City Break Rome Part XIV

เบรกเที่ยวในโรม…Night out in Rome ตอนที่ 2
โดย Paul Sansopone

จากตอนที่แล้วเราเริ่มจากตอนหัวค่ำเข้า Aperativo Bar หรือ Cocktail Bar กันก่อน ในตอนนี้ก็เลยเสนอสถานที่นั่งฟังเพลงซึ่งถ้าจะให้เหมาะกับโรมก็คงจะต้องเป็นแจ๊สคลับ อย่างไรก็ตามผมก็มีทางเลือกสำหรับผู้ที่ยังมีไฟที่เท้าอยู่ ก็เลยแนะนำ Party House สุดฮิตในโรมมาให้ด้วย

TramJazz

City Break in Rome Jazz Club Party House 4

ต้องขอเริ่มจาก Tramjazz ก่อนทีจะไปแนะนำแจ๊สคลับต่างๆ ที่น่าสนใจ ก็เพราะที่โรมมีแจ๊สบน‘รถราง’(Tram) ที่ไม่เหมือนที่ไหนแถมเป็นการเซ็ตติ้งแบบ ‘อาหารมื้อค่ำใต้แสงเทียน’ แล้วรถรางก็วิ่งไปเรื่อยๆ เป็นการทำ Night Tour ของโรมที่ได้ฉายาว่าเป็น Romantic City ไปในตัว นักดนตรีแจ๊สก็บรรเลงสดๆ อยู่บนรถรางนั่นแหละครับ น่าลองครับ The TramJazzรถรางจะออกจาก Piazza di Porta Maggiore ตอน 3 ทุ่ม

City Break in Rome Jazz Club Party House 17

 

Alexanderplatz
Via Ostia, 9 (Prati)

City Break in Rome Jazz Club Party House 3

ห่างมา 2-3 ถนน จากสถานีรถไฟใต้ดิน อ๊อตตาเวียโน่ (Ottaviano Metro) คุณก็จะได้พบกับแจ๊สคลับยุคแรกๆ ของโรมที่ชื่อว่า Alexanderplatz ที่มีบรรยากาศแบบ down to earth สไตล์ แต่มันก็ต้องแบบนี้แหละคล้ายๆ กับคลับย่าน Greenwich Village ใน New York ที่ Alexanderplatz คลับก็อยู่ใต้ดิน เปิดมาตั้งแต่ปี 1984 และที่นี่ก็ได้มีโอกาสต้อนรับนักดนตรีดังๆ อย่าง Wynton Marshalls, Brad Meldhau, Red Rodney และ Freddy Cole หากท่านจะมาให้เช็คมาก่อนว่าใครจะมาแสดงหรือเป็นนักดนตรีรับเชิญโปรแกรมคอนเสิร์ตที่จะมีทุก 4 ทุ่มของวันพฤหัสถึงเสาร์

Bebop Jazz Club
Via Giuseppe Giulietti, 14 (Piramide)

City Break in Rome Jazz Club Party House 5

ที่นี่เปิดมาตั้งแต่ปี 2000 และปัจจุบันถือว่าเป็นคลับที่ดีที่สุดแห่งหนึ่งสำหรับท่านที่ต้องการให้มื้อเย็นของท่านมีเสียงเพลงแจ๊สที่บรรเลงสดโดยนักดนตรีฝีมือดี น่าจะเรียกว่าเป็นแจ๊สดินเนอร์แบบแท้ๆ อาหารเย็นเสิร์ฟ 3 ทุ่มก่อนที่ดนตรีจะเริ่มเล่นตอน 4 ทุ่มครับ

Big Mama
Vicolo di San Francesco a Ripa, 18 (Trastevere)

City Break in Rome Jazz Club Party House 13

ตั้งแต่ปี 1984 Big Mama ถือเป็นคลับที่ได้รับความนิยมสูงสุดในหมู่ผู้ที่ชื่นชอบเพลงบลูส์ (Blues Lovers) แต่ก็มีแจ๊สสลับด้วยไม่ให้คอแจ๊สต้องผิดหวัง คลับตั้งอยู่ในย่าน ทราสเตเวเร่ (Trastevere) ซึ่งเป็นย่าน Night Out ที่น่าสนใจ มีร้านอาหารและบาร์ให้แวะก่อนมาที่ Big Mama เพราะที่นี่กว่าดนตรีจะเล่นก็ 4 ทุ่ม

Casa del Jazz
Viale di Porta Ardeatina, 55 (Piramide)

City Break in Rome Jazz Club Party House 10

ชื่อก็บอกแล้วว่าเป็น ‘บ้านแจ๊ส’ ที่นี่ใช้สถานที่เป็นอิตาเลี่ยนวิลล่า 3 ชั้น และสนามด้านข้างตกแต่งเป็นแบบ Auditorium มี150 ที่นั่ง มี bar และ restaurant มันเหมาะสำหรับผู้ที่เป็นคอแจ๊สแบบซีเรียส เพราะเครื่องเสียงที่นี่เป็นระดับ World Class มันอยู่ทางใต้ของโรมใกล้ ปิรามิด Piramide

City Break in Rome Jazz Club Party House 1

Charity Cafe
Via Panisperna, 68 (Monti)

มืดๆ ทึมๆ แบบแจ๊สบาร์ในนิวยอร์คแต่อยู่ในย่าน มนติ Monti ของโรม มี Jam Session ทุกวันพุธ Blues Night วันพฤหัสวันศุกร์เสาร์ก็ Live Jazz ส่วนวันอาทิย์ที่ส่วนใหญ่ที่อื่นปิด แต่ที่นี่มี Sunday Blues ซึ่งมีอาหาร Buffet เสิร์ฟตั้งแต่ทุ่มนึงเป็นต้นไป

Cotton Club
Via Bellinzona, 2 (Trieste)

City Break in Rome Jazz Club Party House 2

ชื่อฟังแล้วคุ้นหู ที่นี่มักเล่นแบบ Big Band Jazz และการนำเสนออย่างอื่นก็ทำได้ดีทั้งอาหารและดนตรีในราคา35 euro ร้านนี้อยู่ในย่าน ทริสเต้ (Trieste) ที่เป็นละแวกที่น่าเดินเล่นก่อนมาชมแจ๊สและทานอาหารที่ Cotton Club

Elegance Café Jazz Club
Via Vittorio Veneto, 93 (Barberini)

City Break in Rome Jazz Club Party House 11

Elegance Café แค่ชื่อก็บ่งบอกถึงความเก๋ไก๋ ก็แน่นอนล่ะเพราะมันอยู่บนถนน Via Veneto ของ Rome ถ้าต้องการบรรยากาศและคนชงเหล้าฝีมือดีมีระดับ และแจ๊สมิวสิคจากฝีมือของนักดนตรีชั้นนำ ที่นี่ไม่น่าผิดหวัง

Gregory’s Jazz Club
Via Gregoriana, 54 (Piazza di Spagna)

City Break in Rome Jazz Club Party House 12

บาร์นี้อยู่ในตำแหน่งที่ใช้ได้มากๆ ก็อยู่ในย่านบันไดสเปนนี่เอง (Spanish Steps) ให้ถามหา Gregory’s Jazz Club ได้เลยครับ แม้ไม่ได้อินกับดนตรีแจ๊สมากนักแต่บรรยากาศในการนั่งคุยกันและมีเครื่องดื่มที่ใช้ฝีมือชง น่าจะทำให้คลายหายเหนื่อยได้ไม่ยาก

Il Pentagrappolo
Via Celimontana, 21B (Colosseo)

City Break in Rome Jazz Club Party House 8

City Break in Rome Jazz Club Party House 16

บาร์นี้อยู่ห่างจากคอลอสเซี่ยม (Colosseum) ไม่มาก เหมาะที่จะเดินควงแขนกันมาเพื่อชมความงามของคอลอสเซี่ยมยามค่ำที่เปิดไฟสวยงามแล้วก็เดินต่อไปที่ Il Pentagrappolo ที่เป็นบาร์เท่ๆ และจะมีดนตรีแจ๊สเล่นในวันพฤหัสถึงเสาร์ โดยจะเน้นเพลงประเภท Soul, Blues และJazz

28 Divino
Via Mirandola, 21 (Tuscolana)

City Break in Rome Jazz Club Party House 7

แจ๊สสดๆ กับไวน์นั้นเข้ากันได้ดีมากครับโดยเฉพาะที่นี่ แต่ถ้าชอบค็อกเทลที่นี่ก็มีในชั้นสอง ที่เสิร์ฟอาหารว่างและดื่ม(Food and Aperitivo) เรียกว่าเอาใจลูกค้าทุกประเภท

Party House in Rome
แนะนำบาร์แจ๊สมาหลายแห่งแล้วคงต้องเอาใจวัยสะรุ่นที่ต้องการอะไรที่ร้อนแรงหน่อยจึงขอปิดท้ายค่ำคืนในโรมด้วยคลับดังๆ ของโรมซัก 2-3 แห่งครับ

Lanificio 159
Via di Pietralata, 159/1 (Nomentana)
lanificio.com

City Break in Rome Jazz Club Party House 9

ที่นี่อาจจะอยู่ออกนอกเมืองไปหน่อยแต่เพื่อปาร์ตี้หนักๆ ก็ต้องลอง สถานที่เคยเป็นอู่ซ่อมรถเก่า มี DJ มืออาชีพอย่าง L-Ektrica และ GLAMDA ที่ทำให้บรรดา party goers ช่วงอายุ 20-30 ต้องกลับมาที่นี่บ่อยๆ ที่นี่ยังมี Live Music อาทิตย์ละ2 ครั้งอีกด้วย

Goa Club
Via Giuseppe Libetta, 13 (Ostiense)
goaclub.com

City Break in Rome Jazz Club Party House 14

ที่นี่สำหรับแฟนเพลงแนว Alternative และElectronic เพราะมันดีที่สุดของโรม ไม่ว่าบรรยากาศหรือเครื่องเสียง ไม่ค่อยมีใครผิดหวังถ้าอยากมาปาร์ตี้ก็ตรงมาได้เลย.บ้างก็บอกว่าดีที่สุดในอิตาลีเชียว

Room26
Piazza Guglielmo Marconi, 31
room26.it

City Break in Rome Jazz Club Party House 15

Room26 เปิดมา 4-5 ปีนี้เอง แต่มันเจ๋งพอที่จะมีคนตรึมตลอด เข้ามาตอนแรกนึกว่าเข้ามาพิพิธภัณฑ์มีเสาหินอ่อนมีสถาปัตกรรมแบบโรมัน แต่พอได้ยินระบบเสียงที่ออกแบบโดย Steve Dash ที่ได้ชื่อว่า Best in Europe ต้องบอกว่าที่นี่ทั้งสวยทั้งดัง(มากๆ)

 

พบกันคราวหน้าจะเป็นเรื่องราวของการช็อปปิ้งในโรมซึ่งเป็นตอนสุดท้ายของ City Break Rome ครับ

City Break Rome Part XIII

เบรกเที่ยวในโรม…Night out in Rome ตอนที่ 1

ชาวโรมันนั้นขึ้นชื่อเรื่องปาร์ตี้สังสรรค์มาตั้งแต่สมัยโบราณแล้วเรียกว่าในทุกยุคสมัยของซีซ่าร์แต่ละพระองค์ จะมีสงบเสงี่ยมหน่อยก็ในช่วงที่เขตนี้เป็นนครรัฐของสันตะปาปา(Papal State) อาจอยู่ภายใต้กฎเกณฑ์ข้อจำกัดของคริสต์ศาสนาอยู่บ้าง แต่มาถึงยุคปัจจุบันโรมก็ถือว่าเป็นเมืองหลวงที่ไม่ได้เป็นรองเมืองไหนๆ ในตอนนี้เราจะมาดูทางเลือกว่า ‘อมตะนคร’แห่งนี้มีอะไรให้ทำบ้างในยามราตรี
แต่ก่อนที่จะไปแนะนำสถานที่ก็อยากแนะนำคร่าวๆ ถึงเครื่องดื่มท้องถิ่นแบบที่ชาวอิตาเลี่ยนเค้าดื่มกันในบาร์ทั้งหลาย แน่นอนว่าเราสามารถจะสั่งดื่มที่เราคุ้นเคยได้ทุกแห่งแต่ก็ควรจะได้ลองของท้องถิ่นบ้างในแก้วแรกๆ

Aperitif ดื่มเรียกน้ำย่อยก่อนอาหาร

City Break Rome Night Out in Rome 3

วัฒนธรรมการเที่ยวบาร์ของชาวอิตาเลี่ยนนั้นจะเริ่มต้นช่วงหัวค่ำด้วยการเที่ยว Aperativo Bar เพื่อดื่มเหล้าก่อนอาหารที่เรียกว่า Aperitif ก่อน จริงๆ แล้ววัฒนธรรมนี้มาจากทางอิตาลีตอนเหนือแถบตูรินและมิลาน แต่ปัจจุบันในโรมก็เปิดรับหรือซึมซับวัฒนธรรมนี้ไปแล้วแบบไม่ขัดเขิน เพราะเราจะเห็นว่าบาร์เหล่านี้จะเต็มไปด้วยวัยรุ่นคุยกันออกรสชาติ

เรามาดูว่าเครื่องดื่มที่เราควรลองนอกจากค็อกเทลแบบสากลแล้วแบบท้องถิ่นมีอะไรกันบ้าง
Campari มีมาตั้งแต่ปี 1800’s ปัจจุบันผลิตใน Milan ซึ่ง Campari ก็คือเครื่องดื่มประเภท Bitter คือทำจากเหล้าผสมเครื่องเทศและผลไม้ เป็นตัวหลักในค็อกเทลอื่น เช่น Negroni และAmericano
Aperol คล้าย Campari แต่รสอ่อนกว่า แอลกอฮอล์น้อยกว่า

City Break Rome Night Out in Rome 2

Negroni Sbagliato. Pic.cr. food52.com

Negroni ทำง่ายมากจากการผสม 1:1:1 ส่วนของ Gin, Red Vermouth และBittersอาจใช้ Campari แทนได้
Sbagliato มันก็คือ Negroni ที่ผิดพลาด Sbagliato เกิดจากการที่บาร์เทนเดอร์ในมิลานคว้าขวดผิดแทนที่จะหยิบขวดยินมาผสม 1:1:1 ส่วนของ Gin, Red Vermouth และBitters กลับหยิบขวด Prosecco มาแทนเลยผสมไปแล้วกลายมาเป็น Negroni Sbagliato (sbah-lyee-ah-to) กลายเป็นที่นิยมไป
Americano สีแดงสดใสจากการผสม Campari, Red Vermouth และSoda Water เริ่มต้นคงทำเอาใจลูกค้าอเมริกันเลยได้ชื่อนี้มา

City Break Rome Night Out in Rome 5

Spritz มีชื่อในภาคเหนือของอิตาลีส่วนที่ติดกับออสเตรีย เพราะ Spritz มาจากที่นั่นแต่อิตาเลี่ยนมาดัดแปลงเล็กน้อยใช้ Proseccoผสมกับ Campari หรือ Aperol ตบด้วย Sparkling Mineral Water กลายเป็นเครื่องดื่มประจำของ Venice ช่วงอากาศร้อนๆ
Martini คือ Vermouth Cocktail ทำจากเหล้า Martini & Rossi จาก Turin ผสมกับ Sparkling Wine ทำให้ Martini คืออมตะ Classic Cocktail

Digestivo ดื่มให้อาหารย่อย เครื่องดื่มหลังอาหาร
ในกรณีที่เราทานอะไรมาแล้วมาแวะบาร์ในลักษณะ ‘one for the road’ การบริโภคเหล้าหลังอาหารเป็นเรื่องปกติก่อนลุกกลับบ้าน ถ้าเป็นในฝรั่งเศสเค้าจะดื่มคอนยัคสักแก้วแต่ในอิตาลีมีให้เลือกเยอะกว่า
Limoncello เหล้ามะนาวจากทางใต้ในเขตคัมปาเนียที่ดื่มอร่อยเลยทำให้มักจะดื่มมากไป มันต้องเสิร์ฟแบบเย็นฉ่ำแบบออกมาจากfreezerเท่านั้นจึงจะถูกต้อง
Amaro น้ำขม เพราะแปลแบบนั้น “bitter” มันทำจากสมุนไพรและรากไม้หลายชนิด ตอนแรกมันเป็นยารักษาคนป่วยด้วยแต่มันย่อยอาหารได้ดี

City Break Rome Night Out in Rome 10

Grappa มันคือเหล้าหลังอาหารชื่อดังทางเหนือ ใช้ตบท้ายก่อนกลับบ้านหรือใช้ถอนตอนเช้าด้วยการผสมกับ Espresso ที่เรียกว่า Caffe Corretto เพื่อกระตุ้นให้สมองทำงาน

Birra เบียร์ในอิตาลี

City Break Rome Night Out in Rome 8

ในขณะที่ประวัติศาสตร์มันก็บ่งบอกอยู่ว่าที่อิตาลีนิยมดื่มไวน์มากกว่าเบียร์และอาหารอิตาเลี่ยนก็เหมือนถูกออกแบบมาให้เข้ากับไวน์ แต่อย่าเพิ่งไปเหมารวมว่าเบียร์อิตาเลียนไม่ดีเด็ดขาด เพราะช่วงหนึ่งโดยเฉพาะทางเหนือที่นี่ถูกปกครองโดยออสเตรียและก็มีอาณาเขตติดอยู่กับออสเตรียด้วย ในเขต Trentino-Alto Aldige, Veneto และFriuli-Venezia Giuliaประเพณีการทำเบียร์ดีแบบเมืองที่พูดเยอรมันก็ซึมซับเข้ามาอย่างช่วยไม่ได้ แล้วเบียร์กับพิซซ่าเป็นอะไรที่ไปกันได้ดี และถ้าจะสั่งเบียร์ดื่มในอิตาลีหากท่านไม่ได้อยู่ในร้านพวก Microbrewry หรือในสมัยนี้เค้าเรียกว่าร้าน Crafted Beer ละก็แนะนำ 3 ยี่ห้อนี้ Morena, Moretti หรือ Peroni

Peroni

City Break Rome Night Out in Rome 6

Peroni หรือ Peroni แดง เป็นแบรนด์ที่รู้จักดีที่สุดของเบียร์ตลอดทั่วทั้งคาบสมุทรอิตาลีมาตั้งแต่ปี 1846 เป็นของตระกูล Peroni ดั้งเดิมตามชื่อแบรนด์ แต่ตอนนี้น่าจะอยู่กับกลุ่ม SABmiller กลุ่มธุรกิจเจ้าของเบียร์หลายยี่ห้อ Peroni Red มันเป็นเบียร์ที่ขายดีที่สุดในประเทศอิตาลี มันมีแอลกอฮอล์เป็น 4.7% ทำขึ้นจาก barley malt, ข้าวโพดเม็ดกลม ในขณะที่ Peroni เองก็ได้ออกรุ่นNastroAzzurro ชื่อมันมีความหมายว่า “ริบบิ้นสีฟ้า” ในภาษาอิตาเลี่ยน หลังจากได้รับรางวัล Blue Riband Awards มันเป็นLager Beer มีแอลกอฮอล์ 5.1% มันคือเบียร์สำหรับตลาดระดับพรีเมี่ยม ผลิตตั้งแต่ปี1963 และยังเป็นสปอนเซอร์ให้Valentino Rossi นักบิดMotor GP อีกด้วย

Moretti แบรนด์เก่าแก่เช่นกันก่อตั้งใน Udine ปีค.ศ.1859 โดย Luigi Moretti แต่ปัจจุบันเป็นของบริษัทใหญ่คือ Heineken International.ไปแล้วเมื่อปี 1996
Morena ก็เป็นเบียร์ดังหากคุณไปเที่ยวทางใต้ของอิตาลีมันผลิตที่เมือง Baragiano โดยใช้วัตถุดิบสำหรับทำSuper Premium Quality Beer เลยทีเดียว

ถึงเวลาแนะนำสถานที่ใช้เป็นที่’แฮงค์เอ๊าท์’ ในโรม
แต่ก่อนที่จะแนะนำ Aperativo Bar ขอเริ่มจากการแนะนำ Beer Bar ก่อนครับ

Open Baladin
Via degli Specchi, 6

City Break Rome Night Out in Rome 14

ที่นี่ซีเรียสกับเบียร์เป็นพิเศษและยังรู้ว่าเบียร์นั้นเข้ากันได้ดีกับอาหารอเมริกัน ก็เลยจัดให้มี Hamburgers และHot dogs ที่เน้นเนื้อชั้นดีและซอสมะเขือเทศทำเองหรือ Homemade Ketchup

 
Bar del Fico
Piazza del Fico, 2 (Navona)
bardelfico.com

City Break Rome Night Out in Rome 4

บาร์นี้เป็นที่นิยมของชาวโรมหรือที่เราเรียกว่า Romans เค้ามักจะมาเริ่มกันตั้งแต่ช่วงหัวค่ำ ต้องบอกว่าหลายๆ คนแต่งตัวกันเตรียมพร้อมที่จะไปเที่ยวแบบdanceกระจายกันต่ออย่างแน่นอน ในบาร์มักจะคนแน่นแบบเบียดทะลักกันออกมายืนกันข้างนอกซึ่งก็เป็นจัตุรัส Fico ที่นี่แค่มาเอาบรรยากาศหรือมาดูคนก็ทำให้เราคึกได้แล้ว เหมาะสำหรับคนขี้ง่วง

City Break Rome Night Out in Rome 15
 

Black Market
Via Panisperna, 101 (Monti)
blackmarketartgallery.it

City Break Rome Night Out in Rome 9

ต้องการชิลล์หรือปลดลาน Unwind ในแบบที่ฝรั่งชอบพูดให้มาที่ย่าน มนติ Monti ที่บาร์ชือ Black Market ซึ่งนอกจากบรรยากาศวินเทจแล้วยังมี Live DJ หรือUnplugged Concert เล็กๆ ในเพลงแนว Indy 

 

Black Market Hall

Via de Ciancaleoni, 31 (Monti)
facebook.com/pg/blackmarkethall

City Break Rome Night Out in Rome 1

ไหนๆ ก็มาย่านมนติ (Monti neighborhood) แล้วก็ควรมีรายการ Bar Hopping จากบาร์ที่แล้ว Blackmarket ก็น่าจะมาต่อบาร์ชื่อเหมือนๆ กันอีกแห่ง ก็คือ Blackmarket Hall ที่นี่มีดนตรีสดแล้วก็มีอาหารคุ้นเคยอย่างเบอร์เกอร์และ Fish and Chips ในสถานที่ที่คุณต้องบอกว่าการตกแต่งแบบItalian Designนั้นเก๋มากๆ

 

La Conventicola degli Ultramoderni
Via Di Porta Labicana, 32 (San Lorenzo)

City Break Rome Night Out in Rome 12

เป็นคอนเซ็ปแบบที่มีการนำเสนอความแปลกใหม่มี Variety Show หรือ Musical Show ในภาษาท้องถิ่น หรือมี Cabaret โชว์ที่ไม่ซ้ำกันแต่ละวัน คือเน้นศิลปะการแสดงที่ไม่เหมือนที่ไหนในโรมก็แล้วกัน ลองมาดื่มและชมการแสดงที่ Conventicola degli Ultramoderni วันพุธ-พฤหัส เปิด3 ทุ่มถึงตี 4 ส่วนวันศุกร์-เสาร์เปิด 4 ทุ่มถึงตี 5

 
Sacripante Gallery
Via Panisperna, 59 (Monti)

City Break Rome Night Out in Rome 16

การตกแต่งจะเป็นลักษณะ Retro แบบเก่าผสมใหม่ เป็นเหมือนแกลเลอรี่ศิลปะแล้วก็เป็นบาร์ไปด้วย มี Aperitivo ทุกวันเว้นวันจันทร์เริ่มตั้งแต่ 2 ทุ่ม มี DJ เป็นบางวันแต่แค่สถานที่กับดื่มที่ย้อนยุคไปในปี1920 ก็อาจพอแล้ว ไม่ต้อง DJ ก็ได้

 

The Race Club
Via Labicana, 52 (Colosseo)
theraceclubspeakeasyroma.it

City Break Rome Night Out in Rome 17

เมื่อเราไปดื่มที่ไหน ที่แน่ๆ เราอยากเจอคนประเภทเดียวกับเราและการตกแต่งของสถานที่แบบที่เราชอบ เราก็จะin ตั้งแต่ก่อนครื่องดื่มแก้วแรกจะมาเสิร์ฟ เพราะมันเหมือนสถานที่นั้นมันมี vibe ในแบบที่ใช่ ทำให้เกิดความคึกคักขึ้นมาทั้งที่เริ่มง่วง ร้านนี้อยู่ไม่ไกลจากคอลอสเซี่ยม( The Colosseum) ถ้าเปิดตั้งแต่สมัยโน้นคงมีเหล่าGladiator มาอุดหนุนแน่นอน

 

Argot
Via dei Cappellari, 93 (Campo de Fiori)

City Break Rome Night Out in Rome 7

ที่นี่มีเจ้าของเป็นหุ้นส่วน 3 คน อยากเปิกบาร์ที่ให้ความรู้สึกเหมือนบ้าน ไม่หนวกหู คุยกันสะดวก มีศิลปะการตกแต่งหรือบรรยากาศแบบบ้าน มีเก้าอี้และโซฟานั่งสบายในสไตล์วินเทจ Argot เป็นบาร์แบบย้อนยุคที่ใครมาก็ชอบ

 
Salotto42
Piazza di Pietra, 42 (Pantheon)
Aperitivo: €10
salotto42.it

บาร์กลางเมืองไม่ห่างจากวิหารพันเตออน Pantheon มากนัก เหมาะมากที่จะเริ่มตั้งแต่หัวค่ำสำหรับเครื่องดื่มแบบ Aperitif และกิน Aperitivo Buffet ในราคาดื่มละ €10 ขอแนะนำให้ลอง Cuban Manhattan ที่ใช้เหล้ารัมผสมแทนที่จะเป็นวิสกี้

 
Tree Bar
Via Flaminia, 226 (Flaminio)
Aperitivo: price of drink
treebar.it

City Break Rome Night Out in Rome 18

Tree Bar แค่ชื่อก็บอกว่ามันน่าจะเกี่ยวข้องกับต้นไม้ก็ใช่ครับ เพราะที่นี่อยู่ท่ามกลางสวนมีต้นไม้ล้อมรอบ บรรยากาศร่มรื่นกว่าบาร์ที่ไหนๆ ในโรม แต่คนมักจะมาทานอาหารมากกว่ามาดื่ม เรียกว่าตั้งแต่มื้อกลางวันเลย แต่มาดื่ม aperitif บางวันก็แถม Complimentary Buffet ให้เป็นสไตล์ Tapas มี DJ เปิดเพลง Modern Jazz, Electrosoul หรือ ‘Brazilian Moods’

 

Momart
Via XXI Aprile, 19 (Piazza Bologna)
Aperitivo: €10
momartcafe.it

City Break Rome Night Out in Rome 13

ถ้าต้องการความคุ้มคือนอกจากเครื่องดื่มที่เราสั่งแล้วเราสามารถจ่ายค่าบุฟเฟ่ต์อาหารอิตาเลี่ยนอย่างพาสต้าและพิซซ่าแบบไม่อั้นในราคาเพียง€10 เรียกว่ามื้อเย็นข้ามไปเลยก็ได้ ที่นี่เป็น Wood Fired Oven Pizza แท้ๆ และแนะนำให้สั่ง Momart Spritz ดื่มคู่กัน

 

La Zanzara Bistrot
Via Crescenzio, 84 (Prati)
Aperitivo: €10
lazanzararoma.com

City Break Rome Night Out in Rome 11

หากบังเอิญว่าเพิ่งไปแวะชมวิหาร St. Peter’s ที่วาติกันเสร็จออกมาเย็นๆ ก่อนไปที่ไหนต่อควรแวะ La Zanzara ที่คนท้องถิ่นที่นี่ใช้เป็นที่เริ่มต้นค่ำคืนอันยาวไกลของคืนนั้น ต้องเริ่มด้วย Aperitivo และลองชิมฝีมือการชงที่แม้แต่บาทหลวงในวาติกันยังอยากแอบสึกออกมาลอง