หลังจากที่ต้องนั่งเบื่ออยู่บ้านมาสักพัก ประเทศต่าง ๆ ก็เริ่มมีการผ่อนปรนมาตรการการเดินทางให้นักท่องเที่ยวสามารถเดินทางเข้าประเทศเพื่อการท่องเที่ยว หรือ เข้าศึกษาได้บ้างแล้ว ทำให้ใครหลายคนที่อุดอู้อยู่กับที่มานาน ได้ออกไปเผชิญโลกกว้างอย่างเต็มที่ภายใต้มาตรการข้อกำหนดและการดูแลตนเอง

ซึ่งการเดินทางหลังจากที่ห่างหายไปนานก็มีเงื่อนไขและข้อกำหนดมากมายที่คุณต้องเตรียมพร้อมรับมือกับการเดินทางในช่วงโควิดมากขึ้น โดยในหลาย ๆ ประเทศรวมทั้งประเทศไทยเองก็ได้ออกข้อกำหนดที่แตกต่างกันออกไป เพราะฉะนั้นวันนี้พวกเราจึงขออาสามาแนะนำ 8 สิ่งเคล็ดไม่ลับฉบับที่นักเดินทางต้องรู้และเตรียมตัวให้พร้อมในช่วงโควิด ที่หากใครมีแพลนจะออกไปเที่ยวหรือศึกษาต่อแล้วละก็ สามารถติดตามรายละเอียดก่อนออกเดินทางไปพร้อมเราได้เลย

1. ศึกษารายละเอียดว่า ประเทศปลายทางมีข้อจำกัดในการเข้าประเทศหรือไม่

การศึกษารายละเอียดของประเทศปลายทางเกี่ยวกับข้อจำกัดต่าง ๆ ในการเข้าประเทศเป็นเช็กลิสต์อันดับต้น ๆ ที่ไม่ควรพลาดเป็นอย่างมาก เนื่องจากประเทศต่าง ๆ มีการออกนโยบายและมาตรการการควบคุมโรคที่แตกต่างกันออกไป 

ดังนั้นก่อนจะตัดสินใจเดินทางไปท่องเที่ยวประเทศไหน ก็ควรศึกษารายละเอียดต่าง ๆ กับสถานทูตของประเทศเหล่านั้นให้ดี โดยเพื่อน ๆ สามารถหาข้อมูลได้จากหน้าเว็บไซต์ของสถานทูต หรือเว็บไซต์ของกระทรวงการต่างประเทศ เพื่อรับข้อมูลที่ถูกต้อง 

โดยคำถามที่ต้องศึกษา อาจมีดังนี้
   – ประเทศปลายทางเปิดรับชาวต่างชาติหรือไม่ และมีประเทศอะไรบ้าง หรือเปิดให้เฉพาะคนบางประเทศเท่านั้น
– จุดประสงค์ในการไปยังประเทศปลายทางคืออะไร เนื่องจากบางประเทศสามารถเข้าประเทศได้เฉพาะกิจกรรมบางอย่างเท่านั้น เช่น การศึกษาต่อ ธุระสำคัญ หรือต้องได้รับคำเชิญจากสถาบันของประเทศหรือเข้าได้เพียงสิ่งจำเป็นของชีวิตครอบครัว เท่านั้น
– มาตรการการเดินทางเข้าประเทศ และมาตรการการกักตัว เช็คได้ที่นี่ > https://www.traveloka.com/th-th/flight/safe-travel

2. เลือกการเดินทางได้แบบยืดหยุ่น

แน่นอนว่าในสถานการณ์การแพร่ระบาดในปัจจุบันนี้ที่ยังคงมีผู้ติดเชื้อจำนวนสูงขึ้นอย่างต่อเนื่อง ความไม่แน่นอน และการยกเลิกเที่ยวบินจากสายการบินต่าง ๆ สามารถเกิดขึ้นได้ทุกเมื่อ ดังนั้นเพื่อเป็นการเพิ่มความมั่นใจในการเดินทางของคุณ เราจึงขอแนะนำให้คุณเลือกกำหนดการบินแบบยืดหยุ่นได้ ด้วยการใช้ฟีเจอร์  ‘Flight Upgrade’ คือเมื่อมีการจองตั๋วเครื่องบินผ่านแอปพลิเคชัน Traveloka 

ด้วยฟีเจอร์นี้จะช่วยให้คุณสามารถเปลี่ยนแปลงเที่ยวบินได้อย่างหมดห่วง พร้อมทั้งยังได้รับสิทธิประโยชน์อื่น ๆ อีกมากมายตลอดการเดินทางของเที่ยวบินต่าง ๆ ไม่ว่าจะเป็น น้ำหนักกระเป๋า, อาหารทานบนเครื่องบิน, สิทธิพิเศษในการเช็กอิน, ใช้บริการเลานจ์ในสนามบิน และสิทธิประโยชน์อื่น ๆ ที่คุณสามารถเลือกได้ตามที่ต้องการ

โดยมีรายละเอียดขั้นตอนในการใช้งาน 4 ขั้นตอนเหล่านี้ได้ง่าย ๆ ดังนี้

3.การฉีดวัคซีนป้องกันโรคที่อาจก่อให้เกิดการติดเชื้อ

สำหรับการเดินทางในยุคปัจจุบันแน่นอนว่าด้วยสถานการณ์การแพร่ระบาดของเชื้อโควิด-19 ทำให้หลายประเทศเริ่มมีการเฝ้าระวังถึงปัญหาของการเกิดโรคระบาดอื่น ๆ เพิ่มเติม 

ดังนั้นสำหรับนักท่องเที่ยวที่ต้องการเดินทางไปต่างประเทศ ควรทำการฉีดวัคซีนเพื่อป้องกันโอกาสในการติดเชื้อจากโรคต่าง ๆ เหล่านี้ได้ ซึ่งตามประกาศจากทาง Centers for disease control and prevention (CDC) ได้แนะนำให้ผู้ที่ต้องเดินทางควรมีวัคซีนเหล่านี้ติดตัวไว้สัก 1 – 2 เข็ม ได้แก่
– วัคซีนหัดเยอรมัน (Measles-Mumps-Rubella:MMR)
– วัคซีนโปลิโอ
– วัคซีนอีสุกอีใส
– วัคซีนไข้หวัดใหญ่
– วัคซีนคอตีบ-บาดทะยัก-ไอกรน

4.ตรวจสอบเอกสารให้พร้อมก่อนออกเดินทาง

สิ่งหนึ่งที่เราต้องเตรียมตัวให้พร้อมก่อนออกเดินทางเลยนั่นก็คือ การเช็กรายละเอียดสำหรับเอกสารที่จะใช้ในการเดินทางให้เรียบร้อยผ่านทางสถานทูต หรือ เว็บไซต์ที่แจ้งรายละเอียดเกี่ยวกับการเดินทางในประเทศนั้น ๆ เนื่องจากในสถานการณ์โควิดที่มีการแพร่ระบาดอย่างต่อเนื่อง 

จึงทำให้ในหลาย ๆ ประเทศมีข้อจำกัดและเอกสารเพิ่มเติมที่จำเป็นต้องใช้ควบคู่สำหรับการเดินทางเข้าประเทศ รวมถึงบางสายการบินที่ต้องการเอกสารเพิ่มเติม เพื่อใช้ประกอบรายละเอียดข้อมูลของผู้โดยสายก่อนการขึ้นเครื่อง ซึ่งเอกสารที่ต้องเตรียมไว้เบื้องต้นมี ดังนี้

– ใบรับรองแพทย์ที่แจกแจงรายละเอียดก่อนการเดินทางว่าคุณมีสุขภาพที่พร้อมสำหรับออกเดินทาง หรือ ที่เราเรียกกันว่า Fit to Fly Health Certificate / Fit to Travel Health Certificate ที่จะแตกต่างออกไปจากใบรับรองผลการตรวจโควิดตรงที่ใบรับรองแพทย์นี้เป็นเพียงการแจ้งว่าเรามีสุขภาพที่เหมาะสมก่อนการเดินทางหรือไม่ ซึ่งในหลาย ๆ ประเทศจำเป็นต้องใช้เอกสารชิ้นนี้ก่อนขึ้นเครื่องบิน ดังนั้นต้องตรวจสอบเอกสารกับทางสถานทูตที่เราจะเดินทางไปให้เรียบร้อยก่อนออกเดินทาง
– เอกสารที่ใช้ในการยืนยันตัวตนต่าง ๆ เช่น บัตรประจำตัวประชาชน หรือ หนังสือเดินทางที่ต้องตรวจสอบให้แน่ชัดว่ามีอายุเหลืออย่างน้อย 6 เดือน
– ใบรับรองผลการตรวจโควิด ซึ่งเป็นการรับรองผลโควิดในรูปแบบของ RT-PCR ที่มีอายุไม่เกิน 72 ชั่วโมงก่อนการเดินทาง ซึ่งในบางประเทศจำเป็นต้องใช้เอกสารเหล่านี้ในการยืนยันก่อนเข้าประเทศ
– วีซ่า เอกสารที่จำเป็นอย่างมากในบางประเทศที่ต้องทำการขอคำอนุญาตในการเดินทางเข้าประเทศอย่างถูกกฎหมาย ดังนั้นหากใครที่ต้องเดินทางไปประเทศที่ต้องดำเนินเรื่องการขอวีซ่าควรเผื่อเวลาในการดำเนินการให้เพียงพอ

5.ซื้อประกันภัยการเดินทาง

สิ่งจำเป็นที่เราต้องเตรียมตัวให้พร้อมก่อนออกเดินทางช่วงโควิดเลยนั่นก็คือ การซื้อประกันภัยการเดินทาง ที่หลายคนอาจไม่เคยให้ความสำคัญกับประกันตัวนี้เท่าไหร่ แต่จริง ๆ แล้วการซื้อประกันการเดินทางจะช่วยให้เรามั่นใจได้ในระดับหนึ่งว่า หากกรณีเกิดเหตุการณ์อันไม่คาดคิดเกิดขึ้นไม่ว่าจะเป็น อุบัติเหตุ ทรัพย์สินสูญหาย ตลอดจนถึงการเสียชีวิต ก็จะมีประกันตัวนี้คุ้มครองเรื่องค่าใช้จ่ายต่าง ๆ ให้คุณได้หายห่วง 

ซึ่งหากคุณมีเหตุจำเป็นให้ต้องเข้ารับการรักษาที่โรงพยาบาลต่าง ๆ ก็สามารถใช้บริการจากประกันเหล่านี้ได้ ซึ่งเงื่อนไขและรายละเอียดต่าง ๆ จะเป็นไปตามแผนประกันที่คุณเลือกซื้อไว้ ดังนั้นควรศึกษารายละเอียดข้อมูลของประกันต่าง ๆ ให้เรียบร้อยก่อนการตัดสินใจเลือกซื้อ

6.ควรหลีกเลี่ยงความเสี่ยงที่อาจทำให้ติดเชื้อก่อนเดินทาง

รู้หรือไม่ว่าหากคุณติดเชื้อโควิดจะไม่สามารถเดินทางได้จนกว่าจะหายดี รวมถึงหากตรวจพบเชื้อก่อนจะเดินทางกลับ ก็จะต้องกักตัวเพื่อรักษาก่อนเช่นกัน ดังนั้นควรหลีกเลี่ยงการสัมผัสเชื้อให้ได้มากที่สุด ดังนี้– หลีกเลี่ยงการใช้บริการสถานบริการที่มีผู้คนแออัดจำนวนมากเป็นเวลานาน
– หลีกเลี่ยงการไปที่ที่มีการชุมนุมของคนจำนวนมาก เช่น งานแต่งงาน งานศพ งานวันเกิด หรืออีเว้นท์ต่าง ๆ
– หลีกเลี่ยงการใช้ยานพาหนะที่มีผู้ใช้บริการจำนวนมาก เช่น รถไฟฟ้า เรือโดยสาร รถบัส

อย่างที่กล่าวไปข้างต้นว่า แม้จะตรวจไม่พบเชื้อก็ไม่ได้หมายความว่าไม่มีการรับเชื้อมาเสมอไป ดังนั้นหลีกเลี่ยงพื้นที่เสี่ยงก่อนเดินทางอาจเป็นทางเลือกที่ดีที่สุด

7.เตรียมอุปกรณ์รักษาความสะอาดที่จำเป็น

เพื่อให้การเดินทางในทริปนี้เป็นการเดินทางแบบ Safe Travel เราขอแนะนำให้คุณเตรียมอุปกรณ์รักษาความสะอาดที่จำเป็นติดตัวด้วย เพื่อลดโอกาสในการติดเชื้อขณะเดินทาง โดยอุปกรณ์จำเป็นที่ควรคำนึงถึง มีดังนี้
– เจลแอลกอฮอล์
– หน้ากากอนามัย
– ทิชชู่เปียกที่มีส่วนผสมของแอลกอฮอล์

8.เลือกเที่ยวบินที่ขอคืนเงินได้

ในช่วงที่ผ่านมาหลายคนต้องทิ้งตั๋วเครื่องบินราคาสูงไปหลายใบ เนื่องจากสถานการณ์ความไม่แน่นอนของการเดินทาง ที่ทำให้สายการบินต้องยกเลิกเที่ยวบิน อันเนื่องจากการแพร่ระบาดของโควิด-19 ในพื้นที่ต่าง ๆ 

 

อีกทั้งยังต้องเสียเวลาติดต่อสายการบิน หรือเอเจนซี่ที่ออกตั๋วเครื่องบินในการขอเลื่อนไฟล์ท หรือยกเลิกขอคืนเงิน ซึ่งสิ่งที่หลายคนต้องเจอคือ ติดต่อเจ้าหน้าที่ลำบาก มีการโยนความรับผิดชอบไปมาระหว่างสายการบินและบริษัทเอเจนซี่ จนทำเอาใครหลายคนปวดหัว และกลุ้มใจอยู่ไม่น้อย 

Traveloka จึงได้ออก Solution ใหม่ ด้วยการออกแบบฟีเจอร์ที่มีชื่อว่า ‘Refund Guarantee’ ที่เปรียบเสมือนประกันความคุ้มครองของผู้เดินทางที่โดนยกเลิกเที่ยวบินไม่ว่าจะเกิดจากสาเหตุใดก็ตาม สามารถขอคืนเงินได้มากถึง 80% ในกรณีที่ไม่สามารถเดินทางได้ เข้าไปดูรายละเอียดรีฟันคืนเงิน หรือการันตีคืนเงิน กับ Traveloka ได้ที่นี่ > https://www.traveloka.com/th-th/flight/ticket-flexibility/ 

ซึ่งขั้นตอนในการจองการันตีคืนเงิน (Refund Guarantee) สามารถทำได้ ดังนี้ 

1.ค้นหาเที่ยวบิน

2.เลือกเที่ยวบินที่ต้องการ

3.กดเพิ่ม “การันตีคืนเงิน” ให้การจองของคุณ

4.ดำเนินการชำระเงินได้เลย

และหากคุณไม่สามารถเดินทางได้ตามวันเวลาที่ได้ทำการจองไว้ สามารถขอเงินคืนผ่านเว็บไซต์/ แอปพลิเคชัน Traveloka ได้เลยทันที

วิธีขอคืนเงิน Refund Gaurantee  

เป็นอย่างไรบ้างกับเคล็ดลับในการเตรียมตัวออกเดินทางในช่วงโควิด-19 นี้ ที่จะช่วยให้การออกไปเผชิญโลกกว้างของคุณในครั้งใหม่นี้เป็นไปได้อย่างราบรื่นในแง่ของการเตรียมตัวด้านต่าง ๆ ได้อย่างครบครัน เมื่อใดก็ตามที่คุณกำลังแพนเที่ยว หรืออยากออกเดินทาง อย่าลืมนึกถึง Traveloka แล้วกดเข้ามาจองตั๋วเครื่องบินกับเรา พร้อมเลือกดีลสุดพิเศษ หรือจะกดใช้รีฟันการันตี (Refund Guarantee) และ Flight Upgrade ก็ได้เช่นเดียวกัน