เรื่องพลาดที่เรามักทำเมื่อดื่มน้ำผักผลไม้

ช่วงนี้ของเทศกาลกินเจเดือนนี้หลายคนก็จะหันมาบริโภคผักผลไม้กันมากขึ้น น้ำผักและน้ำผลไม้คั้นสดจึงเป็นเครื่องดื่มสุขภาพที่ขายดีทั้งแบบทำเองและซื้อสำเร็จรูป แต่บางทีการดื่มน้ำผักผลไม้ก็อาจให้ประโยชน์ได้ไม่เต็มที่จากสิ่งที่เราพลาดไปในข้อปฏิบัติง่ายๆนี่เอง ลองมาดูกันค่ะว่ามีเรื่องไหนบ้าง
1. ไม่ดื่มน้ำผักผลไม้ในขณะที่ท้องว่าง: ถ้าคุณเคยดื่มน้ำผักผลไม้แล้วเกิดอาการแสบร้อนกลางอกหรือที่เรียกว่าฮาร์ทเบิร์นละก็ ให้ลองสังเกตว่าคุณดื่มมันในเวลาไหน ในช่วงที่ท้องว่างหรือหลังจากบริโภคอาหารแล้วซึ่งถ้าเป็นอย่างหลัง ก็เป็นไปได้มากที่คุณจะมีอาการนี้เพราะการดื่มน้ำผักผลไม้คั้นสดควรจะดื่มเมื่อท้องคุณยังว่างอยู่เท่านั้น เพื่อไม่ให้ประโยชน์ของมันถูกลดทอนลงไป และมีปัญหาระบบการย่อยอย่างที่เป็นอยู่การดื่มน้ำผลไม้ขณะท้องว่างยังช่วยให้สารอาหารสำคัญในน้ำผลไม้สามารถถูกดูดซึมโดยตรงเข้าสู่กระแสโลหิตของเราอีกด้วย ลองนึกดูสิคะว่า ถ้าเราบริโภคอาหารเข้าไปจนเต็มกระเพาะ อาหารเหล่านั้นก็จะไปปิดกั้นการดูดซึมทำให้ช้าลงช่วงเวลาดีที่สุดของการดื่มน้ำผักผลไม้คือถ้าเป็นหลังมื้ออาหาร ให้รอประมาณ 2 ชั่วโมงหรือถ้าเป็นก่อนมื้ออาหาร ให้ดื่มก่อนการบริโภคมื้ออาหารประมาณ 20 นาที

Fruit Vegetable Juice 3

2. คุณรอนานเกินไปกว่าจะดื่มน้ำที่ทำไว้: ทันทีที่ผักผลไม้สดถูกคั้นน้ำออกมาเพื่อรอดื่ม น้ำนั้นก็จะสัมผัสกับอากาศ ทำให้เอนไซม์เริ่มด้อยคุณภาพลงเรื่อยๆทั้งสูญเสียรสชาติที่ดี ถ้าคุณสังเกตก็จะพบว่าน้ำผลไม้ที่คั้นสดใหม่กับน้ำที่ตั้งทิ้งไว้นานๆ จะมีรสชาติแตกต่างกันมาก และคุณก็จะไม่ได้รับพลังงานเท่าที่ควร วิธีคั้นน้ำที่ถูกต้องก็คือควรใช้เบลนเดอร์ที่มีมอร์เตอร์แรงและใบมีดสำหรับหั่นเป็นแบบคู่ เพื่อให้กระบวนการคั้นทำได้เร็วและสดที่สุด ทั้งควรดื่มน้ำนั้นภายใน 5 นาทีหลังจากที่คั้นมันออกมาและถ้าจะใส่เหยือกแช่ตู้เย็น ก็ควรเทน้ำให้อยู่ในระดับเต็มใกล้ขอบเหยือกมากที่สุดเพื่อให้มีอากาศเข้าไปได้น้อยที่สุด ปิดฝาเหยือกให้แน่น ควรแช่เย็นมันเอาไว้ตลอดเวลาก่อนดื่มครั้งต่อไปสิ่งสำคัญมากในการเลือกซื้อน้ำผักผลไม้คั้นสดที่วางขายก็คือ ต้องดูด้วยว่ามันแช่เย็นไว้ในอุณหภูมิที่เหมาะสมหรือเปล่า เพราะน้ำผักผลไม้สดๆที่ไม่มีการพาสเจอร์ไรซ์ หากตั้งทิ้งไว้ก็จะเกิดความอุ่นของอุณหภูมิขึ้น ทำให้แบคทีเรียในน้ำนั้นเจริญเติบโตได้ง่าย น้ำผักผลไม้คั้นสดที่ลดราคามักมีคุณภาพต่ำเพราะคุณค่าโภชนาการด้อยลง ควรระวังให้ดีๆ

Fruit Vegetable Juice 1

3. คุณใช้ผลไม้รสหวานและผักหลายชนิดเกินไป: ผลไม้รสหวานและผักบางอย่างเช่นแตงโม, แอปเปิ้ล, ลูกแพร์และแครอท เป็นพืชผักที่เต็มไปด้วยสารอาหารแต่ถ้าคุณนำมันมารวมกันเพื่อทำน้ำผักผลไม้คั้นสิ่งที่เกิดขึ้นก็คือปริมาณน้ำตาลและฟรุคโตสในระดับสูงสุดที่จะไปมีผลเสียต่อระดับอินซูลินในร่างกายให้พุ่งสูงขึ้นทำให้คุณเกิดความหิวบ่อยขึ้น เสี่ยงต่อโรคเบาหวานและโรคอื่นๆจากการมีน้ำหนักตัวเพิ่มขึ้นดังนั้น เวลาจะทำน้ำผักผลไม้คั้นสด ให้เลือกผักหรือผลไม้ที่มีรสหวานอย่างใดอย่างหนึ่งเพียง 1 ชนิดเท่านั้นเช่นให้ใช้แครอทผสมกับเซเลอรี่ แต่ไม่ควรใส่แตงโมหรือแอปเปิ้ลลงไปเพิ่มอีก เป็นต้นแอปเปิ้ลเขียว ก็เป็นผลไม้ที่ดีในการเพิ่มความหวานควรจำไว้ว่าในการดื่มน้ำผักผลไม้นั้น ระดับของน้ำตาลและฟรุคโตสของส่วนผสม คือสิ่งสำคัญมากที่ต้องนึกถึงก่อนเรื่องอื่นๆ โดยส่วนตัวแล้ว ดิฉันไม่แนะนำให้เพิ่มผลไม้ลงในน้ำผักที่คั้นสด แต่ถ้าคุณต้องการรสหวาน ก็ให้ดื่มน้ำแครอทคั้นสดหรือเติมแครอทลงในน้ำผักก็จะได้ความหวานที่เพียงพอแล้วทั้งมีประโยชน์ต่อสุขภาพสายตาด้วย บีทรูท ก็เป็นผักให้ความหวานที่น่าสนใจ เพราะมันช่วยการล้างพิษของร่างกายนอกจากนี้ มะนาวและเลมอน ก็จะมีระดับน้ำตาลต่ำมากและไม่มีผลเสียกับระดับของอินซูลินในร่างกายเหมือนผลไม้อื่นๆ

Fruit Vegetable Juice 2

4. คุณดื่มน้ำผักผลไม้คั้นสดแทนการบริโภคมื้ออาหาร: น้ำผักผลไม้ไม่ใช่สิ่งที่คุณจะดื่มเพื่อเป็นข้ออ้างในการงดมื้ออาหารแล้วใช้มันทดแทนเพราะจริงๆแล้ว หน้าที่ของมันคือเพื่อเรียกน้ำย่อยหรือเพื่อให้กระเพาะเตรียมพร้อมในการรับอาหารมื้อต่อไป การได้รับวิตามินและแร่ธาตุจากน้ำผลไม้ ก็เหมือนกับเวลาที่เราบริโภคผลิตภัณฑ์เสริมอาหารที่เราควรบริโภคมันในช่วง 20 นาทีก่อนการบริโภคมื้ออาหารเต็มแน่นอนค่ะที่มันเป็นเรื่องยากในชีวิตประจำวันที่เราจะบริโภคผักผลไม้ให้ได้ตามปริมาณที่นักโภชนาการแนะนำคือ 6-8 จานต่อวันในทุกๆวัน และมันก็ยากที่เราจะบริโภคผักเป็นอาหารเช้าทั้งปริมาณผักผลไม้ของมื้อกลางวันนอกบ้านก็มักจะเล็กน้อยมากซึ่งไม่พอสุขภาพที่ดีของร่างกายน้ำผักผลไม้คั้นสดจึงช่วยให้เราได้พบกำไรสุขภาพนี้ให้คิดถึงการดื่มน้ำผักผลไม้เหมือนการที่คุณบริโภคผลิตภัณฑ์เสริมอาหาร ไม่ใช่แทนมื้ออาหาร ก็จะให้ผลดีกับสุขภาพอย่างมากนอกจากนี้การดื่มมันก่อนมื้ออาหาร ก็จะช่วยลดปริมาณคาร์โบไฮเดรตที่เรามักจะบริโภคเกินขนาดในแต่ละมื้ออีกด้วย

5. คุณไม่ได้ “เคี้ยว” น้ำผักผลไม้ที่ดื่มเข้าไป: ใช่ค่ะ คุณอ่านไม่ผิดหรอก น้ำผักผลไม้คืออาหารอย่างหนึ่งที่เราควรจะได้ “เคี้ยว” มันด้วยเมื่อบริโภคมันเข้าไป การเคลื่อนไหวขากรรไกรขึ้นลงสักสองสามวินาทีก่อนที่คุณจะกลืนน้ำผักผลไม้นั้นๆลงไป จะทำให้เกิดการปลดปล่อยเอนไซม์ย่อยอาหารของน้ำลายให้รวมกับน้ำผลไม้นั้นๆด้วยช่วยในการส่งผ่านสารอาหารที่มีประโยชน์ด้านโภชนาการเข้าสู่เซลล์ร่างกายของคุณได้ดีขึ้น

6. คุณไม่ล้างเครื่องคั้นทันทีหลังการใช้: แน่นอนที่การทำความสะอาดเครื่องคั้นน้ำผักผลไม้เป็นเรื่องยุ่งยากและใช้เวลาเกินกว่าที่คุณจะไปทำงานทันในตอนเช้า แต่จริงๆแล้วคุณก็ยังไม่ต้องทำความสะอาดมันแบบครบขั้นตอนก็ได้ เพียงแค่ล้างน้ำให้สะอาดก่อนแล้วค่อยมาจัดเต็มเอาในตอนเย็นทำแบบนี้เครื่องของคุณก็จะไม่มีคราบสีของผักผลไม้ติดแน่นทั้งยังไม่เป็นแหล่งสะสมของแบคทีเรียไปตลอดวันด้วย

Fruit Vegetable Juice

7. คุณใช้ผักผลไม้ชนิดเดิมๆซ้ำซาก: ความหลากหลายคือเครื่องกระตุ้นความสดใสให้ชีวิต และมันยังเป็นกุญแจสำคัญที่จะทำให้คุณปลอดภัยและหลีกเลี่ยงอาการผิดปกติของฮอร์โมนจำไว้ว่า ให้สลับเปลี่ยนชนิดของผักผลไม้ที่นำมาคั้นบ้าง อย่าใช้แต่ผักโขม กะหล่ำปลี หรือผักชนิดใดซ้ำซากติดต่อกันหลายๆสัปดาห์ เพราะมันจะไปมีผลเสียกับการผลิตฮอร์โมนของต่อมไทรอยด์ ทำให้เกิดการสร้างกรดอ็อกซาลิก(oxalic acid)ที่ทำให้สมดุลของวิตามินและแร่ธาตุในร่างกายเสียไปจากการได้รับสารอาหารเดิมซ้ำๆและขาดสารอาหารอื่นๆที่ควรจะถูกเติมเต็ม

8. คุณหยุดบริโภคน้ำผักผลไม้เพราะเชื่อว่าการดื่มสมูตตี้ให้ผลดีกว่า: ไม่มีวิธีใดที่จะทำให้เราได้ประโยชน์ทางโภชนาการจากผักและผลไม้สดได้มากเท่ากับการคั้นน้ำบริโภคสดๆที่จะให้พลังงานที่ดีและยาวนานอย่างที่เป็นความมหัศจรรย์ของธรรมชาติที่มอบเป็นของขวัญให้มนุษย์ด้วยสารอาหารที่มีประโยชน์ในผักผลไม้ และเป็นสิ่งที่สมูตตี้ไม่สามารถให้คุณด้วยความรู้สึกสดชื่นและเติมเต็มพลังงานนี้หากคุณดูในกระจก ก็จะเห็นภาพของคุณที่มีหน้าตาสดใสดูมีพลังมากขึ้นเมื่อได้ดื่มน้ำผักผลไม้คั้นสดดังกล่าวการดื่มน้ำผักผลไม้คั้นสด ยังช่วยลดการใช้พลังงานของร่างกายในการย่อยอาหาร ทำให้เซลล์มีเวลาในการซ่อมแซมตัวเองได้มากขึ้นดังนั้น อย่ารอจนเกิดเจ็บป่วยแล้วถึงจะหันมาดื่มน้ำผักผลไม้นี้ เพราะยิ่งคุณดื่มมันเป็นประจำได้เร็วเท่าไหร่ ก็เท่ากับได้สร้างภูมิต้านทานให้ร่างกายต่อสู้กับโรคภัยได้ดีขึ้นเท่านั้น ก่อนจบวันนี้ ดิฉันมีสูตรน้ำผักผลไม้เพื่อสุขภาพ มาให้คุณได้ลองไปทำกันดู อร่อยใช้ได้เลยค่ะ ขอให้กินเจอย่างมีสุขภาพดี ได้รับพลังจากพืชผักธรรมชาติสดใสกันทุกท่านนะคะ

LEMON LIME GREEN JUICE:
เวลาเตรียม: 5 นาที, รวมเวลาที่ใช้ทั้งหมด 5 นาที เสิร์ฟได้ 2 ที่
ส่วนผสม:
– ผักใบเขียวเลือกตามชอบ 1 กำ ( ผักโขม, กะหล่ำปลี, และขอแนะนำผักสวิสชาร์ด ( Swiss chard)เป็นผักตระกูลเดียวกับบีทรูทแต่จะไม่มีหัว ใช้ใบและก้านรับประทาน ไม่ขมไม่เหม็นเขียว รสจืดๆ, ผักคะน้าหรือ Chinese broccoli)
– แตงกวา 2 ผล
– สมุนไพรเช่นผักชี, ต้นหอมหรือสะระแหน่ ½ ช่อ
– เลมอนปอกเปลือกออก 1 ผล
– มะนาวปอกเปลือกออก 1 ผล
– แอปเปิ้ลเขียว 1 ผล ( อาจไม่ใช้ก็ได้ตามชอบ)
วิธีทำ:
1. ล้างผักทั้งหมดให้สะอาดและนำไปใส่ชามใบ ใหญ่
2. นำไปคั้นน้ำตามลำดับดังนี้คือ – ผักใบเขียว, สมุนไพร, เลมอน, ไลม์, แตงกวา, แอปเปิ้ล
3. ผสมทุกอย่างเข้าด้วยกัน คนให้ทั่วก่อนเสิร์ฟ
4. ล้างทำความสะอาดเครื่องคั้นน้ำผลไม้ทันทีเมื่อใช้เสร็จ
หมายเหตุ: แช่เย็นผักผลไม้ก่อนนำมาคั้นเพิ่มความอร่อยสดชื่น และควรเลือกผักผลไม้ออร์แกนิกถ้าทำได้