ไก่อบและผักฤดูหนาว เกรวี่ไวน์แดง

ช่วงเวลาแห่งความรื่นเริงและการเฉลิมฉลองใกล้เข้ามาทุกทีแล้วค่ะ ในโอกาสสุดพิเศษนี้ มาทำไก่อบแสนอร่อยกันค่ะ ไก่อบ หนังกรอบเนื้อนุ่มชุ่มฉ่ำ ราดด้วยเกรวี่ที่ทำเอง รสชาติเข้มข้น แถมเสิร์ฟกับผักที่อบมาจนนุ่มหวาน จะเสิร์ฟในงานเลี้ยงที่บ้านเราเอง หรือจะยกไปร่วมงานกับใคร รับรองว่าเป็นดาวเด่นของงานแน่ๆ

นอกจากความอร่อยเหนือชั้น ไก่อบที่เสิร์ฟมาแบบนี้ มันให้บรรยากาศอบอุ่นของงานคริสต์มาส ดูโก้ ดูแกรนด์ แต่ไม่ได้ยากจนเกินไป และข้อดีของเมนูนี้ก็คือเตรียมไว้ล่วงหน้าได้ ให้สุกไปในเตาอบ เราก็มีเวลาไปเตรียมของอื่นๆ ค่ะ

Happy Holidays ค่ะทุกๆคน

Roast Chicken - Le Creuset 1

วัตถุดิบ

ไก่ขนาด 1 กิโล หรือมากกว่าเล็กน้อย
ปีกไก่ 2 ขีด
น้ำมันพืช เกลือ พริกไทย
ใบ thyme

เกรวี่
หอมหัวใหญ่ 1 หัว แครอท 1/2 หัว – หั่นเต๋าใหญ่ประมาณ 1 ซม
หอมแดง 1 หัว กระเทียม 5-6 กลีบ -สับละเอียด
น้ำเปล่าเล็กน้อย

แป้งสาลี 1/2 ช้อนโต๊ะ
ไวน์แดง 200 มล

ผักต่างๆ ที่ไว้ทานกับไก่อบ
แครอท ฟักทอง มันฝรั่ง หั่นชิ้นใหญ่
บีทรูท -ล้างแล้วอบทั้งเปลือก ก่อนเสิร์ฟค่อยปอกเปลือก แล้วหั่นเป็นชิ้นหนาๆ ตัดเป็นรูปต่างๆ เพื่อตกแต่ง
กะหล่ำดาวลวกในน้ำเดือดผสมเกลือ แล้วน็อคในน้ำเย็นใส่น้ำแข็ง ใส่กระชอนสะเด็ดน้ำแยกไว้ต่างหาก

วิธีทำ
เปิดเตาอบไฟ 200 องศาเซลเซียส
สับกระดูกคอ ออกจากตัวไก่ หั่นขาไก่ตรงช่วงกลางของหน้าแข้งด้วยมีดหั่นขนมปังเพื่อให้กระดูกเรียบสวย
ถ้าซื้อจากร้านหรือซุปเปอร์ที่เขาทำให้เรียบร้อยแล้ว ก็ข้ามขั้นตอนนี้ไปได้เลยค่ะ แต่อาจต้องซื้อกระดูกไก่มาต่างหาก เพื่อมาใส่ในหม้ออบ ไว้ทำเป็นเกรวี่ค่ะ

Roast Chicken - Le Creuset 2

Roast Chicken - Le Creuset 3

ใช้กระดาษทิชชู เช็ดไก่ให้แห้ง ทั้งข้างนอกและข้างใน โรยพริกไทย เกลือลงไปข้างในไก่ แล้วมัดขาไก่ไว้ด้วยกัน(ตรงบริเวณหน้าอกไก่ส่วนบนใกล้ๆคอ จะมีกระดูกชิ้นเล็กๆ เรียกว่า wishbone ชาวบ้านทั่วไปก็จะอบไก่ไปทั้งอย่างนั้น เจอกระดูกชิ้นนี้ก็ใช้ขอพรเสียเลย แต่ถ้าเป็นร้านอาหาร เชฟมักเอากระดูกนี้ออกเสียก่อนค่ะ) ทำไก่เสร็จแล้ว เอาน้ำมันพืชทาให้รอบตัวไก่ด้านนอก โรยเกลือ พริกไทย พักไว้

ใส่ผักที่หั่นเต๋าในข้อ 1 พร้อมทั้งกระดูกไก่ที่สับเป็นชิ้นเล็กๆ และน้ำเปล่าลงในหม้อเหล็กหล่อเคลือบอีนาเมล Le Creuset แล้วตามด้วยไก่ที่เตรียมไว้ โดยเอาด้านข้างไก่ลงก่อน ใส่เนยลงไปสักชิ้นเล็กๆ บนไก่ ก่อนเข้าเตาอบ ตั้งเวลาไว้ 15 นาที คอยตักน้ำในหม้ออบมาราดผิวไก่เป็นระยะๆ เพื่อให้สีสวย แล้วมาพลิกเอาด้านหน้าอกลง หลังสู้ฟ้าหน้าสู้ดิน ครบอีก 15 นาที ระหว่างนั้นอย่าลืมตักเอาน้ำในหม้อมาราดที่ผิวไก่อยู่เรื่อยๆ นอกจากจะได้ไก่อบสีสวยแล้ว ยังได้รสที่ดีด้วยค่ะ ถ้าส่วนปลายปีกและปลายขา ทำท่าจะไหม้ ให้เอากระดาษฟอยด์หุ้มไว้ก่อน

หนสุดท้ายคือพลิกเอาด้านหน้าอกขึ้นนั้น ให้คอยสังเกตว่าบริเวณอกที่นูนขึ้นมาสูงกว่าส่วนอื่น และหน้าขาตรงส่วนสะโพก มักจะไหม้ก่อนส่วนอื่นๆ ให้เอาเบคอนรมควันที่เป็นแผ่นบางๆ มาคลุมไว้เฉพาะจุดที่เสี่ยงต่อการไหม้ ตรงนี้แหละสำคัญเกือบจะที่สุด จะทำให้ไก่ของเราจะสวยเด่นเป็นสง่า ผิวพรรณดูมีราศีกว่าไก่อบที่เห็นกันทั่วๆไปค่ะ อบไก่ด้านที่มีหน้าอกหงายขึ้นนี้ จับเวลา 12-15 นาที ตอนนี้ต้องระวังมากๆค่ะ เพราะส่วนหน้าอกมักจะแห้ง ต้องอย่าให้สุกเกินไป มีวิธีเช็คคือใช้เทอร์โมมิเตอร์เสียบเข้าไปส่วนที่หนาที่สุด ให้อุณหภูมิอยู่ประมาณ 65-68 องศาเซลเซียส ถ้ายังไม่ถึง ให้อบต่อไปอีกสักหน่อย จากนั้นเมื่อมาพักไก่โดยจับตัวไก่ให้ตั้งขึ้น มีตะแกรงรองข้างล่าง รับน้ำจากตัวไก่ ไก่จะสุกต่อไปอีก อุณหภูมิของไก่ วัดเมื่อก่อนเสิร์ฟ ให้อยู่ในช่วง 72-75 องศาก็จะกำลังพอดี

สำหรับผักฤดูหนาวที่จะไว้เสิร์ฟไปข้างๆไก่อบ เอาน้ำมันมะกอกทาเสียหน่อย โรยเกลือบางๆ จะใส่อบไปพร้อมๆกับไก่ หรือจะแยกใส่ถาดเล็กต่างหาก วางไปข้างๆหม้ออบก็แล้วแต่ชอบค่ะ คอยดูฟักทองด้วย ฟักทองจะสุกง่ายที่สุด ยิ่งถ้าหั่นชิ้นบาง ก็อาจเละได้ หมดความอร่อยค่ะ

ได้ของเกือบครบแล้ว ระหว่างที่พักไก่อยู่นั้น มาทำเกรวี่ที่อร่อยมากมายกันค่ะ

เทน้ำที่ได้จากการอบไก่ แยกไว้ต่างหาก

ผัดผักและกระดูกที่อยู่ใต้ไก่อบด้วยไฟแรง ให้จนแห้งเป็นสีน้ำตาล โรยแป้งสาลีลงไป ผัดต่อจนแป้งสุก เติมไวน์แดง ผัดให้เข้ากันและให้ไวน์แดงระเหยไปสักครึ่งหนึ่ง เติมน้ำสต๊อกที่ได้จากการอบไก่ลงไป เติมน้ำเปล่าเล็กน้อย ตั้งไฟจนเดือด ตักเอาไขมันและฟองบนผิวหน้าออก ชิมรสถ้าอ่อนไปให้เติมเกลือ พริกไทย
ลดไฟลงเป็นไฟกลางค่อนข้างอ่อน จนซอสข้นขึ้น กรองเอาผักออก ตั้งไฟกลางต่อไป จนซอสข้นได้ชนิดที่เคลือบหลังช้อนไม้
เร่งไฟขึ้นเป็นไฟกลางแล้ว จึงเติมเนยเย็นที่ตัดเป็นก้อนเล็กๆ ลงไปทีละน้อย ใช้ตะกร้อมือคนให้เข้ากัน

จัดไก่กลับลงไปในหม้อ เรียงผักที่อบไว้แล้วตกแต่งไว้ข้างๆ เกรวี่ใส่ถ้วยเกรวี่แยกไปต่างหาก

Roast Chicken - Le Creuset 4

 

สอบถามข้อมูล หรือติดตามข่าวสารผลิตภัณฑ์เครื่องครัว เลอ ครูเซได้ที่
Facebook:https://Facebook.com/LeCreusetThailand

Instagram: https://www.instagram.com/lecreuset_thailand

Line: Le Creuset Thailand

Tel No.: +669 3131 8876

Le Creuset LOGO

ดวงรายปักษ์ (วันที่ 1-15 ธันวาคม 2561)

หมอต้องดูดวงรายปักษ์สำหรับผู้ที่เกิดวันอาทิตย์–เสาร์ ประจำวันที่ 1-15 ธันวาคม 2561

Horoscope SUNDAY

วันอาทิตย์

การงาน

งานของคนวันอาทิตย์จะเป็นช่วงเวลาที่ทำอะไรก็ผ่านพ้นไปได้ด้วยดี ไม่ค่อยมีอะไรให้หนักใจ ไม่ได้เจออะไรหนักๆเหมือนที่ผ่านมา แถมขี้เกียจไม่ค่อยอยากจะทำอะไรด้วยซ้ำ

การเงิน

เงินถือว่าอยู่ในเกณฑ์ที่ดีมาก ทำธุรกรรมอะไรก็ผ่าน ลงทุนค้าขายได้เงินก้อน มีดวงเสี่ยงโชคได้ลาภ แบ่งเก็บแบ่งใช้ให้ดี

สุขภาพ

ระวังโรคที่เกิดจากความเครียด ปวดหัว ไมเกรน โรคมี่เกี่ยวกับคอขึ้นไป พักผ่อนดูแลตัวเองให้มาก

ความรัก

คนมีคู่คนรักมีปากเสียงกันบ่อยขึ้น ระวังเรื่องคำพูดจะทำร้ายจิตใจกันจนต่างคนต่างอยู่ คนโสดระวังเจอคนมีเจ้าของหรือคนรักเก่ามาทำให้วุ่นวาย วางตัวให้ดี

Horoscope MONDAY

วันจันทร์

การงาน

งานเยอะเป็นพิเศษทำอะไรไม่ค่อยได้ดั่งใจนักแถมยังโดนจับผิดจากคนรอบข้าง ทำอะไรมีสติมากๆ อย่าใจร้อนจะเกิดผลเสียกับตัวเอง

การเงิน

การเงินดูนิ่งๆแต่ก็ไม่ดีมีเกณฑ์เสียเงินแต่อย่างใด ใช้จ่ายได้ตามปกติ แต่ก็ไม่ควรลงทุนอะไรในช่วงนี้

สุขภาพ

มีแค่อาการเจ็บป่วยเล็กๆน้อยๆเกี่ยวกับแขนขายืดเส้นยืดสายบ้าง แต่ไม่ควรออกแรงหรือยกอะไรหนักๆ จะเจ็บตัวได้ง่าย

ความรัก

คนมีคู่คนรักไม่ค่อยดูแลเอาใจใส่เท่าที่ควร ไม่มีเวลาให้หากมีปากเสียงกันต้องระวังไว้มากๆจะทำให้เลิกกันได้ คนโสดยังไม่เจอคนถูกใจ มีเข้ามาทักทายอยู่บ้างแต่ก็ไม่สมหวังกับใคร

Horoscope TUESDAY

วันอังคาร

การงาน

ช่วงนี้ต้องทำอะไรรวดเร็วและแม่นยำ เจอทั้งงานใหญ่และหนักให้รับผิดชอบแถมต้องทำด้วยตัวเองไม่มีคนช่วยเหลือ ใครคิดจะย้ายงานควรหยุดไว้ก่อน จะตกงานได้โดยง่าย

การเงิน

เก็บเงินไว้กับตัวไม่ได้เลย มีเท่าไหร่ก็หมดเท่านั้น ไม่ควรพกเงินติดตัวมากๆ จะใช้จ่ายหมดไปอย่างรวดเร็ว ไม่มีเก็บ บางคนหนักหน่อยเป็นหนี้ได้ง่ายๆ

สุขภาพ

ระวังปัญหาเกี่ยวกับหัว หลัง ลุกไปออกกำลังกายบ้างก็ดี ระวังเรื่องเกี่ยวกับระบบขับถ่ายช่วงนี้ท้องไม่ค่อยดีนัก

ความรัก

คนมีคู่คนรักดูแลเอาใจใส่กันดีรักกันหวานชื่น บางคู่ได้แต่งงานหรือได้บุตร ธิดา เป็นครอบครัวที่สมบูรณ์ คนโสดจะได้เจอคนถูกใจแต่ได้แค่แอบรักแอบชอบเปิดเผยไม่ได้

Horoscope WEDNESDAY

วันพุธ

การงาน

ช่วงนี้เป็นช่วงที่ทำงานอะไรก็ได้ดั่งใจ สำเร็จสมหวัง มีเกณฑ์ได้ข่าวดีเรื่องงานไม่ว่าจะเป็นโบนัส การเลื่อนขั้นเลื่อนตำแหน่ง หากใครตกงานจะได้งานใหม่ในช่วงเวลานี้

การเงิน

การเงินค่อนข้างดี จับจ่ายใช้สอยสบาย ใครเป็นหนี้ก็จะเคลียร์หนี้ได้หมดหรือลดลงไปมาก ระวังความอยากได้อยากมีทำให้ตัวเองลำบาก

สุขภาพ

ให้ระวังเกี่ยวกับการพักผ่อน นอนไม่หลับ นอนน้อย จนร่างกายทรุดโทรม เจ็บป่วยง่ายหายยาก อุบัติเหตุเกี่ยวกับศีรษะต้องระวัง

ความรัก

คนมีคู่คนรักดูแลกันดีเอาใจกันเก่ง ใครทะเลาะกันอยู่จะเป็นช่วงที่ปรับความเข้าใจกันได้ดีขึ้น คนโสดจะเจอคนถูกใจได้เริ่มต้นความรักครั้งใหม่ที่ดีกว่าเดิม

Horoscope THURSDAY

วันพฤหัส

การงาน

งานดูยุ่งวุ่นวายแถมมีปัญหากับคนรอบข้าง จะทำอะไรต้องทำด้วยตัวเองระวังความผิดพลาด ไม่งั้นตัวเองจะเดือดร้อนได้

การเงิน

การเงินถือว่าอยู่ในเกณฑ์ที่ดีไม่ได้มีเรื่องเดือดร้อน หากใครคิดจะซื้อบ้านซื้อรถลงมือทำได้เลยจะสมหวัง

สุขภาพ

สุขภาพค่อนข้างดี ไม่ได้มีอาการเจ็บป่วยใดๆ หากใครป่วยอยู่ช่วงนี้จะฟื้นตัวได้ดี อุบัติเหตุระวังความใจร้อนของตัวเองพาเจ็บตัวเสียทรัพย์สิน

ความรัก

คนมีคู่คนรักเอาแต่ใจใช้อารมณ์ไม่ค่อยฟังกันเท่าที่ควร มีปัญหาเล็กๆน้อยๆ แต่ก็ยังควบคุมสถานการณ์ได้ คนโสดช่วงนี้จะเสน่ห์แรงมีคนเข้ามาหาแต่ก็ได้แค่พูดคุยไม่มีความคืบหน้าอะไร

Horoscope FRIDAY

วันศุกร์

การงาน

งานเยอะเป็นพิเศษแถมมีปัญหาจุกจิกกวนใจ จะทำอะไรก็ดูเหนื่อย แต่สุดท้ายแล้วงานที่รับผิดชอบอยู่จะผ่านพ้นไปได้ด้วยดี

การเงิน

การเงินดีมาก มีเกณฑ์ได้รับของจากผู้ใหญ่ เสี่ยงโชคลงทุนสำเร็จได้ดั่งใจ หากใครคิดจะมีทรัพย์สินเพิ่มเติมก็ทำเรื่องผ่านได้โดยง่าย

สุขภาพ

ระวังในเรื่องของการพักผ่อนนอนน้อย อาการวูบ ร่างกายอ่อนแรง ถ้าขับรถให้ระวังเกี่ยวกับการหลับใน ทำให้เกิดอุบัติเหตุเสียทรัพย์สิน

ความรัก

คนมีคู่คนรักยังดีกันอยู่คนรักเอาใจเก่ง พูดง่ายฟังง่ายไม่มีปัญหาอะไรให้กังวล คนโสดจะยังต้องอยู่โสดไปก่อน เจอคนถูกใจยาก

Horoscope SATURDAY

วันเสาร์

การงาน

ช่วงนี้คนวันเสาร์จะโหมทำงานจนไม่พักผ่อน วางแผนให้ดีในการทำงาน การงานยังดูติดขัดอยู่บ้าง ยังไม่ค่อยคล่องตัวนัก

การเงิน

ให้ระวังในเรื่องของเงินๆทองๆรายจ่ายช่วงนี้จะเยอะเป็นพิเศษ ส่วนใครคิดจะซื้อของใหญ่มีเกณฑ์ได้แต่ต้องวางแผนเรื่องเงินให้ดี

สุขภาพ

สุขภาพไม่ค่อยดีนักเจ็บป่วยได้ง่าย แถมหายยากหายช้า ระวังเกี่ยวกับการมึนหัว ปวดหัว วูบ อุบัติเหตุเกิดจากความประมาทของตัวเองให้ระวัง

ความรัก

คนมีคู่คนรักช่วงนี้ไม่ค่อยสนใจกันเท่าที่ควรแต่ก็ไม่ได้มีปัญหาอะไรใหญ่ๆจนต้องเลิกรา หาเวลาเอาใจกันให้มากขึ้น คนโสดจะเป็นช่วงโสดแล้วรุ่ง ยังไม่เจอคนถูกใจ หากมีเข้ามาก็ได้แค่คุยความสัมพันธ์ไม่คืบ

City Break Paris Part XXXVIII

By Pusit Sansopone

เบรกเที่ยวในกรุงปารีส ตอนที่ 38

Dinner in Paris (Restaurant ตอนที่ 1)
ประสบการณ์อาหารมื้อเย็นในปารีสเมื่อ 2 ตอนที่แล้ว ผมได้แนะนำร้านอาหารในแบบ Brasserie บราสเซรี กันไปแล้ว ซึ่งมันเป็นอะไรที่ค่อนข้าง Traditional คงไว้ซึ่งจารีตประเพณีและการอนุรักษ์เก็บรักษาของดีในอดีตเอาไว้ ไม่ว่าจะเป็นการตกแต่งร้านหรือรายการอาหารที่เป็นอาหารฝรั่งเศสแท้ๆ มาคราวนี้อยากจะแนะนำร้านอาหารในแบบ Restaurant ซึ่งจริงๆแล้วคำว่า Restaurant นั้นก็มาจากภาษาฝรั่งเศสนั่นเอง พวก Bristro, Café หรือ Brasserie มันก็เป็นแขนงหนึ่งหรือ sub-set ของ Restaurant อีกต่อหนึ่งคือทุกแบบก็เสิร์ฟอาหารและเครื่องดื่มทั้งสิ้น แต่ในสมัยก่อนคำว่า Restaurant ในฝรั่งเศสจะหมายถึงร้านอาหารที่เป็นทางทางการที่สุดส่วนใหญ่จะอยู่ในโรงแรม มีเมนูเล่มใหญ่พิมพ์อย่างดีไม่ใช่เขียนบนกระดานดำ, มี Wine List ให้เลือกเยอะจากทุกภูมิภาค ในขณะที่ Bristro อาจมีให้เลือกเฉพาะท้องที่ ในภัตราคารจะมีการจัดโต๊ะ เรียงมีดเรียงแก้วไวน์แดงขาวหรือน้ำแบบเฉพาะเจาะจง มีพนักงานเสิร์ฟแต่งเครื่องแบบดำขาว และผู้ไปใช้บริการก็ต้องมีมารยาทในการกินและการแต่งกาย คือต้อง observe พวกTable Etiquette และ Dress code แต่ยุคสมัยนี้มันเปลี่ยนไปแล้วไม่มีร้านไหนสนใจเรื่องมารยาทหรือการแต่งกายเท่าไร ขอให้เราเอาเงินไปจ่ายเยอะๆเป็นใช้ได้ การเลือก Restaurant สมัยนี้ก็เปลี่ยนไป เพราะจะต้องเน้นเรื่อง Social Media ด้วย จานต้องแต่งสวยร้านต้องมีดาวมิเชลลินมันถึงจะอินเทรนด์

เรารู้กันอยู่ว่าสถาบันมิชลินมันเป็นของฝรั่งเศสและรู้จักอาหารฝรั่งเศสดีที่สุด ทำหน้าที่ตัดสินคัดเลือกอาหารฝรั่งได้อย่างเป็นที่ยอมรับแพ่รหลาย(อาหารชาติอื่นยังไม่เป็นที่ยอมรับเท่าที่ควร) แล้วปารีสก็เป็นเมืองหลวงที่ได้ดาวมิชลินมากกว่าทุกเมืองในยุโรป คือ 100ดวง (ปี2017) โดยเป็นร้านที่ได้ 3 ดาว ถึง 10 ร้าน ไหนๆเรามาถึงปารีสกันแล้วควรหาโอกาสลองร้านอาหารฝรั่งเศสติดดาวสักมื้อก็ไม่เลวนะครับ

ผมก็เลยจะขอแนะนำร้านอาหารติดดาวมิชลินในปารีสแบบ 2 ตอนจบ โดยตอนแรกจะเป็นร้านติดดาว (1-2 ดวง) ที่เราสามารถไปกินได้โดยกระเป๋าไม่ฉีก คือมีราคาสมเหตุผลไม่ต่างกับร้านทั่วไปมากนัก ส่วนตอนที่2 ผมจะแนะนำร้านที่สำหรับผู้ที่ไม่เกี่ยงราคาถ้าดีจริง ก็เลยจะแนะนำเฉพาะร้านที่ได้มิชลิน 3 ดาวในปารีสทั้ง 10 ร้าน
ที่มาของ มิชลินสตาร์เป็นอย่างไร คงไม่พูดถึงแล้วนะครับเพราะน่าจะเคยเขียนถึงไปแล้ว

 

ร้านอาหารติดดาว 8 ร้านในปารีสที่เราสามารถไปกินมื้อเย็นได้ในงบประมาณที่เหมาะสม

1.ร้าน LES FABLES DE LA FONTAINE เล ฟ๊าฟบ์ เดอลา ฟองตานน์
ร้านอาหาร, อาหารทะเล, ฝรั่งเศส, เมดิเตอเรเนียน, $$$

City Break in Paris Restaurant 1 Michelin Star 12

เชฟ David Bottreau ได้รับโอนร้าน Les Fables de la Fontaine มาจากเชฟ Christian Constant ในปี 2548 แล้ว Bottreau ก็ได้นำเชฟสาวดาวรุ่งที่ชื่อ Juliet Sedefdjian มาเป็นหัวหน้าพ่อครัว โดยมีสถาปนิกคือ Luis Aleluia รับผิดชอบออกแบบตกแต่งสถานที่แห่งนี้ให้เรียบง่ายจากวัสดุธรรมชาติเช่นไม้ หินและเหล็กดัด
แล้วก็ตั้งใจเน้นเป็นรายการอาหารทะเลจากทางใต้ (French Riviera) ที่นำเสนอจานคลาสสิกในรูปแบบใหม่ โดยราคานั้นไม่ต่างกับร้านอาหารทั่วๆไปในปารีส คือ เมนูอาหารชุดกลางวันในวันธรรมดาเริ่มต้นจาก 28 ยูโร ส่วนมื้อเย็นจะเป็นเมนูที่น่าตื่นเต้นมากขึ้นใช้ชื่อว่าเมนู Carte Blanche ราคาเริ่มต้นที่ 75 ยูโรคุ้มมากๆ

City Break in Paris Restaurant 1 Michelin Star 16

จานปลาที่ Les Fables de la Fontaine

City Break in Paris Restaurant 1 Michelin Star 18

จานเรียกน้ำย่อยหรือ ENTRÉES ที่ Les Fables de la Fontaine

 

2.Septime เซปติมม์
ร้านอาหารร่วมสมัย, ฝรั่งเศส, $ $ $

City Break in Paris Restaurant 1 Michelin Star 25

Septime เป็นร้านอาหารที่น่าสนใจบนถนน Rue de Charonne ดังนั้นการได้รับยืนยันการจองโต๊ะที่นี่สำหรับมื้อเย็นถือเป็นเรื่องท้าทาย แต่มันเป็นความพยายามที่คุ้มค่าสำหรับประสบการณ์ที่ได้มากินที่นี่แน่นอน อาหารสมัยใหม่สดทันสมัยและนำเสนอได้ดี มีแต่รายการ Tasting Menu 4 steps หรือ 7 steps คือเหมือนเราไม่มีสิทธ์เลือก มันขึ้นอยู่กับเชฟที่นำเสนอและคัดเลือกรายการอาหารที่เหมาะกับวันนั้นเป็นแบบอาหารญี่ปุ่นสไตล์ โอมากาเสะ Omakase อาหารจานพิเศษของที่นี่คือประกอบด้วย raw venison with tarragon เนื้อกวางดิบกับใบเทอรากอน และ Kalamata olives, whiting with endives and orange butter,ปลาทรายแก้วกับมะกอกคาลามาต้า และผักชิโคริกับซอสเนยส้มส่วนของหวานก็พายมะตูมป่น quince and verbena crumble

City Break in Paris Restaurant 1 Michelin Star 2

Paris Cray ที่ Septime
City Break in Paris Restaurant 1 Michelin Star 26

อาหารจานปลาที่ Septime

 

3. BENOIT เบนัวต์
ร้านสไตล์ Bistro, French, $$$

City Break in Paris Restaurant 1 Michelin Star 11

บิสโทรแท้ๆอายุกว่า100ปี ที่เชฟระดับโลก Alain Ducasse ได้มาเป็นเจ้าของ

มีประวัติมากมายที่ Benoit เพราะเป็นร้านเก่าแก่เปิดให้บริการมากว่า100 ปีแล้วตั้งแต่ปีพ.ศ. 2455 ถือเป็นร้านอาหารบิสโทรแบบคลาสสิกเพียงแห่งเดียวของกรุงปารีสที่ได้ดาว Michelin ครอบครัวตระกูล Petit เป็นเจ้าของมา 93 ปีแล้วจึงส่งต่อไปยังทีมงาน Alain Ducasse เชฟระดับโลกที่ได้ดาวเยอะแยะ ตั้งแต่ในปี 2005 บรรยากาศที่นี่อบอุ่นเสมอจากการตกแต่งภายในด้วยกำมะหยี่สีแดงกับขอบทองเหลืองเงาวับ สลับกับกระจกแกะสลักและคอลัมน์หินอ่อน เชฟ Alain Ducasse ตั้งใจที่จะนำเสนอจานคลาสสิกของอาหารฝรั่งเศสทั้งหมด ให้ท่านสามารถสั่งได้ที่นี่ เพราะเดี๋ยวนี้เชฟส่วนใหญ่ไปเน้นจานfusionกันหมด มาที่นี่เพื่อการดูมีรสนิยมในการเลือกร้าน ถ้าต้องการประหยัดก็ให้ลองเมนูอาหารกลางวัน 39 ยูโรที่ การันตีในรสชาติมีการปรุงอย่างรอบคอบ ต้องถือว่าข้อเสนอที่เหมาะสมอย่างยิ่ง

City Break in Paris Restaurant 1 Michelin Star 8

จานเรียกน้ำย่อยที่เบนัวต์

City Break in Paris Restaurant 1 Michelin Star 6

จานปลาที่เบนัวต์

City Break in Paris Restaurant 1 Michelin Star 9

จานหลัก สเต็กกับเห็ดตามฤดู

 

4.LA TABLE D’EUGÈNE ลาต๊าบล์ดูจีนน์
ร้านอาหารฝรั่งเศส $ $ $

City Break in Paris Restaurant 1 Michelin Star 21

ความสมดุลของจารีตประเพณีกับความทันสมัยที่ La Table d’Eugène ได้รับการยึดถือและปฏิบัติตามอย่างเคร่งครัด โดยChefชื่อ Geoffroy Maillard และ sous-chef François Vaudeschamps ทั้ง 2 ร่วมกันสร้างเมนูอาหารที่ซับซ้อน อีกทั้งมีการอัพเดทเมนูทุกสิบวันให้เป็นเมนูตามฤดูกาลโดยแท้ ที่นี่เน้นวัตถุดิบที่เป็นผักสมุนไพรและเนื้อสัตว์จากเครือข่ายผู้ผลิตรายย่อยไม่ใช่สั่งจากsupplierเจ้าใหญ่ เชฟที่นี่ อ้างว่า “การทำอาหารที่นี่ใช้จินตนาการมากกว่าสูตร” ให้ลองสั่งTasting Menu แบบเมนูชิมห้าคอร์ส ในราคา 89 ยูโร หรือถ้าเลือกที่แปดคอร์สไหว ก็ 120 ยูโร จัดไปครับ

City Break in Paris Restaurant 1 Michelin Star 14

อาหารและการตกแต่งจานที่ La Table d’Eugène

 

5.LA TABLE DU 11 ลาต๊าบลืดูอ๊งซ์

ร้านอาหารฝรั่งเศส $ $ $

City Break in Paris Restaurant 1 Michelin Star 17

La Table du 11 ซึ่งเป็นร้านอาหารที่พ่อครัวและคนกินมีความใกล้ชิดกัน เพราะที่นี่จัดห้องที่มีครัวแบบเปิดในบรรยากาศสบายๆ มีหัวหน้าพ่อครัวและเจ้าของคือ Jean-Baptiste Lavergne-Morazzani ได้รับรางวัล ดาวมิชลิน จากประสบการณ์อันยาวนานกว่าทศวรรษที่ทำงานภายใต้เชฟกอร์ดอนแรมเซย์ที่ร้าน Trianon Yannick Allénoที่โรงแรม Le Meurice และกับเชฟ Philippe Bélissent ที่Cobéa Lavergne-Morazzani เชฟได้มาเปิดกิจการที่เป็นอิสระเป็นเจ้าของด้วยตัวเองเป็นครั้งแรกซึ่งมีทำเลอยู่ที่เมืองแวร์ซายย์ หากท่านมีโปรแกรมไปเที่ยวชมพระราชวังแวร์ซายอยู่แล้วห้ามพลาดการได้ไปลองชิมฝีมือเชฟ Jean-Baptiste

 

6.LA TRUFFIÈRE ลาทรูฟแฟร์

ร้านอาหารฝรั่งเศส $ $ $

City Break in Paris Restaurant 1 Michelin Star 15

La Truffière เพิ่งต้อนรับหัวหน้าพ่อครัวคนใหม่ Christophe Poard ไม่นานนี้ ก่อนที่เขาจะมาปารีสเขาเคยทำงานในห้องครัวที่มีชื่อเสียงของ Casino de Deauville ซึ่งเป็นร้านอาหาร Schwarzwald stube ที่มีดาวสามดาวในเมือง Antwerp ในประเทศเบลเยี่ยม และก่อนหน้านั้นที่ Château d’Hassonville เมือง Carlsbad Plaza สาธารณรัฐเช็ก นับตั้งแต่การมาถึงของเขาที่ La Truffière

เขาได้ทำsignature menu ของเขาเพิ่มชื่อเสียงเพิ่มให้กับร้านนี้ เหมาะมากสำหรับคนรักอาหารทะเล และจานชีส signature menu สามคอร์สของร้านนี้สามารถลิ้มลองได้เพียง 40 ยูโร ในมื้อกลางวัน

City Break in Paris Restaurant 1 Michelin Star 1

ภายในร้าน La Truffière

City Break in Paris Restaurant 1 Michelin Star 10

จานปลาที่ La Truffière

 

7.SATURNE ซัตตูเอิน
ร้านอาหารฝรั่งเศส $ $ $

City Break in Paris Restaurant 1 Michelin Star 13

เชฟคู่หูที่อยู่เบื้องหลัง Saturne,ก็คือเชฟ Sven Chartier และเชฟ Ewen Le Moigne ดูมีความเรียบง่ายแต่มีคุณภาพเหนือที่ไหนๆ ผลิตภัณฑ์ที่พวกเขาใช้เป็นของตกแต่งทั้งหมดดูดีมีรสนิยมและมีเอกลักษณ์ยิ่งถ้าได้เห็นตัวเมนูของพวกเขาซึ่งสื่อให้เห็นถึงสิ่งที่ดีที่สุดในสิ่งที่นำเสนอของวันนั้นๆ ร้านอาหารเป็นที่นิยมมากของกลุ่มนักธุรกิจ เมนูอาหารกลางวันแบบสามคอร์สที่ราคาอยู่ที่ 45 ยูโรถือว่ายอดเยี่ยมและต้องลองเมนูอาหารกลางวันแบบ Carte Blanche ในราคา 85 ยูโร หรือถ้าเราเน้นมื้ออาหารค่ำงบประมาณก็เพิ่มขึ้นเล็กน้อยเท่านั้น

City Break in Paris Restaurant 1 Michelin Star 4

City Break in Paris Restaurant 1 Michelin Star 5

บรรยากาศภายในร้านที่เรียบง่าย

City Break in Paris Restaurant 1 Michelin Star 24

ด้านหน้าร้านอาหาร Saturne, ปารีส

 

8.Garance การองซ์
ร้านอาหารฝรั่งเศส $ $ $

City Break in Paris Restaurant 1 Michelin Star 20

Garanc เป็นของเชฟใหญ่ Guillaume Iskandar และ sommelier ผู้รู้ผู้กำกับซื้อเข้าดูแลและแนะนำไวน์ ชื่อGuillaume Muller ซึ่งเคยทำงานร่วมกับceleb chefคือ Alain Passard ที่ร้านอาหาร l’Arpège ซึ่งเป็นร้านมิเชลลินสามดาวของเขาได้ตัดสินใจมาเปิดร้านGaranc แห่งนี้ซึ่งตั้งอยู่ไม่ไกลจาก Les Invalides พวกเขาได้ร่วมกันสร้างประสบการณ์การรับประทานอาหารที่เบ็ดเสร็จในเรื่องการออกแบบและรสชาติที่ต้องจดจำเมนูอาหารกลางวันที่นี่เริ่มต้นเพียง 42 ยูโรส่วนมื้อเย็นก็เพิ่มขึ้นไม่มาก

City Break in Paris Restaurant 1 Michelin Star 7

คุณภาพอาหารที่สัมผัสได้

 

เจอกันคราวหน้าจะเป็นตอนจบของ City Break Paris จะปิดท้ายด้วย การแนะนำสุดยอดร้านอาหารฝรั่งเศสในปารีสที่ได้ดาวมิชลิน 3 ดวงซึ่งทั้งหมดมี 10 ร้านด้วยกัน เข้าconcept “ไปทั้งทีต้องมีซักมื้อ” ชื่อจั่วหัวBlogใหม่ในเร็วๆนี้ของผม ที่สามารถใช้เป็นคู่มือการไปกินร้านอาหารในต่างประเทศแบบรู้จริง ไม่ใช่แนะนำแต่ชื่อร้านแล้วไม่รู้จะสั่งอะไร จองอย่างไร งบประมาณเท่าไรต่อมื้อ

ดวงรายปักษ์ (วันที่ 16-30 พฤศจิกายน 2561)

หมอต้องดูดวงรายปักษ์สำหรับผู้ที่เกิดวันอาทิตย์–เสาร์ ประจำวันที่ 16-30 พฤศจิกายน 2561

Horoscope SUNDAY

วันอาทิตย์

การงาน

ช่วงเวลานี้เตรียมตัวรับความเปลี่ยนแปลงในทางที่ดีขึ้นของงาน ไม่ว่าจะเป็นงานใหม่หรือหน้าที่ใหม่ให้รับผิดชอบ ระวังมีปัญหากับเพื่อนร่วมงานเอาแน่เอานอนไม่ได้

การเงิน

เงินค่อนข้างฝืดเคืองไม่ควรจะลงทุนทำอะไรในช่วงนี้ จะหยิบยืมหาคนช่วยเหลือค่อนข้างยาก ต้องประหยัดไว้มากๆ

สุขภาพ

ร่างกายอ่อนแอเจ็บป่วยง่ายเหลือเกินบางคนมีเกณฑ์ต้องเข้าโรงพยาบาล อุบัติเหตุเกิดจากความใจร้อนของตัวเอง ทำอะไรช้าๆไว้จะดี

ความรัก

คนมีคู่คนรักไม่ค่อยสนใจกันเท่าที่ควร ต่างคนต่างทำหน้าที่ของตัวเอง ไม่มีเวลาหวานแหววกันเท่าที่ควร คนโสดจะต้องอยู่คนเดียวไปก่อนจะยังไม่เจอคนถูกใจ ตัวคนเดียวสบายใจกว่าเยอะ

Horoscope MONDAY

วันจันทร์

การงาน

เป็นช่วงขาขึ้นจะทำงานอะไรประสบผลสำเร็จดี ได้รับความไว้วางใจจากคนรอบข้าง มีเกณฑ์เลื่อนขั้นเลื่อนตำแหน่ง อย่าขี้เกียจไปเองแค่นั้นพอ

การเงิน

การเงินจับจ่ายใช้สอยได้สบายใจ ลงทุนค้าขายอะไรก็ดีหากใครลงทุนในหุ้นกองทุนช่วงนี้จะได้กำไร แบ่งเก็บให้ดี

สุขภาพ

ระวังเจ็บป่วยเกี่ยวกับช่องปาก ข้อมือ ข้อเท้า ไม่ได้เป็นอะไรหนักแต่จะเป็นให้รำคาญใจหาเวลาออกกำลังกายบ้างก็ดี

ความรัก

คนมีคู่คนรักขี้งอนขี้น้อยใจมาก พูดนิดพูดหน่อยไม่พอใจมีแต่ปัญหาระวังคำพูดกันให้มาก คนโสดระวังคนรักเก่าจะรีเทิร์นกลับมาให้ช้ำใจหรือนำเรื่องเดือดร้อนมาให้

Horoscope TUESDAY

วันอังคาร

การงาน

งานเยอะมากเป็นพิเศษ ทำอะไรต้องวางแผนกำหนดเวลาให้ดี ไม่เช่นนั้นแล้วจะทำให้งานเสีย บางคนได้เดินทางไกลจากงานที่ทำไปแล้วประสบผลสำเร็จดี

การเงิน

การเงินอยู่ในเกณฑ์ดี ระวังอย่าใช้เงินเกินตัวโดยเฉพาะเรื่องกินเรื่องเที่ยวจะหมดไปกับสิ่งเหล่านี้ไปมาก

สุขภาพ

สุขภาพแข็งแรงดีหากใครเจ็บป่วยอยู่ก็จะฟื้นตัวอย่างรวดเร็ว ระวังอุบัติเหตุบริเวณมือทั้งสองข้างเลือดตกยางออกได้

ความรัก

คนมีคู่คนรักพูดยากฟังยาก พูดดีไม่กี่คำก็กลายเป็นทะเลาะกัน ต่างฝ่ายต่างเอาแต่ใจไม่ยอมกันเลย ต้องใจเย็นใช้คำพูดให้ดี คนโสดจะเจอคนมาปั่นหัวเรื่องความรัก เดี๋ยวมาเดี๋ยวหายขาดความชัดเจน ระวังไว้มากๆ

Horoscope WEDNESDAY

วันพุธ

การงาน

ช่วงนี้เจอแรงกดดันจากคนรอบข้าง ไม่ว่าจะเป็นเรื่องงานหรือเรื่องส่วนตัวจะถูกจ้องจับผิดจนอึดอัดระวังตัวไว้มากๆ

การเงิน

การเงินทรงตัวไม่ดีไม่ร้ายไปกว่านี้ ให้ระวังในเรื่องทำธุรกรรมทางการเงินต่างๆมีเกณฑ์ผิดพลาดเสียเงินเสียทองได้

สุขภาพ

ระวังในเรื่องของความซุ่มซ่ามของตัวเองสะดุดล้ม เจ็บข้อเท้า ข้อเข่า ทำอะไรดูไม่ค่อยมีสตินัก สุขภาพแข็งแรงดี

ความรัก

คนมีคู่คนรักมีเกณฑ์จะมีคนมาทำให้หวั่นไหวหรือยุแยงทำให้เลิกกัน ขาดความเชื่อใจกัน ต้องมีสติอย่าใจร้อนใช้เหตุผลให้มาก คนโสดระวังเจอคนมีเจ้าของอยู่แล้วมาวุ่นวายจนทำให้ตัวเองเดือดร้อน

Horoscope THURSDAY

วันพฤหัส

การงาน

งานถือว่าเป็นช่วงเวลาที่ดีทำอะไรก็ประสบผลสำเร็จได้ดั่งใจ ได้รับความไว้วางใจจากคนรอบข้างมีเกณฑ์ได้งานใหม่โดยมีคนชักชวนให้ไปร่วมงาน ใครตกงานก็จะได้งานในช่วงนี้

การเงิน

การเงินอยู่ในสภาวะที่ตึงมือได้มาหมดไปเก็บไม่อยู่ ช่วงเวลานี้ควรเก็บเงิน ไม่ควรลงทุนทำอะไรทั้งสิ้น

สุขภาพ

สุขภาพค่อนข้างดี จะมีแค่เจ็บป่วยเล็กๆน้อยๆแต่ก็จะหายไป อุบัติเหตุแคล้วคลาดปลอดภัยดียกเว้นเสียแต่จะประมาทไปเองทำตัวเองเจ็บตัวมากกว่า

ความรัก

คนมีคู่คนรักจู้จี้จุกจิกจนรำคาญใจ ทะเลาะกันบ่อยครั้ง ต้องใช้เหตุผลอย่าใช้อารมณ์ไม่เช่นนั้นแล้วจะต่างคนต่างไป คนโสดยังต้องโสดไปก่อนเจอแต่คนไม่จริงใจมาๆหายๆ แถมรักเก่าก็มาวุ่นวายอยู่คนเดียวดีที่สุด

Horoscope FRIDAY

วันศุกร์

การงาน

ช่วงนี้งานเยอะเป็นพิเศษแต่ยิ่งทำยิ่งดีมีชื่อเสียงทำให้ได้รับโอกาสใหม่ๆในเรื่องของงาน ระวังในการทำงานเป็นทีมต้องสื่อสารให้ชัดเจนไม่เช่นนั้นจะผิดพลาดจนแก้ไขได้ยาก

การเงิน

เงินยังอยู่ในเกณฑ์ที่ดีใช้จ่ายได้ปกติ หากจะลงทุนทำอะไรลงทีละน้อยๆค่อยเป็นค่อยไปจะประสบผลสำเร็จ

สุขภาพ

ระวังอาการเจ็บป่วยตั้งแต่บริเวณต้นคอ ไหล่ หลัง หมอนรองกระดูก หาเวลายืดเส้นยืดสายบ้างอุบัติเหตุจากการกระแทกทำอะไรช้าๆไว้หน่อย

ความรัก

คนมีคู่คนรักยังรักกันดีแต่ไม่ค่อยมีเวลาให้กันเท่าที่ควร ต่างคนต่างยุ่งในหน้าที่ของตัวเอง ค่อยๆดูแลกันไป คนโสดจะเจอคนที่ถูกใจได้เริ่มต้นความรักครั้งใหม่แต่ก็ยังต้องดูกันไปเรื่อยๆอย่ารีบร้อน

Horoscope SATURDAY

วันเสาร์

การงาน

งานดูค่อนข้างหนักต้องทำอะไรหลายๆอย่างพร้อมกัน ผลงานไม่ได้ดั่งใจทำอะไรดูเหนื่อยขาดคนช่วยเหลือ ต้องใจเย็นและรักษาผลงานตัวเองให้ดีจะทำให้ผ่านไปได้

การเงิน

การเงินยังไปได้ดี แต่ก็ยังไม่เหมาะที่จะลงทุนทำอะไรในช่วงนี้ มีเกณฑ์ได้ลาภจากผู้ใหญ่หรือได้จากสิ่งศักดิ์สิทธิ์ที่นับถือ

สุขภาพ

สุขภาพค่อนข้างดี แต่ให้ระวังอุบัติเหตุช่วงนี้จะเจ็บตัวจากความรีบร้อนทำอะไรเร็วๆจนไม่ระวังตัวขาดสติต้องช้าๆใจเย็นๆมากกว่านี้

ความรัก

คนมีคู่คนรักดูแลเอาใจใส่กันดีรักกันหวานชื่น หากโกรธกันอยู่จะเป็นช่วงเวลาที่ดีในการง้อคืนดีคนโสดคนรักเก่าจะรีเทิร์นแถมเอาอกเอาใจทำตัวดีเป็นพิเศษ แต่แนะนำให้ดูไปก่อนหรืออยู่โสดได้จะดีกว่าครับ

Jim Thompson เปิดตัวเฟอร์นิเจอร์คอลเลคชั่นใหม่ ออกแบบโดย Ed Tuttle

จิม ทอมป์สัน ร่วมกับ มิสเตอร์ เอ็ด ทัตเทิล สถาปนิกชื่อดังระดับโลกจากกรุงปารีส เปิดตัว “จิม ทอมป์สัน เฟอร์นิเจอร์คอลเลคชั่น ออกแบบโดย Ed Tuttle” Ed Tuttle Furniture Collection อย่างเป็นทางการ

Jim Thompson Ed Tuttle Furniture 1

Jim Thompson Ed Tuttle Furniture 2

Jim Thompson Ed Tuttle Furniture 3

มิสเตอร์เอ็ด ทัตเทิล (Ed Tuttle) สถาปนิกที่ได้รับการยอมรับอย่างแพร่หลายถึงการเป็นผู้สร้างสรรค์ผลงานระดับลักชัวรี่ให้กับโรงแรมและที่พักอาศัยสุดเอ็กซ์คลูซีฟทั่วโลก โดยผลงานชิ้นมาสเตอร์พีซที่โดดเด่นและเป็นที่รู้จักมากที่สุด ได้แก่ ผลงานการออกแบบให้กับโรงแรมพาร์คไฮแอท ปารีส–วองโดม (Park Hyatt Paris-Vendome)โรงแรม พาร์ค ไฮแอท มิลาน (Park Hyatt Milan) และโครงการต่างๆ ของเครืออมัน (Aman Resorts Hotel) ที่ไว้วางใจให้เขาเป็นสถาปนิกผู้ออกแบบโรงแรมและรีสอร์ทสุดลักชัวรี่ที่ดำเนินกิจการอยู่ทั่วโลก โดยในหลายต่อหลายโครงการเขาได้เจาะจงเลือกใช้ผ้าของจิม ทอมป์สัน ในการสร้างสรรค์ผลงานแสนสง่างามมากมาย แสดงให้เห็นถึงความสัมพันธ์อันดีและแน่นแฟ้นระหว่างจิม ทอมป์สัน และเอ็ด ทัตเทิลที่มีมาอย่างยาวนาน และได้ถูกสานต่อจนเป็นแรงผลักดันในการสร้างสรรค์เฟอร์นิเจอร์สุดพิเศษร่วมกันในครั้งนี้

Jim Thompson Ed Tuttle Furniture 4

Jim Thompson Ed Tuttle Furniture 5

Jim Thompson Ed Tuttle Furniture 6

Jim Thompson Ed Tuttle Furniture 7

สำหรับ จิม ทอมป์สัน เฟอร์นิเจอร์คอลเลคชั่นออกแบบโดย Ed Tuttle นี้ นำเสนอเฟอร์นิเจอร์ไว้อย่างครบถ้วน ตั้งแต่เก้าอี้แบบมีที่เท้าแขนดีไซน์โก้หรู (Armchair) ไปจนถึงโซฟารูปทรงโดดเด่นตามสไตล์ของศิลปะเชิงนามธรรม และโต๊ะโมเสคฝังประดับพลอยเนื้ออ่อน โดยทั้งหมดนี้ได้รับแรงบันดาลใจมาจากภาพเงา (Silhouettes) ที่มีรูปทรงแปลกตาเกินคาดเดาผสานกับความดูดีในแบบมินิมัลลิสต์ที่ดูภูมิฐาน และทันสมัย ซึ่งสิ่งเหล่านี้ล้วนเป็นเอกลักษณ์ในการสร้างสรรค์ผลงานสถาปัตยกรรมและออกแบบภายในของเอ็ด นอกจากนี้ยังมีผลงานไอคอนนิคพีซอย่าง เก้าอี้ผ้าใบ “พัฒศรี”(Patsri) ที่โดดเด่นด้วยโครงเก้าอี้เนื้อไม้สักแท้ ซึ่งได้แรงบันดาลใจมาจากงานดีไซน์ต้นฉบับที่เขาเคยสร้างสรรค์ไว้ให้กับเรือมหาเภตรา เรือยอชท์ของครอบครัวเพื่อนรักอย่างคุณพัฒศรี บุนนาค อดีตนางแบบและสไตล์ไอคอนผู้มีชื่อเสียงของเมืองไทย

นอกจากเฟอร์นิเจอร์ที่กล่าวมาแล้ว สินค้าอื่นๆ ทุกชิ้นในคอลเลคชั่นนี้ ไม่ว่าจะเป็นของประดับบ้านชิ้นเล็กอย่างโต๊ะข้าง (Side Table) และโคมไฟ ก็ล้วนแต่เลือกใช้วัสดุชั้นเลิศและมีความโดดเด่นด้วยกันทั้งสิ้น ไม่ว่าจะเป็นโต๊ะข้าง “ออร์แกนิก แพร์เทเบิ้ล” (Organic Pair Table) ที่เป็นโต๊ะหินแกรนิตแอฟริกันตกแต่งผิวด้วยโลหะทองแดงในลุคแอนทีคอย่างมีรสนิยม ในขณะที่โต๊ะ “เกอริดอน”(Geuridon) ได้นำไม้มะฮอกกานีของไทยมาทำเป็นส่วนขาโต๊ะผสานเข้ากับหน้าโต๊ะที่ทำจากกระจกนิรภัย (Tempered Glass) สีดำตกแต่งรายละเอียดด้วยสแตนเลสสตีล สำหรับโคมไฟแบบต่างๆ ถูกสร้างสรรค์ขึ้นจากผ้าไหมไทยทอมือสุดประณีตในเฉดสีที่แตกต่างกัน โดยตั้งอยู่บนฐานไม้มะฮอกกานีตกแต่งขอบด้วยทองแดงอย่างบรรจง

Jim Thompson Ed Tuttle Furniture 8

Jim Thompson Ed Tuttle Furniture 9

Jim Thompson Ed Tuttle Furniture 10

และเพื่อให้เห็นภาพชัดเจนถึงการใช้งานเฟอร์นิเจอร์ชิ้นต่างๆ จาก จิม ทอมป์สัน เฟอร์นิเจอร์คอลเลคชั่น ออกแบบโดย Ed Tuttle มากยิ่งขึ้น เอ็ดยังได้ออกแบบและจัดแสดงสไตล์การใช้งานไว้ 4 รูปแบบ ณ โชว์รูมสินค้าตกแต่งบ้าน จิม ทอมป์สัน บนถนนสุรวงศ์ กรุงเทพมหานคร (Jim Thompson Home Furnishings Showroom) โดยนำเสนอทุกผลงานที่เขาได้ออกแบบให้กับจิม ทอมป์สัน ครบทั้งคอลเลคชั่น โดยได้จัดวางอย่างลงตัวกับผ้าตกแต่งผนังและบานกรุสิ่งทอ ตลอดจนผลงานศิลปะร่วมสมัยจากภูมิภาคเอเชียอาคเนย์ ที่เขาเป็นผู้เลือกสรรมาด้วยตนเอง ซึ่งผลงานศิลปะเหล่านี้ล้วนเป็นของหายากทรงคุณค่าและเป็นของสะสมของครอบครัวของคุณเอริค บุนนาค บู๊ทซ์ รวมถึงมาจากแกลเลอรี่ส่วนตัวของบุคคลท่านอื่นๆ ในประเทศไทย ที่ได้อนุญาตให้จิม ทอมป์สัน ยืมใช้จัดแสดงในครั้งนี้ อาทิ ‘Offering Vessel’ โดย คุณพินรี สัณฑ์พิทักษ์ ‘Already There’ โดย คุณคามิน เลิศชัยประเสริฐ และ ‘Untitled’ โดยนักออกแบบระดับไอคอนของเมืองไทยอย่าง คุณนคร สัมพันธารักษ์ ซึ่งเอ็ดได้บอกเล่าความรู้สึกที่ได้จัดแสดงครั้งนี้ว่า “งานศิลปะเหล่านี้ช่วยส่งเสริมและเติมเต็ม ทำให้ห้องดูมีชีวิตอย่างแท้จริง”

จิม ทอมป์สัน ยังได้เปิดตัวผ้าตกแต่งบ้านดีไซน์ใหม่ ภายใต้ชื่อ“ไรซ์ (Rice)” ซึ่งมีให้เลือกถึง 22 เฉดสี โดยคุณเอ็ด ทำหน้าที่เป็นผู้กำหนดแนวคิด และจิม ทอมป์สันได้บรรจงถักทอขึ้นเป็นผ้าไหมทอมือเนื้อผสมซึ่งผ้าผืนนี้ได้ทำหน้าที่เพิ่มความสมบูรณ์แบบให้กับเฟอร์นิเจอร์ในคอลเลคชั่นจิม ทอมป์สัน เฟอร์นิเจอร์คอลเลคชั่น ออกแบบโดย Ed Tuttle โดยเฉพาะ ด้วยผิวสัมผัสสวยงามสว่างสุกใสและลักษณะของผ้าที่ดูเรียบง่ายแต่เปี่ยมด้วยรสนิยมรวมถึงเส้นใยธรรมชาติที่ใช้เป็นด้ายยืนและด้ายพุ่งจนทำให้ “ไรซ์” เป็นองค์ประกอบสำคัญ ที่ทำให้เกิดโครงสร้างอันซับซ้อนสวยงามเหนือคำบรรยาย ที่ปรากฏอยู่ในงานดีไซน์เฟอร์นิเจอร์ทุกชิ้นได้อย่างสมบูรณ์แบบ

ผู้ที่สนใจสามารถเลือกชม “จิม ทอมป์สัน เฟอร์นิเจอร์คอลเลคชั่น ออกแบบโดย Ed Tuttle (Ed Tuttle Furniture Collection)” ได้ที่โชว์รูมผ้าตกแต่งบ้าน จิม ทอมป์สัน (Jim Thompson Home Furnishings Showroom) ชั้น 3 ร้านจิม ทอมป์สัน สาขาสุรวงศ์ สอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมโทร. 02-632-8110 และอีเมล์: showroom@jimthompson.com

ดวงรายปักษ์ (วันที่ 1-16 พฤศจิกายน 2561)

หมอต้องดูดวงรายปักษ์สำหรับผู้ที่เกิดวันอาทิตย์–เสาร์ ประจำวันที่ 1-16 พฤศจิกายน 2561

Horoscope SUNDAY

วันอาทิตย์

การงาน

การงานอยู่ในช่วงที่ดี ทำอะไรประสบผลสำเร็จได้ดั่งใจ งานอะไรที่เคยติดขัดจะเปลี่ยนไปทางที่ดีขึ้น เพื่อนร่วมงาน ผู้บังคับบัญชาให้ความร่วมมือเป็นอย่างดี

การเงิน

การเงินค่อนข้างดี แต่ก็ยังมีค่าใช้จ่ายรออยู่มาก เงินหมุนเข้าหมุนออกเก็บไม่ค่อยได้ แนะนำแบ่งเก็บให้มากขึ้น

สุขภาพ

ระวังเจ็บป่วยเกี่ยวกับช่องท้อง ร่างกายอ่อนเพลียง่าย หน้ามืดบ้านหมุน ต้องพักผ่อนมากๆ

ความรัก

คนมีคู่คนรักคนรักไม่ค่อยมีเวลาให้เท่าที่ควร แต่ก็ยังรักกันดีอยู่ หาเวลาดูแลกันให้มากขึ้น คนโสดจะยังต้องอยู่คนเดียวไปก่อน มีคนเข้ามาคุยอยู่บ้างแต่ก็ได้แค่คุย

Horoscope MONDAY

วันจันทร์

การงาน

งานค่อนข้างยุ่งวุ่นวายแถมบรรยากาศการทำงานไม่ค่อยดีนัก ระวังความใจร้อนขี้หงุดหงิดจะทำให้แย่ลงมากกว่าเดิม

การเงิน

การเงินค่อนข้างมีปัญหาต้องระมัดระวังการใช้จ่าย จะหมดไปกับของฟุ่มเฟือย ท่องเที่ยวเดินทาง

สุขภาพ

ระวังเจ็บป่วยเกี่ยวกับศีรษะ ปวดหัวไมเกรน ระบบทางเดินหายใจ ทำอะไรเหนื่อยง่าย

ความรัก

คนมีคู่คนรักค่อนข้างเอาแต่ใจมีปากเสียงกันบ่อยครั้ง ต้องใจเย็น พูดคุยกันให้ดี คนโสดระวังเจอคนมีเจ้าของมายุ่งวุ่นวายทำให้เดือดร้อน

Horoscope TUESDAY

วันอังคาร

การงาน

งานค่อนข้างติดขัดไม่ได้ดั่งใจ จะทำอะไรกว่าจะสำเร็จค่อนข้างช้า แต่ยังดีที่คนรอบข้างยังให้การสนับสนุน ใครจะเปลี่ยนงานย้ายงานควรหยุดไว้ก่อนมีเกณฑ์ตกงานสูง

การเงิน

การเงินค่อนข้างดี ลงทุนค้าขายได้กำไร แต่ก็มีมากใช้มากเก็บได้น้อย มีโชคลาภจากการเดินทาง

สุขภาพ

เจ็บป่วยง่ายเป็นพิเศษ ทั้งการปวดเนื้อปวดตัว เป็นหวัดง่าย ต้องดูแลตัวเองมากขึ้น อุบัติเหตุให้ระวังเกี่ยวกับน้ำลื่นล้ม

ความรัก

คนมีคู่คนรักมีปากเสียงกันบ่อยครั้งจากการประชดประชันเจ้าอารมณ์ ถ้าไม่ระวังจะถึงขั้นจบความสัมพันธ์กันได้ คนโสดจะมีคนอายุมากกว่ามาให้ความสนใจได้เริ่มต้นความรักครั้งใหม่

Horoscope WEDNESDAY

วันพุธ

การงาน

ช่วงเวลานี้คนวันพุธจะค่อนข้างใจร้อนหงุดหงิดง่าย ทำให้งานอะไรที่ทำอยู่จะมีปัญหาทั้งตัวงานและคนรอบข้าง ใครจะเปลี่ยนงานให้ระวังมีเกณฑ์ตกงาน

การเงิน

การเงินค่อนข้างดี ลงทุน ค้าขาย จะได้กำไรดีในช่วงนี้ ระวังเรื่องการหยิบยืมจะทำให้ตัวเองเดือดร้อน

สุขภาพ

ระวังเจ็บป่วยเกี่ยวกับช่องท้อง พักผ่อนน้อยอ่อนเพลียง่าย อุบัติเหตุระวังตกจากที่สูงหรือทางต่างระดับ จะเจ็บตัวหนัก

ความรัก

คนมีคู่คนรักต่างคนต่างอยู่ ไม่เอาใจใส่กันเท่าที่ควร ระวังคำพูดคำจาจะทะเลาะกันใหญ่โต คนโสดจะมีเสน่ห์มากมีคนเข้าหาแต่ก็ยังไม่ถูกใจใคร

Horoscope THURSDAY

วันพฤหัส

การงาน

งานอะไรที่ยังติดขัดช่วงนี้จะมีการเปลี่ยนแปลงที่ดีขึ้น ทำอะไรสำเร็จได้ดั่งใจ หากใครคิดเริ่มต้นทำอะไรใหม่ๆวางแผนให้ดีจะสำเร็จได้โดยง่าย

การเงิน

การเงินอยู่ในช่วงที่ดีมีเกณฑ์ได้ทรัพย์สินใหม่ แต่อย่าใช้จ่ายเกินตัวจะทำให้ตัวเองลำบากได้

สุขภาพ

ระวังอุบัติเหตุจากสัตว์สี่เท้า รถสองล้อ สุขภาพให้ระวังเจ็บป่วยเกี่ยวกับแผ่นหลัง

ความรัก

คนมีคู่คนรักเอาแต่ใจพูดยากฟังยาก จะต้องใจเย็นยิ่งใช้อารมณ์จะยิ่งแย่ คนโสดจะเป็นช่วงที่อยู่โสดแล้วดีระวังคนรักเก่ารีเทิร์นทำให้ช้ำใจ

Horoscope FRIDAY

วันศุกร์

การงาน

ช่วงนี้ถือว่างานรุ่งสุดๆทำอะไรสำเร็จได้ดั่งใจ แต่ต้องแบ่งเวลาให้ดีเพราะจะยุ่งจนไม่มีเวลาทำอะไรเลย เพราะต้องทำอะไรหลายๆอย่างพร้อมกันแถมไม่มีใครช่วยเท่าที่ควร

การเงิน

การเงินค่อนข้างดีมีโชคจากการค้าขายลงทุนหรือเสี่ยงโชค แต่ให้ระวังในการลงทุนร่วมกับคนอื่นจะโดนโกงโดนหักหลังระวังไว้มากๆ

สุขภาพ

สุขภาพเจ็บป่วยอ่อนเพลียได้ง่าย ควรดูแลตัวเองให้มากขึ้น ระวังอุบัติเหตุจากความประมาทของตัวเอง

ความรัก

คนมีคู่คนรักอยู่กันอย่างเรียบง่ายไม่ค่อยดูแลกันเท่าที่ควร คนโสดจะเจอคนถูกใจพัฒนาความสัมพันธ์ครั้งใหม่ที่ดีกว่าเดิม

Horoscope SATURDAY

วันเสาร์

การงาน

งานค่อนข้างดีอะไรที่ทำอยู่จะสำเร็จได้ดั่งใจ ได้เริ่มต้นสิ่งใหม่ ช่วงนี้ทำอะไรต้องวางแผนแบ่งเวลาให้ดี ระวังคำพูดจะทำให้มีปัญหากับคนรอบข้าง

การเงิน

การเงินค่อนข้างดีมีรายได้มากกว่าหนึ่งทางหรือลงทุนอะไรก็ได้ดั่งใจ แต่ถึงได้มาก็ออกไปยังเก็บไม่ค่อยได้เท่าที่ควร

สุขภาพ

ระวังเกี่ยวกับดวงตา กล้ามเนื้อ ทำอะไรต้องระวังตัวมากๆ อุบัติเหตุจากความซุ่มซ่ามใจร้อนของตัวเอง

ความรัก

คนมีคู่คนรักอารมณ์แปรปรวนเดี๋ยวดีเดี๋ยวร้าย ต้องใจเย็นมีปัญหาอะไรต้องค่อยๆคุยกัน คนโสดจะเจอรักเพื่อเลือก มีคนเข้ามาหามากแต่ก็ไม่ได้สนใจใคร ความรักขาดความชัดเจน

City Break Paris Part XXXVII

By Pusit Sansopone

เบรกเที่ยวในกรุงปารีส ตอนที่ 37

Dinner in Paris (Brasserie ตอนที่ 2)
คราวที่แล้วพูดถึงที่มาของบราเซรี่และมีการแนะนำ Brasserie แบบแรกไปคือแบบที่อยู่บริเวณสถานีรถไฟ มาตอน 2 นี้จะแนะนำบราเซรีแบบสุดคลาสสิก 8 แห่งของกรุงปารีสที่มีการตกแต่งร้านตรงกับยุคที่บราเซรี่ถือกำเนิดมาก็คือยุคศิลปะและสถาปัตยกรรมแบบ Art Deco และArt Nuevo ในสมัย Le Bell Époque ที่ปารีสรุ่งเรืองกว่าเมืองไหนๆในยุโรป

1. La Fermette Marbeuf อยู่แถว ถนนช็องเซลีเซ

City Break Paris Part 37 Dinner In Paris 2

La Fermette Marbeuf คือร้านอาหารในกรุงปารีสยุคปี 1900 ที่ห่างจากถนนหลักอย่าง Avenue George V และ Champs-Elysees เพียงไม่กี่ก้าว มันเป็นตัวแทนของร้านบราเซรี่ของยุค Belle Epoque ของศตวรรษที่ผ่านมาอย่างแท้จริง และเมื่อประมาณ 30 ปีที่แล้วได้มีการค้นพบวัสดุตกแต่งของเดิมในยุคก่อนที่ถูกเก็บไว้ แทบจะเป็นเหมือนกับการค้นพบใหม่ของสุสานตุตันคาเมนเลยทีเดียว มันมีวัสดุ เช่น โมเสคยุคอาร์ตนูโว กระจกลายอาร์ตนูโวลวดลายดอกทานตะวัน ลายนกยูง แมลงปอ และผู้หญิงสวย ตลอดจนเสาเหล็กหล่อและเพดานแก้วที่สามารถนำมาตกแต่งใหม่ได้ทั้งหมด

พ่อครัว Gilbert Isaac ก็ยังคงยึดติดกับอาหารคลาสสิกแบบฝรั่งเศส เช่น เนื้อไก่ผสมตับอ่อนกับหอมผัดมัสตาร์ด ปลากระพงย่างทั้งตัวในโป๊ยกั๊กและ Baba Rhum และที่นี่ก็ยังคงเป็นฮอตสปอตสำหรับคนดังในฝรั่งเศสที่จะปรากฏตัวให้เห็นที่ร้านนี้อยู่เสมอ

City Break Paris Part 37 Dinner In Paris 3

Coq au vin ที่  La Fermette Marbeuf ในหม้อเหล็กหล่อยี่ห้อ STAUB จากแค้วน Alsace เช่นเดียวกับต้นฉบับของร้านแบบ  Brasserie

 

2. Chez Jenny ในย่าน Folie-Méricourt

City Break Paris Part 37 Dinner In Paris 4

บราเซรี่ที่มีเสน่ห์และมีคุณค่าทางประวัติศาสตร์แห่งนี้เกิดขึ้นในช่วงปี 1930 แล้วก็เติบโตขึ้นมาต่อเนื่อง เริ่มต้นจากการเป็นร้านอาหารที่โรเบิร์ตเจนนี่ ชาวสตราสบูร์กผู้ก่อตั้ง ได้ทุ่มเทตั้งใจพิสูจน์ฝีมือจน Chez Jenny นั้นไม่ต้องพิสูจน์อะไรอีกแล้ว มันติดลมบนแบบถ้าไม่มีการจองโต๊ะคงจะมีที่นั่งลำบาก ร้านตกแต่งด้วยประดับตกแต่งด้วยโทนสีแดงสว่างไสว ดูมีเสน่ห์แบบร้านโบราณที่มีความขลัง มาลองอาหารแบบอัลซาสที่นี่ไม่ผิดหวังแน่นอน

City Break Paris Part 37 Dinner In Paris 5

Choucroute Strasbourgeoise

City Break Paris Part 37 Dinner In Paris 6

Chez Jenny ยังคงให้บริการอาหาร Alsatian ที่ดีที่สุดแก่ลูกค้าที่ภักดีเสิร์ฟโดยพนักงานเสิร์ฟในชุดประจำถิ่นอัลซาส ต้องลองอาหารที่เป็นไส้กรอกอัลซาสกับมันฝรั่ง จานหลักก็ต้องหมูย่างคาราเมลกับน้ำผึ้งในกะหล่ำปลีดองที่ยอดเยี่ยมและตบท้ายด้วยพุดดิ้งลูกแพร์ตุ๋นกับ Sorbet ลูกแพร์ และ Eau de vie

 

3. Bofinger ย่านเลอมาเร่ส์

City Break Paris Part 37 Dinner In Paris 7

ประวัติร้านนี้เริ่มจากเจ้าของคนแรกที่ชื่อ Bofinger เดิมหนีออกจากบ้านของเขาที่ Alsace ในช่วงสงครามมาตั้งรกรากในปารีส แต่ร้านนี้ก็มีการเปลี่ยนเจ้าของมาหลายครั้ง แต่ยังคงรักษาคุณภาพที่ไร้ที่ติ

Bofinger ดึงดูดฝูงชนจำนวนมากมารับบรรยากาศแบบอาร์ตนูโวที่แท้จริงที่เป็นบรรยากาศของบราสเซอรี่แท้ๆ ในยุค Bell Époque มาที่นี่ควรนั่งชั้นล่างเพื่อบรรยากาศดีที่สุดในการรับประทานอาหาร และถ้าคุณสามารถขอให้นั่งในห้องอาหารหลักใต้โดมกระจกเพื่อประสบการณ์โรแมนติกอย่างแท้จริงก็จะถือว่าไม่เสียเที่ยว

City Break Paris Part 37 Dinner In Paris 8

การเลือกเมนูตามสั่งอาจเริ่มต้นด้วย Langoustine Terrine ตามด้วยปลาแซลมอนทาร์ทปรุงรสเข้มข้น และสเต็กปลา หรือตับของลูกวัวพร้อมกับแตงโมปรุงสุก อีกทางเลือกหนึ่งคือคุณอาจจะทานหอยนางรม ตามด้วยเนื้อสเต็กเนื้อแกะก็ได้ตามด้วย Cheese Plate ก่อนจบด้วยของหวาน

City Break Paris Part 37 Dinner In Paris 9

 

4. La Coupole ย่าน Montparnasse

City Break Paris Part 37 Dinner In Paris 10

La Coupole ใน Montparnasse เป็นบราเซรี่ตกแต่งแบบอาร์ตเดคโคที่ได้รับการยกย่องอย่างไม่ธรรมดา ไม่ว่าในเรื่องความอร่อยของรสชาติอาหารและบรรยากาศในห้องอาหารอันกว้างขวางที่ได้รับการตกแต่งอย่างพิถีพิถัน ถือเป็นแถวหน้าของศิลปะย่าน Rive Gauche ที่บรรดาศิลปินอย่าง Picasso, Jean-Paul Sartre และ Simone de Beauvoir เคยพำนักอยู่และเคยป็นลูกค้าประจำที่นี่ ผู้คนมาที่นี่จากทั่วทุกมุมโลกเพื่อประทับใจกับความงดงามของมัน พื้นที่ทั้งหมด 1000 ตารางเมตรและมีเสาเกะกะอยู่ถึง 33 ต้น เปิดบริการตั้งแต่ปี 1927 แต่เหมือนว่ายิ่งเปิดนานยิ่งดัง อาจเป็นเพราะราคาไม่แพงมาก คุ้มค่าการมาเยือน

City Break Paris Part 37 Dinner In Paris 11

City Break Paris Part 37 Dinner In Paris 12

 

5. Brasserie Julien ย่าน Strasbourg-Saint-Denis

City Break Paris Part 37 Dinner In Paris 1

Brasserie Julien หนึ่งในร้านอาหารที่สวยที่สุดในปารีสที่เต็มไปด้วยเสน่ห์แบบอาร์ตนูโว จากเส้นโค้งที่เต็มไปด้วยความรู้สึกของประตูไปยังกระจกแกะสลักอันงดงาม สีโทนอัญมณีสีเขียว ให้ความรู้สึกหนักแน่น มีผนังที่ทาสีอย่างพิถีพิถันตัดกับแถบไม้มะฮอกกานีและพื้นกระเบื้องโมเสคที่มีรายละเอียดแบบมหัศจรรย์ Brasserie Julien เป็นต้นแบบของการศึกษาศิลปในรูปแบบของปารีสแห่งยุค 1900

City Break Paris Part 37 Dinner In Paris 13

ร้านอาหารแห่งนี้เหมือนจะพานักกินให้ได้เดินทางสู่ความรุ่งเรืองของเมืองปารีสในอดีตในยุคแรกที่มีดนตรีแจ๊สและนักเขียนเฮมิงเวย์รวมทั้งนักวาดที่ชื่อปีกัสโซ ดู Brasserie Julien ได้สร้างรูปแบบอาหารที่หรูหราตามแบบฉบับของสไตล์และรสชาติของกรุงปารีสอย่างแท้จริง

 

6. ร้าน Brasserie Floderer หรือเมื่อก่อนนี้เรียกว่าBrasserie Flo, ย่าน Strasbourg-Saint-Denis

City Break Paris Part 37 Dinner In Paris 14

คุ้มค่ากับการค้นหา เหมือนกับคุณได้พบโลกที่ยังยืนนิ่งอยู่ Brasserie Flo เป็นแรงบันดาลใจจากเจ้าของที่เคยทำโรงเบียร์ในเขต Alsace เป็นเวลาหลายปีจึงมีการผสมผสานกันอย่างลงตัวระหว่างอาหารฝรั่งเศสและเยอรมันทำให้ร้านไดเนอร์สแห่งนี้มีความน่าสนใจเป็นอย่างยิ่ง สำหรับนักกินและนักดื่ม

City Break Paris Part 37 Dinner In Paris 15

เมนูที่ทันสมัยของ Brasserie Flo เหมือนเป็นส่วนผสมนานาชาติที่ดีที่สุดจากการสร้างสรรค์อาหารที่คัดสรรมาอย่างดี ในช่วง Paris Fashion Week จะหาโต๊ะยากหน่อยเพราะผู้ที่เคยมาแล้วมักกลับมาซ้ำต่อเนื่อง ต้องลองสั่ง Foie gras และ Chateaubriand Steak ที่นี่

City Break Paris Part 37 Dinner In Paris 16

 

7. ร้าน Le Vaudeville

ร้านอาหาร อันงดงามแห่งนี้ถ้าได้ไปเยี่ยมก็จะเหมือนเราได้ย้อนเวลากลับไปในปี 1920 ที่กรุงปารีส ได้รับการออกแบบโดยทีมงานเดียวกันที่อยู่เบื้องหลังร้าน La Coupole (บราเซอรี่ที่เอ่ยถึงก่อนหน้า) ใช้แรงบันดาลใจและความคิดสร้างสรรค์จากโรงละครเก่าที่อยู่ติดกัน สามารถดึงดูดคนในท้องถิ่นที่สนใจจานหอยนางรมสด, ซุปหอมหอมและสเต็กทาร์ตาร์อาจต่อด้วยเนื้อลูกวัวแม้สั่งเยอะก็ไม่ต้องกลัวว่าต่องจ่ายเยอะ เพราะราคาถือว่ารับได้ทีเดียว

City Break Paris Part 37 Dinner In Paris 17

 

8. ร้าน La Rotonde
ร้านอาหารที่ไม่มีวันตกต่ำราคาไม่แพงแต่หรูหราและอร่อยอย่างนี้ เป็นหนึ่งในร้านอาหาร Brasseries ที่ดีที่สุดในกรุงปารีส ตั้งอยู่ใกล้กับ Rue de la Gaite อยู่ในย่านธุรกิจมานานกว่าศตวรรษและตั้งอยู่ใกล้ย่าน Montparnasse อันทันสมัย ตกแต่งบุภายในด้วยกำมะหยี่สีทับทิมและอุปกรณ์ทองเหลืองเป็นสถานที่ที่ค่อนข้างสมบูรณ์แบบสไตล์คลาสสิกแบบฝรั่งเศส เปิดให้บริการจนถึง 2 นาฬิกาของวันใหม่

City Break Paris Part 37 Dinner In Paris 18

City Break Paris Part 37 Dinner In Paris 19

รูปนี้เป็นรูปที่ช่างภาพหนังสือพิมพิ์ฝรั่งเศส ถ่ายภาพประธานาธิบดีมาครงไว้เมื่อครั้งมารับประธานอาหารที่ร้าน La Rotonde

Breakfast Strata (Savory Bread Pudding)

สวัสดีค่ะ วันนี้เอาเมนูไข่ที่ชอบมากมาฝากค่ะ

Le Creuset Breakfast Strata 1

Le Creuset Breakfast Strata 2

ชอบตรงที่มันสะดวก เตรียมไว้ล่วงหน้าได้ จะเสิร์ฟเป็นอาหารเช้าก็ได้ เป็นอาหารงานเลี้ยงมื้อกลางวันก็ได้ จะใส่ไส้อะไรก็ได้หลากหลาย ตามแต่ของที่เรามีอยู่ในบ้าน อารมณ์ประมาณคล้ายๆ กับทาน คีช Quiche แต่ไม่ต้องยุ่งยากทำแป้งพาย

เหมาะมากสำหรับคนที่มีเวลาน้อย เราเตรียมส่วนผสมนี้ใส่ตู้เย็นไว้ก่อนนอน เช้ามาในระหว่างที่เตรียมของอย่างอื่น หรือต้มกาแฟ ก็เอาใส่เตาอบไว้ ใช้เวลาแค่ 20 นาทีหรือกว่านิดหน่อย ก็ได้อาหารเช้า หรืออาหารเลี้ยงแขกที่เรียกเสียงว้าวจากทุกคนได้แล้ว

ตอนที่ออกจากเตา หอมชีส หอมความอร่อย ข้างบนฟูๆ นี่ …..สุดจะบรรยายเลย !

Le Creuset Breakfast Strata 3

Le Creuset Breakfast Strata 4

Breakfast Strata (Savory Bread Pudding)

ส่วนผสม :

สำหรับใส่ใน Le Creuset Cocotte จำนวน 5 ใบ

ไข่ 4 ฟอง นม 1 ถ้วย ครีม 1 ถ้วย
แป้งอเนกประสงค์ 2 ช้อนโต๊ะครึ่ง (ข้อนี้ถ้าไม่ชอบตัดออกได้)
ขนมปังเก่าสักวันสองวัน เอาขอบ (เปลือก) ออก ในที่นี้ใช้ขนมปังโฮลวีท
หัวหอมใหญ่ สับหยาบๆ ชีสขูด เช่น Cheddar cheese, parmesan, Gruyère, Ricotta
ไส้ที่จะใส่ สามารถพลิกแพลงไปได้ตามชอบ เช่น เห็ดผัดกับน้ำมันมะกอก เกลือ พริกไทย ใส่ใบพาร์สลี่ย์สับ หรือ แฮมหั่นเต๋า หรือผักขมลวกบีบน้ำออก ผัดกับน้ำมันมะกอก กระเทียม/ พริกหวานย่าง/ เบคอนผัดกับหอมใหญ่/ ไก่ย่างฉีกเป็นเส้นๆ / ไส้กรอกหั่นเต๋าผัด

ที่ทำวันนี้เราใส่ เบคอนผัดกับหอมใหญ่ ผัดจนหอมใหญ่นิ่มเป็นสีน้ำตาลสวย แล้วใส่ มะเขือเทศอบแห้ง (sun-dried tomato)

วิธีทำ :
ตีไข่พอแตก เติมแป้ง คนให้เข้ากัน แล้วเติมนม ปรุงรสด้วยเกลือ พริกไทย ถ้าชอบรสจัด อาจเติมผง All spice, Cajun powder หรือ nutmeg ตีหรือคนให้จนส่วนผสมเข้ากันดี
หั่นขนมปังให้เป็นแผ่นบางๆ เรียงไว้ที่ก้นถ้วย ราดด้วยส่วนผสมนมและไข่ที่เตรียมไว้พอให้ชุ่ม

จากนั้นเรียงส่วนผสมที่เราเตรียมไว้สำหรับให้เป็นไส้ โรยชีส ครึ่งหนึ่งของที่ขูดเตรียมไว้ แล้วเรียงขนมปังที่หั่นเป็นแผ่นไว้ทับลงไปอีกชั้น กดให้แน่นๆ แล้วราดด้วยส่วนผสมนมกับไข่อีกครั้ง

โรยทับด้วยชีสที่เหลือ ปิดด้วยกระดาษแรป หรือฝา พักไว้ในตู้เย็นอย่างน้อย 1 ชั่วโมง หรือถ้าจะให้ดี ก็พักไว้หนึ่งคืนในตู้เย็น

วางบนถาด แล้วเข้าอบที่ไฟ 180 องศามีพัดลมช่วย ใช้เวลา 20-23 นาที แล้วแต่ความร้อนของเตาแต่ละบ้าน ถ้าหากใส่ในภาชนะที่ใหญ่กว่านี้ ชามเดียวเลย ก็ให้เพิ่มเวลาอบออกไป

 

สังเกตุว่าได้ที่แล้ว เมื่อชีสข้างหน้าเป็นสีน้ำตาลทอง ส่งกลิ่นหอมฟุ้งน่ารับประทาน

 

สอบถามข้อมูล หรือติดตามข่าวสารผลิตภัณฑ์เครื่องครัว เลอ ครูเซได้ที่
Facebook:https://Facebook.com/LeCreusetThailand

Instagram: https://www.instagram.com/lecreuset_thailand

Line: Le Creuset Thailand

Tel No.: +669 3131 8876

 

Le Creuset LOGO

Traveloka พาเที่ยว นอนฟิน กินฟรี ทริปนี้ที่ LALA MUKHA TENTED RESORT KHAO YAI

Traveloka (ทราเวลโลก้า) ผู้ให้บริการจองตั๋วเครื่องบินและที่พักออนไลน์ชั้นนำ (Online Travel Agency หรือ OTA) และยังเป็นอันดับหนึ่ง บริษัทด้านเทคโนโลยีที่เติบโตเร็วที่สุดในในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ ได้จัดกิจกรรม “Traveloka พาเที่ยว นอนฟิน กินฟรี ทริปนี้ที่ LALA MUKHA TENTED RESORT KHAO YAI” โดยได้พาสื่อมวลชนร่วมทริปเขาใหญ่ สถานที่ท่องเที่ยวสุดฮิตใกล้กรุงเทพฯ ในช่วงกรีนซีซั่นนี้ พร้อมสัมผัสประสบการณ์นอนเต็นท์ซาฟารีแบบ Glamping เหมาะกับไลฟ์สไตล์คนเมืองที่ต้องการพักผ่อนท่ามกลางธรรมชาติ ณ ลาลา มูก้า เต็นท์ รีสอร์ท เขาใหญ่ ซึ่งกิจกรรมในครั้งนี้นับเป็นการจัดทริปพาสื่อมวลชนไปเที่ยวเป็นครั้งแรกของ Traveloka

Traveloka Trip at Lalamukha 1

ซึ่งทริปดังกล่าวนี้ เราได้เริ่มออกเดินทางจากกรุงเทพเมื่อวันที่ 16 สิงหาคม 2018 ประมาณ 9 โมงเช้า มุ่งตรงสู่เขาใหญ่โดยใช้เวลาเดินทางประมาณ 2 ชั่วโมง เนื่องจากทริปนี้เน้นเรื่องกิน ฟินเรื่องพักผ่อน ดังนั้นสถานที่แรกที่เราทำการเช็คอินคือร้านจันผา เขาใหญ่ ซึ่งเป็นร้านอาหารชื่อดังในเขาใหญ่ไม่ว่าใครได้มาเที่ยวไม่ควรพลาดที่จะแวะลิ้มรสชาติความอร่อยเด็ดขาด

Traveloka Trip at Lalamukha 13

Traveloka Trip at Lalamukha 5

Traveloka Trip at Lalamukha 3

Traveloka Trip at Lalamukha 2

Traveloka Trip at Lalamukha 14

Traveloka Trip at Lalamukha 4

หลังจากอิ่มท้องกันแล้วก็มุ่งตรงสู่ที่พักและเพื่อให้สื่อมวลชนทุกท่านได้พักผ่อนท่ามกลางธรรมชาติในรูปแบบประสบการณ์ที่แตกต่าง ที่พักจึงเป็นแบบ Glamping หรือที่พักแบบเต็นท์หรูติดแอร์ ณ ลาลา มูก้า เต็นท์ รีสอร์ท เขาใหญ่ที่ออกแบบในสไตล์โมเดิร์นผสานกลิ่นอายซาฟารีอย่างลงตัว โดยในห้องพักยังมีสิ่งอำนวยความสะดวกอย่างครบครัน นี่จึงเป็นที่พักอีกรูปแบบหนึ่ง สำหรับผู้ที่ต้องการใกล้ชิดธรรมชาติและดื่มด่ำการพักผ่อนอย่างเต็มรูปแบบภายในเต็นท์หรูไปพร้อมกัน

ทั้งนี้ ห้องพักของที่นี่จะแบ่งออกเป็น 3 โซน โดยเริ่มต้นจาก โซนอีโค ซาฟารี (EcoSafari Tents) ห้องพักเต็นท์แบบอีโค ห้องน้ำรวม, ดีลักซ์ ซาวานนา เต็นท์ (Deluxe Savanna Tents) ห้องพักเต็นท์ที่มีห้องน้ำในตัวเพื่อความเป็นส่วนตัว และลอท์ฟ ทรี เฮาส์ (Loft Tree House) บ้านต้นไม้ที่เหมาะสำหรับนักเดินทางแบบครอบครัว

Traveloka Trip at Lalamukha 16

คุณณัฐพล กาญจนะวรนันท์ ผู้จัดการฝ่ายการตลาดดิจิทัล ทราเวลโลก้า ประเทศไทย

คุณณัฐพล กาญจนะวรนันท์ ผู้จัดการฝ่ายการตลาดดิจิทัล ทราเวลโลก้า ประเทศไทย กล่าวว่า “ทราเวลโลก้า เป็นผู้ให้บริการจองตั๋วเครื่องบินและที่พักอันดับหนึ่งในประเทศอินโดนีเซีย ซึ่งปัจจุบันมีการขยายตลาดเพื่อให้บริการเพิ่มเติมอีก 5 ประเทศในภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ ได้แก่ ไทย สิงคโปร์ เวียดนาม มาเลเซีย และฟิลิปปินส์ โดยเข้ามาทำตลาดในประเทศไทยเมื่อ 3 ปีที่ผ่านมา และได้รับผลตอบรับเป็นอย่างดี โดยมีผู้ใช้บริการดาวน์โหลดแอปพลิเคชั่นประมาณ 30 ล้านคน เรามองเห็นถึงพฤติกรรมของผู้บริโภคที่มีการเปลี่ยนแปลงในเรื่องการเข้าถึงเทคโนโลยี และข้อมูลข่าวสาร ที่มีผลโดยตรงต่อไลฟ์สไตล์โดยเฉพาะการท่องเที่ยว ผู้บริโภคสามารถหาข้อมูลแหล่งท่องเที่ยว ค้นหาตั๋วเครื่องบินและที่พักได้ง่ายๆ ทั้งทางเว็บไซด์ และแอปพลิเคชั่น เทคโนโลยีเหล่านี้จะช่วยทำให้การเดินทางท่องเที่ยวง่ายขึ้น ให้คนใช้ชีวิตสะดวกขึ้น

Traveloka Trip at Lalamukha 24

Traveloka Trip at Lalamukha 8

Traveloka Trip at Lalamukha 7

และเพื่อเป็นการขอบคุณสื่อมวลชนที่ให้การตอบรับ Traveloka อย่างดีเสมอมา นอกจากทริปนี้ เราจะพาทุกท่านกินฟรี นอนฟินแล้ว ยังมีกิจกรรมให้สื่อมวลชนได้ร่วมสนุกพร้อมจับสลากเล่นเกมเพื่อชิงรางวัลต่างๆ รวมมูลค่ากว่า 50,000 บาท อาทิ ตั๋วเครื่องบิน กรุงเทพ-สิงคโปร์ จาก มาเลเซียแอร์ไลน์ (Malaysia Airlines) บัตรของขวัญแทนเงินสดจองตั๋วเครื่องบินและที่พักจาก Traveloka และของที่ระลึกอีกมากมายเช่นกัน

หลังจากได้รับฟังข้อมูลดีๆ จากทางผู้บริหารของทราเวลโลก้า จากนั้นสื่อมวลชนได้แยกย้ายกันไปพักผ่อน สูดกลิ่นอายธรรมชาติ เพื่อพร้อมกลับมาเจอกันอีกครั้งในช่วงหัวค่ำ มีปาร์ตี้และรับประทานอาหารกันอย่างสนุกสนาน

Traveloka Trip at Lalamukha 6

Traveloka Trip at Lalamukha 17

Traveloka Trip at Lalamukha 25

Traveloka Trip at Lalamukha 18

Traveloka Trip at Lalamukha 19

เช้าวันรุ่งขึ้น ก่อนจะเดินทางกลับเข้ากรุงเทพฯ พวกเราก็ได้แวะไปไปร้านกาแฟ  The Birder’s Lodge ได้ชื่อว่าเป็นร้านดังของที่นี่อีกด้วย

Traveloka Trip at Lalamukha 20

Traveloka Trip at Lalamukha 21

Traveloka Trip at Lalamukha 26

Traveloka Trip at Lalamukha 22

Traveloka Trip at Lalamukha 23

 

สามารถติดตามข่าวสารและโปรโมชั่นเพิ่มเติมได้ที่
www.traveloka.com/th หรือ www.facebook.com/TravelokaTH
www.lalamukha.com หรือ www.fackbook.com/Lalamukha

ชั่วโมงชิลล์กับเพื่อน อร่อยกับอาหารแบบวาไรตี้ ปาร์ตี้ให้สุดที่ Roots Bangkok

เวลาที่เราคิดจะพบปะสังสรรค์ คือไม่ว่าจะเพื่อนกลุ่มเล็กๆ เข้าขั้นสนิทสุด หรือนัดกันมาเยอะๆ แนวเพื่อนที่ทำงาน นั่นหมายความว่าทุกคนต้องการพื้นที่ที่สามารถปล่อยอารมณ์ ความสนุกสนาน และอยากอยู่ในบรรยากาศรอบตัวที่ผ่อนคลาย สบายใจ

Roots Bangkok 5

Roots Bangkok 4

ที่นี้เราเองก็ช่างค้นช่างหาจนกระทั่งได้รู้มาว่ามีร้านนี้ไงที่ตอบโจทย์ Roots Bangkok อยู่ใจกลางเมืองกรุงเทพ อาหารของที่นี่จะเป็นแบบฟิวชั่นร่วมสมัย มีให้เลือกแบบอลังการมาก ถ้านึกอยากจะกินอะไรขึ้นมาก็ได้ทั้งนั้น พิกัดร้านอยู่ในโครงการ K Village สุขุมวิท 26 บรรยากาศสงบร่มรื่นพร้อมด้วยต้นไม้ใหญ่ที่อยู่รายล้อมรอบตัว คิดตามนะคะ คือได้มาชิมทั้งอาหารมื้อพิเศษ บาร์บีคิวหอมกรุ่นร้อน ตามด้วยจิบเบียร์เย็นฉ่ำในสวนที่คึกคัก

Roots Bangkok 3

Roots Bangkok 2

และวันนี้เราได้รับเชิญจาก Roots Bangkok ให้มานั่งชิลล์ กินของอร่อย และดื่มค็อกเทลสูตรพิเศษ ระหว่างรอเวลาที่อาหารกำลังปรุงรสโดยเชฟยอดฝีมือ เราขอไปนั่งคุยกับ คุณธัญญ่า-ธณัฐฐา ดีเกตุ เธอเป็นหุ้นส่วนและผู้จัดการฝ่ายปฏิบัติงาน “จริงๆ แล้วญ่าเรียน Business แต่ที่เลือกสาขา Hospitality เพราะชอบการบริการแบบโรงแรม โดยเฉพาะงานส่วนหน้า เพราะมีความใฝ่ฝันคืออยากเป็นเจ้าของโรงแรม” คุณธัญญ่าเล่าย้อนกลับไปซึ่งตอนที่คุณญ่าทำงานอยู่ที่ The Langham ช่วงปีสุดท้ายก่อนกลับประเทศไทยก็ได้มีโอกาสไปทำร้านอาหารไทยที่ New Zealand ในตำแหน่ง Operation Manager เช่นกัน คุณธัญญ่าจึงรู้ดีว่าการทำร้านอาหารไม่ใช่เรื่องง่าย แต่ว่าทางครอบครัวอยากให้คุณธัญญ่ามาช่วยงานเป็น Operation Manager ที่ Roots Bangkok

Roots Bangkok 1

คุณธัญญ่า-ธณัฐฐา ดีเกตุ 

“อยากให้ Roots มีพื้นที่ในใจของทุกคน ที่ทุกคนอยากขับรถเพื่อมารับประทานอาหารกับ Roots อยากมาสนุกกับเรา ลิ้มลองประสบการณ์ที่แปลกใหม่” คุณธัญญ่ากล่าว ตอนนี้ Roots กำลังมองหาโอกาสในการเปิดสาขาเพิ่ม โดยอยากเน้นไปที่อาหารมังสวิรัติโดยเฉพาะ เพราะเทรนด์ตอนนี้กำลังให้ความสำคัญกับการดูแลสุขภาพ เราทุ่มเทกับ Roots ไปแล้ว ญ่าก็อยากทำตรงนี้ให้มันดีที่สุด” คุณธัญญ่ากล่าวทิ้งท้ายเป็นการแสดงถึงความรักที่มีต่อ Roots ได้เป็นอย่างดี

ได้เวลาอาหารอร่อยๆ ออกมาพอดีเลยค่ะ อาหารหน้าตาดีทีเดียว เดี๋ยวมาทยอยชิมทีละเมนูกันไป และไม่ลืมนะคะว่าต้องขอลองค็อกเทลของที่นี่ด้วย เริ่มค่ะ!

Roots Bangkok 12

Jerk Chicken ราคา 320 บาท
ซอสหมักไก่ก็คือ Jerk Sauce พริกเองก็เป็นพริกนำเข้าทั้งจากปานามา ฟลอริด้า เครื่องปรุงก็จะเป็นเฮิร์บซะส่วนใหญ่ ทำให้ดีต่อร่างกายด้วย กระวาน ยี่หร่า อบเชย มีกลิ่นหอม หมักทิ้งไว้ประมาณชั่วโมงแล้วเอาไปย่าง ให้ซอสเข้าไปในเนื้อไก่ ส่วนข้าวผัดถั่วแดงก็จะเป็นสไตล์จาไมก้า ผัดรวมกับขิง หอม กระเทียม ใส่กะทิด้วย พอได้กลิ่นคู่กับไก่ที่หมัก Jerk Sauce ออกเผ็ดๆ หน่อย ก็จะกลมกล่อมลงตัวเข้ากัน

Roots Bangkok 23

Grilled Salmon with Dill Sauce ราคา 380 บาท
แซลมอนนอร์เวย์เนื้อแน่น นุ่มมัน สีสวย นำเข้ามาทั้งตัวแล้วมาสไลด์ทำเป็นแต่ละเมนู แซลมอนจานนี้จะผ่านการอบการย่างด้วยไฟกลางๆ ให้สีสวย เนื้อมีความสุกกำลังกินอร่อย เสิร์ฟคู่กับ Dill Sauce ที่มีส่วนผสมของผักชีลาว

Roots Bangkok 18

Chicken Wings BBQ Peri Peri ราคา 220 บาท
ปีกไก่ที่หมักด้วยซอสสีแดง Peri Peri Sauce เป็นอาหารสไตล์แอฟริกาใต้ หมักเนื้อไก่ประมาณชั่วโมงแล้วนำไปย่างบนเตาถ่านไฟเบาๆ เสิร์ฟคู่กับพริกหยวกย่าง มะเขือย่าง มีชีสซอสสูตรพิเศษไว้จิ้มเพิ่มรสชาติให้อร่อยแล้วอร่อยอีก

Roots Bangkok 20

Australian Lamb Burger ราคา 360 บาท
จะมีการหมักเครื่องเข้าเนื้อแกะไปเลย มีหอม กระเทียม โรสแมรี่ ไทม์ แล้วเอาเนื้อแกะไปย่างบนเตาถ่าน จะทำให้มีความหอมกว่าเบอร์เกอร์ทั่วๆ ไป ซึ่งวิธีการปรุงแบบนี้จะร้อนกรุ่นจากด้านใน เนื้อขนมปังมีความนุ่มน่ากิน หอมสุกอย่างทั่วถึงกัน

Roots Bangkok 6

Roots Bangkok 24

Wood-Fired Pizza Parma Ham & Rocket ราคา 340 บาท
ความพิเศษก็คือแป้งจะทำสด ถาดต่อถาดต่อวันด้วย การอบการทำที่ต่อที่ ใช้เตาฟื้นไม้ยูคาลิปตัส ใช้พามาแฮมเกรดพรีเมี่ยมนำเข้า ผสมผสานกับมอซซาเรลลาชีส ใช้เตาพิซซ่าแบบดั้งเดิมจะทำให้พิซซ่าอร่อยเข้าถึงรสชาติ

Roots Bangkok 11

Chocolate Martini ราคา 260 บาท
ดูสีสันแล้วมีอารมณ์ความเป็นช็อกโกแลตในตัวเอง เหมือนว่าจะเคร่งขรึมแต่ไม่ เพราะว่าในค็อกเทลยังมีเชอร์รี่ให้ด้วย เป็นซิกเนเจอร์ดริ๊งค์ของ Roots Bangkok

Roots Bangkok 10

Roots Slipper ราคา 260 บาท
หลักๆ ก็คือจะเป็นเหล้าที่สกัดมาจากเมล่อนกับส้มมาผสมกัน ที่เห็นเป็นฟองโฟมเพราะมีการใช้ไข่ขาว จะไม่มีกลิ่นคาว รสชาติจะเปรี้ยวๆ หวานๆ เป็นซิกเนเจอร์ดริ๊งค์ของ Roots Bangkok

#ได้มาแล้วก็ต้องแนะนำโปรโมชั่นพิเศษให้ทุกคน

1. BAR BUFFET The offer is available any hour of the day during Roots’ business hours from Monday – Saturday.
1.5 Hours – 900++ Baht per person
3 Hours – 1,590++ Baht per person

Drink List:
– Vodka • Gin • Rum • Whiskey w/ Mixers
– Heineken Full Pint
– Red Wine • White Wine

Bar Buffet ที่ให้ทุกคนได้ดื่มด่ำไปกับบรรยากาศและเครื่องดื่มหลากหลายได้ที่ Roots ตั้งแต่วันจันทร์ถึงวันเสาร์ ไม่ว่าจะมาตอนไหนก็เริ่มโปรโมชั่นได้ตอนนั้นเลย
1.5 ชั่วโมง ในราคา 900++ บาท ต่อคน
3 ชั่วโมง ในราคา 1,590++ บาท ต่อคน

Drink List:
– Vodka • Gin • Rum • Whiskey w/ Mixers
– Heineken Full Pint
– Red Wine • White Wine

2. Wine Promotion Wine Promotion 30% Off Now at Roots. (On selected bottles only) โปรโมชั่นไวน์ ลด 30% เริ่มแล้ววันนี้ที่ Roots (เฉพาะไวน์รุ่นที่กำหนดเท่านั้น)

3. TGIF! at Roots with Happy Hours coming right up. Buy 2 for the price of 1: Local Beers & Cocktails from 4pm – 7pm. หรรษากันได้ทุกวันศุกร์กับโปรโมชั่นซื้อ 2 จ่าย 1 Local Beers และค็อกเทล ในช่วงเวลา Happy Hours ตั้งแต่เวลา 4 โมงเย็นถึง 1 ทุ่มที่ Roots

4. Soul Sisters! All ladies dining at Roots on Wednesday will receive 4 FREE drinks each upon ordering food พิเศษสำหรับผู้หญิงทุกคนที่มาวันพุธ เมื่อทานอาหารที่ Roots จะได้รับไวน์ฟรี 4 แก้ว

Roots Bangkok
สถานที่ตั้ง: B-107, โครงการเค-วิลเลจ ถนนสุขุมวิท 26 แขวงคลองตัน เขตคลองเตย กรุงเทพฯ
เวลาทำการ: วันจันทร์-วันศุกร์ 15.00-01.00 น.
วันเสาร์ 11.30-01.00 น.
วันอาทิตย์ 11.30-00.00 น.
เบอร์โทรศัพท์: 02 661 5227
เว็บไซต์: www.rootsbangkok.com
เฟสบุ๊ค: www.facebook.com/rootsbangkok
อินสตาแกรม: Rootsbangkok
ไลน์แอด: @rootsbangkok