำ) เริ่มตั้งแต่ไวน์สำหรับผู้หัดดื่มมือใหม่ คือฉลากสีแดง และสีเหลือง (สีเหลืองนี่สมัยก่อนผู้เขียนดื่มบ่อย) ไล่ขึ้นมาเป็นสีทอง สีดำไปจนถึงสีแพลตินัม ซึ่งองุ่นก็จะคัดจากแหล่งที่เฉพาะยิ่งขึ้น การผลิตก็จะซับซ้อนขึ้นไล่ไปตามระดับของสี

สำหรับไวน์ที่จะแนะนำในครั้งนี้เป็น Wolf Blass รุ่นพิเศษ เป็นไวน์ระดับ President’s Selection Gold Label และที่น่าสนใจคือเป็นรุ่นลิมิเต็ด เอดิชั่น เพราะผลิตมาสำหรับปีนี้เท่านั้น โดยขวดไวน์เป็นสีทองและบนฉลากเป็นรูปไก่ปีระกา คิดว่าน่าจะผลิตมาสำหรับตลาดประเทศแถบเอเชียโดยเฉพาะ ไวน์รุ่น President’s Selection จะเป็นไวน์ที่นำเอาองุ่นคุณภาพดีจากหลายๆ แปลงในรัฐ South Australia มาผสมกัน โดยแสดงให้เห็นถึงทักษะการ “blend” ไวน์อันโดดเด่นและชูเอกลักษณ์ขององุ่นแต่ละชนิดและที่สำคัญคือทางผู้ผลิตต้องการสร้างมาตรฐานอันคงที่ คือเลือกทานปีไหนก็ไม่พลาด ไม่ต้องเสี่ยง โดยรุ่นนี้มีไวน์ให้ลิ้มลองถึงสองตัว

ตัวแรกเป็น President’s Selection Gold Label Shiraz 2015 เป็นไวน์แดงสีเข้ม เพิ่งมีอายุแค่สองปีไวน์ตัวนี้จึงถือว่ายังเด็กมาก มีกลิ่นหอมของผลไม้พวกแบล็คเบอรี่ บลูเบอรี่ ลูกหม่อน ลูกพลัม ส่วนอีกตัวนึงคือ President’s Selection Gold Label Cabernet Sauvignon 2013 ซึ่งเป็่นไวน์สีเข้มเช่นกัน สำหรับพันธุ์ Cabernet นี้จะมีกลิ่นอันซับซ้อนของผลแบล็คเคอแรนท์ วานิลลา และยูคาลิปตัส ไวน์ทั้งสองตัวนี้มีความเข้มข้น หนักแน่น แทนนินสูงแต่นุ่มละมุนไม่ฝาด และเนื่องจากมีแอลกอฮอล์ที่ค่อนข้างสูงคือ 14.5% จึงเป็นไวน์ที่เหมาะสำหรับทานกับอาหาร เช่น สเต็กดีๆ หรือซี่โครงแกะย่าง โดยเฉพาะตัวชีราซหากมีซอสเบอรี่หวานๆ เปรี้ยวๆ มาตัดหน่อยจะเพอร์เฟคมาก

Wine Recommend Wolf Blass 2

Rosemary Roast Rack of Lamb

 

ไวน์ทั้งสองตัวนี้สามารถดื่มได้เลยแต่ก็สามารถเก็บได้ หากเก็บดีๆ น่าจะอยู่ได้ถึงปีระกาหน้า…

 

หาซื้อ Wolf Blass President’s Selection Gold Label รุ่น Limited Edition ได้ตามซูเปอร์มาร์เก็ตชั้นนำทั่วประเทศ

 

ภาพ : ลิขสิทธิ์แบรนด์

เครดิตภาพ : 1, 2, 3, 4, 5, 6, 7, 8

 

Primitivo – ไวน์แดงแห่ง Puglia

หากพูดถึงประเทศอิตาลี แน่นอนคอไวน์คงนึกถึงไวน์ Barolo หรือ Brunello สองไวน์ระดับเทพแห่งแคว้นเพียตมอนต์และทัสคานี แต่วันนี้ขอแนะนำไวน์แดงจากทางใต้ที่มีรสชาติเข้มข้นแต่ราคาสบายกระเป๋า

Wine Recommend Donna Marzia Primitivo 2

Primitivo Grape for Italy Wine

Primotivo เป็นองุ่นสายพันธุ์โบราณที่มีการปลูกกันมาตั้งแต่สมัยก่อนกรีกโรมัน และมีความเชื่อต่อๆ กันมาว่าไวน์ Primitivo นี่แหละที่พระเยซูดื่มใน Last Supper จะจริงแท้แค่ไหนก็คงยากที่จะพิสูจน์ แต่ที่แน่ๆ คือหากใครเป็นแฟนไวน์อเมริกันแล้วล่ะก็ Primitivo ก็คือองุ่นพันธุ์เดียวกับกับ Zinfandel นั่นเอง โดย Primitivo เป็นองุ่นตัวหลักของแคว้น Puglia ทางตอนใต้ หากนึกภาพรองเท้าบู๊ท แคว้น Puglia ก็คือส่วนที่เป็นส้นรองเท้า และเพราะอยู่ตอนใต้ของประเทศ Puglia จึงมีอากาศค่อนข้างร้อนแต่โชคดีที่มีทะเลล้อมรอบจึงช่วยให้มีลมเย็นๆ พัดผ่าน ทำให้อุณหภูมิไม่ร้อนจัด องุ่นจึงสุกแต่ไม่โอเว่อร์จนเกินไป ในสมัยก่อนที่แคว้นแห่งนี้มักนิยมผลิตไวน์แบบเน้นปริมาณ แต่ปัจจุบันมีการใส่ใจในคุณภาพมากขึ้น ตั้งแต่ขั้นตอนการปลูกองุ่นไปจนถึงการผลิตไวน์ ทำให้ไวน์จากแคว้นนี้เป็นที่สนใจของผู้ดื่มที่ต้องการไวน์แดงโอเคๆ สักตัวโดยที่ราคาไม่แพงมากนัก

Wine Recommend Donna Marzia Primitivo 3

Wine Recommend red wine with pasta

ไวน์ที่จะแนะนำวันนี้เป็นไวน์ Primitivo ชื่อ Donna Marzia ผลิตโดย Conti Mezza ซึ่งเป็นไวน์เนอรี่ที่เก่าแก่แห่งแคว้น Puglia ก่อตั้งมาตั้งแต่ยุคปี ค.ศ. 1500 โดยตระกูลขุนนางของทางใต้ และทุกวันนี้ยังตกทอดสู่รุ่นลูกหลานผลิตไวน์โดยยึดแบบแผนโบราณที่สืบทอดมาผสมผสานกับวิวัฒนาการอันทันสมัย ชื่อ Donna Marzia นั้นตั้งเป็นชื่อของหนึ่งในไร่ประจำตระกูล เป็นชื่อของ Countess Marzia Conza ที่จบชีวิตของตัวเองลงเพราะถูกกีดกันความรักระหว่างตัวเธอกับหนุ่มยาจกผู้เป็นที่รัก ไวน์ตัวนี้เป็นไวน์สีแดงทับทิมเข้ม เนื่องจากบ่มและหมักในถังสเตนเลสไวน์ตัวนี้จึงมีกลิ่นหอมของผลไม้นำ ไม่ว่าจะเป็นผลเบอร์รี่สีแดง ลูกพลัมและเชอร์รี่สุกฉ่ำ มีน้ำหนักปานกลางและมีความเปรี้ยวและฝาดอันนุ่มนวล จึงได้ไวน์ที่ไม่หนักจนเลี่ยนและสามารถทานเข้ากับอาหารได้ดี ไม่ว่าจะเป็นพาสต้าต่างๆ รวมไปถึงชีสอิตาเลี่ยนอร่อยๆ ก็น่าจะดี

Wine Recommend red wine with pasta 1

red wine with Cheese

 

หาซื้อ Donna Marzia Primitivo ได้ที่ www.passiondelivery.com

*** พิเศษสุดสำหรับแฟนๆ ของ The Editors Society เมื่อช้อปปิ้งผลิตภัณฑ์ของ Passion Delivery ผ่านทางเว็บไซด์ของ The Editors Society จะได้รับส่วนลด 200 บาทจากการสั่งซื้อของครั้งแรก เมื่อช้อปขั้นต่ำ 1,000 บาท เพียงใส่โค้ด PDEDITOR ในช่องลดราคาก่อนเช็คเอ้าท์จาก www.passiondelivery.com ***

 

เครดิตภาพ : 1, 2, 3, 4, 5, 6, 7, 8

Flying Solo – ไวน์ฝรั่งเศสที่เข้าถึงง่าย

ปัจจุบันนี้คนไทยนิยมดื่มไวน์กันมากขึ้น โดยทั่วไปแล้วไวน์ที่คนไทยเลือกดื่มมักเป็นไวน์จากประเทศโลกใหม่ หรือที่เรียกว่า “New World” ซึ่งก็ได้แก่ประเทศสหรัฐอเมริกา ชิลี อาร์เจนติน่า ออสเตรเลีย หรือนิวซีแลนด์ หนึ่งในเหตุผลก็น่าจะเป็นเพราะว่าไวน์จากประเทศเหล่านี้มีความเข้าใจง่าย บนฉลากจะให้ข้อมูลครบทั้งยี่ห้อ และพันธุ์องุ่น ในขณะที่ไวน์จากทางยุโรปส่วนใหญ่นั้นจะเป็นอะไรที่เข้าใจยากเสียเหลือเกิน อ่านฉลากก็ไม่ค่อยจะออก ซึ่งนี่ถือว่าเป็นจุดด้อยอันสำคัญเพราะผู้บริโภคจะไม่รู้เลยว่าในขวดนั้นเป็นองุ่นพันธุ์อะไรถ้าไม่ศึกษามาก่อน แต่วันนี้อะไรๆก็เปลี่ยนไป มีผู้ผลิตไวน์ฝรั่งเศสหลายเจ้าหันมาผลิตไวน์ด้วยแนวคิดแบบใหม่ให้เข้าถึงง่าย ทำฉลากให้ดูมีเรื่องมีราว อย่างเช่นไวน์ที่อยากแนะนำในครั้งนี้

domaine gayda

White Wine Flying Solo Recommened 2

White Wine Flying Solo Recommened 1

Flying Solo เป็นไวน์ของ Domaine Gayda จากแคว้นลองก์ด็อก-รูซียง (Languedoc-Roussillon) เป็นไวน์ระดับ IGP (Indication Géographique Protégée) ซึ่งเอาเข้าจริงๆ เป็นไวน์ที่ถือว่าเป็นระดับรอง แต่ในแคว้นนี้กลับเป็นพวกไวน์ระดับรองเนี่ยแหละที่เป็นที่น่าสนใจ และไวน์ที่ดีที่สุดของแคว้นก็เป็นไวน์ระดับนี้ทั้งนั้น เพราะไวน์ IGP จะไม่ได้มีกฎระเบียบข้อบังคับในการผลิตมากมายนักเราจึงได้เห็นฉลากที่เป็นภาษาอังกฤษ มีการระบุพันธุ์องุ่นบนฉลาก เลยทำให้ไวน์พวกนี้เป็นที่นิยมสูง โดย Flying Solo นั้นทางผู้ผลิตตั้งชื่อเพื่อเป็นเกียรติให้แก่เหล่านักบินผู้หาญกล้าแห่ง aéropostale ในยุคหลังสงครามโลกครั้งที่1 พวกเขาเหล่านั้นมีหน้าที่ขับเครื่องบินใบพัดขนาดเล็กนำไปรษณีย์ไปส่งยังประเทศต่างๆ ด้วยเทคโนโลยีการบินในสมัยนั้นที่คงไม่ค่อยก้าวหน้าเท่าไหร่ นักบินที่ต้องบินเส้นทางระหว่างเมือง Toulouse กับ Barcelona ต้องอาศัยต้นสนขนาดใหญ่ที่บังเอิญอยู่ด้านหลังของไร่องุ่นแห่งนี้เป็นสัญลักษณ์นำทางอีกด้วย

White Wine Flying Solo Recommened 3

Flying Solo มีทั้งไวน์แดง โรเซ่ และไวน์ขาว แต่ช่วงนี้อากาศร้อนขอแนะนำไวน์ขาวแล้วกัน เป็นไวน์ที่ทำจากองุ่น Granache Blanc ผสมกับ Viognier องุ่นปลูกบนดินเหนียวและหินปูน มีกลิ่นหอมของผลไม้ประเภทเลมอน และลูกเนคทารีน มีแอซดิตี้ที่กำลังดี ให้ความรู้สึกสดชื่น เป็นไวน์ทานง่ายๆ มีบอดี้ปานกลางจึงเป็นไวน์ที่เหมาะที่จะทานกับอาหารอันหลากหลาย ทั้งสลัด ปลา ไปจนถึงไก่อบ

White Wine Flying Solo Recommened with food

White Wine Flying Solo Recommened with food. 1

 

หาซื้อ Flying Solo ได้ตามร้านขายไวน์ทั่วไป หรือ  www.passiondelivery.com

*** พิเศษสุดสำหรับแฟนๆ ของ The Editors Society เมื่อช้อปปิ้งผลิตภัณฑ์ของ Passion Delivery ผ่านทางเว็บไซด์ของ The Editors Society จะได้รับส่วนลด 200 บาท จากการสั่งซื้อของครั้งแรก เมื่อช้อปขั้นต่ำ 1,000 บาท เพียงใส่โค้ด PDEDITOR ในช่องลดราคาก่อนเช็คเอ้าท์จาก www.passiondelivery.com ***

 

เครดิตภาพ : 1, 2, 3, 4, 5, 6, 7, 8

GranMonte – ไวน์ไทยมาตรฐานโลก

เมื่อสัปดาห์ก่อนเพิ่งมีโอกาสได้ไปร่วมงานเทศกาลเก็บองุ่นที่ไร่องุ่น ‘GranMonte’ ซึ่งในงานนี้ผู้ร่วมงานจะได้ลองเก็บองุ่นเอง(จึงได้รู้ว่ามันไม่ง่ายอย่างที่คิด) และที่สำคัญในงานเราได้มีโอกาสลิ้มลองไวน์ต่างๆ ของยี่ห้อกราน-มอนเต้อีกด้วย และมีหลายตัวที่อยากเขียนแนะนำ แต่วันนี้ขอแนะนำไวน์แดงรุ่น The Orient Syrah ซึ่งถือว่ามีคุณภาพดีไม่แพ้ไวน์จากทางยุโรปเลย และเป็นไวน์ที่คว้ารางวัลจากต่างประเทศมาแล้วมากมาย เช่น รางวัลเหรียญทองจาก AWC Vienna เป็นต้น

Drink Red Wine

GranMonte 1

GranMonte 2

vineyard GranMonte

กราน-มอนเต้เป็นไวน์ของคนไทยโดยตั้งอยู่บนอโศกวาเล่ย์ อำเภอปากช่อง ใกล้อุทยานแห่งชาติเขาใหญ่ มีพื้นที่ทั้งหมด100 ไร่ ปลูกองุ่นหลากหลายสายพันธุ์ ทั้งซีราห์ และเชนิน บล็องค์ ซึ่งเป็นองุ่นที่เหมาะสมที่สุดกับสภาพอากาศอย่างบ้านเรา รวมทั้งเป็นเจ้าเดียวที่ประสบความสำเร็จในการปลูกองุ่นพันธุ์การ์แบเนต์ โววิญองที่ปลูกยากมาก แต่ที่นี่ก็สามารถปลูกองุ่นพันธุ์นี้ให้มีคุณภาพดีได้อีกด้วย ที่นี่มีไวน์หลากหลายรุ่น ไล่ไปตั้งแต่รุ่นสำหรับดื่มง่ายๆ เน้นกลิ่นหอมผลไม้ เช่นรุ่น Heritage ไปจนถึงรุ่น The Orient ซึ่งถือว่าเป็นรุ่นที่เป็น”flagship” และแพงที่สุดของกราน-มอนเต้

Drink Red Wine 1

แต่สำหรับรุ่น The Orient Syrah นั้น ถึงแม้จะไม่ใช่รุ่นที่แพงที่สุดแต่คุณภาพก็ไม่ได้ด้อยไปกว่ากัน เพราะทำจากองุ่นซีราห์ต้นเก่าแก่ที่สุดของทางไร่ นำไปบ่มในถังไม้โอ๊คถึง 12 เดือน จึงได้ไวน์ที่ฟุลบอดี้ รสชาติเข้มข้น หอมกลิ่นลูกพลัม บลูเบอรี่ และมีกลิ่นของเครื่องเทศทั้งกานพลู วานิลลา และ อบเชย นับว่าเป็นไวน์ที่มีความสลับซับซ้อน เทียบได้กับไวน์จากลุ่มแม่น้ำ Rhone อันเลื่องชื่อของฝรั่งเศส มีรสเปรี้ยวกำลังดี ทำให้ไวน์นี้ไม่ฉ่ำเลี่ยนจนเกินไป และมีแทนนินสูงและเข้มจึงสามารถเก็บได้อีก 5-7 ปี หรือจะทานเลยก็ไม่ผิดอะไร

Drink Red Wine and Food.1

Drink Red Wine and Food

แน่นอนทานไวน์แดงโดยเฉพาะ Syrah ควรทานคู่กันกับสเต็กดีๆ ย่างแบบสุก Medium Rare จะทานเปล่าๆ หรือจะจิ้มน้ำจิ้มแจ่วก็เข้า หรือจะทานกับพาสต้าซอสเนื้อ สตูว์ หรือซี่โครงแกะย่างก็น่าจะเข้ากัน แต่ที่งานวันนั้นได้จิบไวน์ตัวนี้เปล่าๆ ก็เพลินดีไปอีกแบบ

ไวน์ไทยเราพัฒนามาไกลแล้ว อยากให้คนไทยสนับสนุนไวน์ของบ้านเรากันเยอะๆ เพราะไวน์ไทยไม่แพ้ชาติใดในโลก

 

หาซื้อไวน์กราน-มอนเต้ได้ที่ไร่องุ่นกราน-มอนเต้ หรือที่

 www.passiondelivery.com

 

*** พิเศษสุดสำหรับแฟนๆ ของ The Editors Society เมื่อช้อปปิ้งผลิตภัณฑ์ของ Passion Delivery ผ่านทางเว็บไซด์ของ The Editors Society จะได้รับส่วนลด 200 บาทจากการสั่งซื้อของครั้งแรก เมื่อช้อปขั้นต่ำ 1,000 บาท เพียงใส่โค้ด PDEDITOR ในช่องลดราคาก่อนเช็คเอ้าท์จาก www.passiondelivery.com ***

 

เครดิตภาพ : 1, 2, 3, 4, 5, 6, 7

 

Gavi – ไวน์ขาวเลอค่าของเจ้าหญิงผู้สูงศักดิ์

อยู่ดีๆ อากาศก็เย็นลงหลังจากที่ทำใจไปพักหนึ่งแล้วว่าเราคงไม่ได้สัมผัสอากาศหนาวอีกจนกว่าจะปลายปี อากาศแบบนี้ช่างชวนให้อยากเปิดไวน์ขาวเย็นๆ มาจิบ เลยนึกได้ถึงไวน์ขาวตัวหนึ่งที่มีความอ่อนหวานละมุนละไม นั่นก็คือไวน์ Gavi

How to Drink Gavi Wine 2

How to Drink Gavi Wine 1 White-wine-Grapes

Villa Sparina

Gavi เป็นไวน์ขาวจากแแคว้นเพียดมอนต์ (Piedmont) แคว้นไวน์อันเลื่องชื่อทางตอนเหนือของประเทศอิตาลี เป็นไวน์ที่ผลิตจากองุ่นพันธุ์ Cortese ไวน์ Gavi มีตำนานเล่าขานกันมาว่ามีเจ้าหญิงรูปงามคนหนึ่งได้ตกหลุมรักกับองครักษ์หนุ่มแต่ถูกผู้เป็นบิดาซึ่งเป็นกษัตริย์ขัดขวาง ทั้งสองจึงได้หนีออกจากวังแล้วมาใช้ชีวิตอยู่ร่วมกันในดินแดนอีกฝั่งหนึ่งของภูเขาที่เป็นอิตาลีในปัจจุบัน ทั้งสองอยู่กันแบบเงียบๆ ไม่เผยตนจึงสามารถเล็ดลอดจากทหารของฝ่ายบิดาไปได้หลายครั้งหลายครา แต่มาวันหนึ่งองครักษ์หนุ่มคาดว่าน่าจะอยู่ในอาการมึนเมาจากการดื่มไวน์ได้เผยกับชาวบ้านระแวกนั้น ว่าแท้จริงแล้วทั้งคู่เป็นใครจนเรื่องไปถึงหูของกษัตริย์ซึ่งตลอดเวลามีแต่ความอาลัยอาวรณ์ในตัวลูกสาว และได้ให้อภัยกับลูกสาวสุดที่รักทันที เมื่อได้เจอกันอีกครั้งผู้เป็นบิดาจึงมอบเมืองที่ทั้งสองไปอยู่ให้ทั้งคู่ครอบครองเป็นของขวัญในวันแต่งงาน และได้ตั้งชื่อเมืองและไวน์ที่ทำให้ทั้งคู่ได้พบกันอีกครั้งว่า Gavi

 

How to Drink Gavi Wine 3

สำหรับไวน์ Gavi ที่อยากแนะนำในครั้งนี้ชื่อ Conte de Alari จากผู้ผลิตชื่อ Villa Sparina เป็นไวน์สีทองอ่อนมีกลิ่นหอมของดอกไม้ เช่น ดอกส้ม และมีกลิ่นผลไม้จางๆ ทั้งส้ม มะนาว และลูกพีช มีความเปรี้ยวกำลังดี จึงเหมาะที่จะดื่มเคล้ากับอาหารเรียกน้ำย่อยประเภทอาหารทะเล เช่น คาลามารีชุบแป้งทอด หรือพวกปลาต่างๆ

Food with White Wine

Gavi Wine eat with Baked-Calimari

 

หาซื้อไวน์ Gavi ได้ตามร้านชั้นนำทั่วไป และ www.passiondelivery.com

*** พิเศษสุดสำหรับแฟนๆ ของ The Editors Society เมื่อช้อปปิ้งผลิตภัณฑ์ของ Passion Delivery ผ่านทางเว็บไซด์ของ The Editors Society จะได้รับส่วนลด 200 บาทจากการสั่งซื้อของครั้งแรก เมื่อช้อปขั้นต่ำ 1,000 บาท เพียงใส่โค้ด PDEDITOR ในช่องลดราคาก่อนเช็คเอ้าท์จาก www.passiondelivery.com ***

 

เครดิตภาพ : 1, 2, 3, 4, 5, 6, 7, 8