‘ปัญหาของผิวหน้า บอกทุกปัญหาของสุขภาพ’

 

ถ้าเราจะเปรียบเทียบร่างกายว่าเหมือนกับหนังสือหนึ่งเล่ม ใบหน้าก็จะเป็นเสมือนปกของหนังสือ ที่จะบ่งบอกสัญญาณสุขภาพภายในร่างกายของคุณนั่นเอง ส่วนไหนของใบหน้า จะบอกเรื่องราวสุขภาพของคุณได้ว่ามีอะไรผิดปกติไปบ้างได้ทุกสิ่ง หากคุณเข้าใจสัญญาณจากมัน

 

เพราะผิวพรรณที่สวยสดใส คือสัญญาณบอกถึงการมีสุขภาพโดยรวมที่ดี ดังนั้น ในทางกลับกันก็คือ หากคุณพบว่ามีสิ่งใดผิดปกติเกิดขึ้นกับผิว นั่นหมายถึงใบหน้าของคุณกำลังบอกว่ามีความผิดปกติบางอย่างเกิดขึ้นกับร่างกาย แผนที่สุขภาพบนใบหน้าหรือ Face mapping คือศาสตร์ที่มีพื้นฐานมาจากศาสตร์แห่งอายุรเวท ผสมผสานกับศาสตร์แผนจีนโบราณ ซึ่งได้เชื่อมต่อสิ่งที่เกิดขึ้นกับผิวไว้กับสุขภาพโดยรวมของร่างกาย และยังทำให้คุณสามารถหารากของปัญหาสุขภาพที่เกิดขึ้นกับคุณได้อย่างแท้จริง

 

หน้าผาก

เกี่ยวข้องกับ: ตับ, กระเพาะปัสสาวะ

 

คำอธิบาย: หน้าผาก เป็นส่วนที่เกี่ยวข้องกับระบบการย่อยอาหารและการทำงานของระบบประสาท ปัญหาของผิวที่เกิดกับบริเวณหน้าผากหมายถึงระบบการย่อยที่เฉื่อยชา และความเหนื่อยล้ามากเกินไปในชีวิตประจำวัน

 

จะดูแลอย่างไร: ให้หลีกเลี่ยงการบริโภคอาหารกึ่งสำเร็จรูปหรืออุดมด้วยไขมัน น้ำตาล และควรเพิ่มการบริโภคผักผลไม้สดที่จะช่วยกระตุ้นระบบการย่อยของคุณ นอกจากนี้ ยังสำคัญมากที่เราจะต้องหาวิธีควบคุมความเหนื่อยล้าต่างๆ ด้วยการทำสมาธิ การฟังเพลง โยคะฯลฯ แนะนำให้ลองบริโภคชาแดนเดเลี่ยนหรือคาโมไมล์เพื่อช่วยผ่อนคลาย น้ำผลไม้คั้นสด หรือน้ำมะนาวผสมน้ำอุ่นเพื่อช่วยทำความสะอาดตับของคุณด้วย

 

 

healthskin04

 

 

ริ้วรอยหว่างคิ้วที่หัวคิ้วด้านซ้าย

เกี่ยวข้องกับ: การเกิดอารมณ์โกรธที่มีผลกับม้าม

 

คำอธิบาย: เส้นริ้วรอยแนวตั้งที่หัวคิ้วด้านซ้าย จะบอกถึงความเครียดของจิตใจที่หาทางออกไม่ได้ และซ่อนอยู่ในใจและส่งความกดดันนี้ไปสู่ม้าม

 

จะดูแลอย่างไร: ลองพยายามใช้เทคนิคเล็กๆน้อยๆอย่างเช่นเล่นโยคะ เรกิ การทำสมาธิสวดมนต์ และเทคนิคการฝึกหายใจเพื่อการผ่อนคลายความเครียด หรือหาคนที่พูดคุยได้เพื่อระบายความเครียดออกไปจากความรู้สึกของคุณ

 

 

ริ้วรอยหว่างคิ้วที่หัวคิ้วด้านขวา

เกี่ยวข้องกับ: อารมณ์เก็บกดต่างๆที่มีผลกับตับ

 

คำอธิบาย: ความผิดปกติของผิวหรือริ้วรอยในบริเวณนี้ คือสัญญาณว่าคนๆนั้นได้เก็บความโกรธที่ไม่แสดงออกเอาไว้ ซึ่งส่งผลให้ความเครียดกดดันนี้ได้ถูกส่งไปที่การทำงานของตับ

 

จะดูแลอย่างไร: ฝึกหัดเทคนิคที่สามารถช่วยให้คุณขจัดความโกรธออกไปได้ และช่วยให้คุณควบคุมอารมณ์ไปสู่ทิศทางที่ปลอดภัยต่อสุขภาพ เช่น การอ่านหนังสือธรรมะ การเข้าคลาสฝึกจิตใจ การพูดคุยกับผู้มีประสบการณ์หรือคนที่ไว้ใจได้เพื่อให้ลดความกดดันลง อาจลองเล่นโยคะ เรกิ หรือเขียนไดอารี่ และสำคัญมากที่คุณควรเลี่ยงอาหารที่อุดมด้วยไขมัน และแอลกอฮอล์ เพราะมันจะไปเพิ่มความกดดันให้ตับทำงานหนักขึ้น

 

 

healthskin06

 

 

นัยน์ตา

เกี่ยวข้องกับ: ลำไส้เล็ก ข้อต่อ ต่อมไทรอยด์

 

คำอธิบาย: จุดด่างที่เกิดขึ้นกับม่านตา ส่วนที่มีเม็ดสีทำให้เรามีนัยน์ตาเป็นสีต่างๆกันหรือที่เรียกว่า ไอริส นั้น สีที่ผืดปกติของอิส จะหมายถึงความบกพร่องของระบบการดูดซึมอาหารของลำไส้เล็ก และถ้าหากไอริสของนัยน์ตามีจุดสีขาวมากๆเป็นบริเวณกว้างเก็นชัดเจนด้วยละก็ มันคือสัญญาณของโรคข้อเสื่อม และถ้าไอริสของนัยน์ตามีขนาดเล็กเกินไป ก็จะหมายถึงความเกี่ยวข้องกับปัญหาโรคข้อต่อทั่วไป หากวงแหวนรอบๆไอริสของนัยน์ตาดูเป็นสีจางๆ ไม่สดใสเท่าที่ควร ก็คือสัญญาณว่าคุณบริโภคเกลิอหรือน้ำตาลมากเกินไป

 

จะดูแลอย่างไร: เริ่มโดยการบริโภคอาหารที่มีคุณสมบัติต้านการติดเชื้อเช่นพวกสมุนไพรต่างๆได้แก่ขิง ขมิ้น วอลนัท ปลาที่อุดมด้วยไขมันโอเมก้า-3 เมล็ดแฟล็กซีด ให้เลี่ยงการบริโภคน้ำตาลและเกลือที่ผ่านกรรมวิธีปรุงแต่งด้วยสารฟอกขาว ผลิตภัณฑ์อาหารสำเร็จรูปหรือกึ่งสำเร็จรูปทุกชนิด รวมทั้งคาเฟอีนด้วย ทั้งหมดนี้จะสร้างการติดเชื้อให้เกิดได้ในร่างกายเรา

 

 

ผิวใต้ตา

เกี่ยวข้องกับ: การทำงานของไต

 

คำอธิบาย: หากผิวใต้ตามีการบวมเกิดขึ้น นั่นหมายถึงความบกพร่องของการทำงานของไต ที่ทำให้ผิวต้าเกิดการบวมน้ำขึ้น ซึ่งมักเกิดร่วมกับรอยดำคล้ำของผิวใต้ตาร่วมด้วย ทำให้ผิวใต้ตาบวมและคล้ำกว่าที่เคย

 

จะดูแลอย่างไร: ปัญหานี้ส่วนหนึ่งเกิดจากการขาดน้ำของร่างกาย ทำให้ไม่สามารถระบายของเสียออกมาได้เต็มที่ จึงควรเพิ่มการดื่มน้ำสะอาดให้มากขึ้น เพื่อทำความชุ่มชื่นให้ไตได้มีน้ำสำหรับขับของเสียออกมาได้อย่างเพียงพอ เลือกดื่มน้ำกรองจะเหมาะสมที่สุด การขาดน้ำของรางกายสามารถเพิ่ใความกดดันและความเครียดให้กับไตทำให้ต้องทำงานหนักมากขึ้น จึงเกิดความเสียหายของระบบการกรองของเสียน่างกายระบายออกได้ไม่ดีเท่าที่ควร และควรหาเวลานอนหลับและพักผ่อนร่างกายให้เพียงพอ เพื่อลดความเหนื่อยล้าของร่างกายให้มากที่สุดที่จะทำได้

 

 

healthskin008

 

 

แก้ม

เกี่ยวข้องกับ: ปอด, ความอ่อนแอของระบบการเผาผลาญอาหาร, ปัญหาของระบบการดูดซึมอาหารเข้าสู่ร่างกาย

 

คำอธิบาย:ถ้าหากคุณพบว่าผิวที่แก้มมีสิวหรือรอยด่างซึ่งไม่ใช่สีแก้มที่เกิดจากการสูบฉีดโลหิต ก็ควรรู้ไ/ว้ว่า นั่นคือสัญญาณของระบบการเผาผลาญอาหารที่บกพร่อง และปัญหาการชลอตัวลงของระบบการดูดซึมสารอาหารของร่างกาย หากคุณได้ไปตรวจร่างกาย ก็อาจพบความผิดปกติของเนื้อเยื่อในปอด ซึ่งอาจแสดงว่าคุณกำลังมีปัญหาเกี่ยวกับระบบการทำงานของมัน

 

จะดูแลอย่างไร: ลองฝึกหัดการออกกำลังกายด้วยเทคนิคการหายใจที่จะช่วยให้ออกซิเจนเข้าสู่ร่างกายได้มากขึ้นและเพิ่มประสิทธิภาพการทำงานของปอด ทั้งยังสำคัญมากที่คุณควรจะต้องเริ่มทำกิจกรรมออกกำลังกายเพื่อการทำงานของหลอดเลือดของหัวใจที่เรียกว่า cardio exercise อย่างสม่ำเสมอเพื่อพัฒนาระบบการทำงานของปอดให้ดีขึ้น ทั้งช่วยเพื่มประสิทธิภาพให้ระบบการเผาผลาญอาหารของคุณด้วย และให้แน่ใจว่าคุณเคี้ยวอาหารได้ละเอียดพอก่อนที่จะกลืนมันลงไป

 

 

healthskin003

 

 

จมูก

เกี่ยวข้องกับ: ระบบการทำงานของหลอดเลือดแดงของหัวใจ

 

คำอธิบาย: ผิวที่บริเวณจมูก จะเกี่ยวข้องกับระบบการไหลเวียนของของเหลวภายในร่างกาย ดังนั้น ถ้าหากคุณมีปัญหาใดๆที่ผิวบริเวณนี้ นั่นอาจเป็นสัญญาณความสี่ยงของโรคความดันโลหิตสูงก็เป็นไปได้

 

จะดูแลอย่างไร: ควรบริโภคอาหารที่ช่วยฟื้นฟูสุขภาพหลอดเลือดของหัวใจให้สม่ำเสมอได้แก่ อโวคาโด ถั่วเปลือกแข็งชนิดต่างๆ เมล็ดแฟล็กซีด และปลาทะเลที่อุดมด้วยไขมันโอเมก้า-3 ทั้งควรเลี่ยงการดื่มกาแฟและเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ เพราะเครื่องดื่มเหล่านี้จะไปกระตุ้นการทำงานของหลอดเลือดหัวใจให้ทำงานหนักเกินไป

 

 

healthskin002

 

 

ริมฝีปากล่าง

เกี่ยวข้องกับ: ระบบการย่อยอาหาร

 

คำอธิบาย: ริมฝีปากที่มีสีซีดขาว อาจหมายถึงการเป็นโรคโลหิตจาง นอกจากนี้ ริมฝีปากล่างยังเป็นอวัยวะที่เกี่ยวข้องกับการทำงานของลำไส้ ดังนั้น หากคุณพบว่ามีสิวหรือจุดสีน้ำตาลเกิดขึ้นที่บริเวณริมฝีปากล่าง นั่นคือปัญหาเกี่ยวกับอาหารไม่ย่อย ซึ่งเกิดจากการมีเอนไซม์ที่ใช้ในการย่อยอาหารของลำไส้มีปริมาณน้อยเกินไป

 

จะดูแลอย่างไร: ควรบริโภคอาหารที่อุดมด้วยธาตุเหล็กให้มากขึ้น เช่น เนื้อสัตว์แดงปลอดไขมัน เพิ่มผักใบสีเขียวเข้มในมื้ออาหาร บริโภคโยเกิร์ตที่มีจุลินทรีย์โปรไบโอติกคุณภาพสูงให้มากขึ้น เพื่อเป็นทรีทเมนท์ธรรมชาติในการดูแลลำไส้ของคุณ

 

 

ลิ้น

เกี่ยวข้องกับ: ปอด, มลพิษสะสมในร่างกายมากเกินไป

 

คำอธิบาย: การสังเกตดูผิวของลิ้น โดยเฉพาะอย่างยิ่งในตอนเช้าๆ จะสามารถบอกคุณได้ถึงสุขภาพร่างกายโดยรวมของคุณ

 

ลิ้นที่มีฝ้าขาวๆปกคลุม หรือผิวลิ้นที่แตกบริเวณขอบลิ้นด้านนอก คือสัญญาณระบบการทำงานที่บกพร่องของปอด ในขณะที่ผิวลิ้นที่มีวงขาวๆอยู่ตรงกลางหรือด้านหลังของลิ้น หมายถึงการมีสารพิษสะสมมากเกินไปในลำไส้

 

จะดูแลอย่างไร: มันสำคัญมากที่คุณจะต้องทำทรีทเมนท์ล้างพิษและเพิ่มการบริโภคอาหารสดที่ไม่ผ่านการปรุงหรือ raw food รวมทั้งดื่มน้ำผลไม้คั้นสดแบบโฮมเมดให้มากขึ้น ทั้งควรฝึกการหายใจอย่างถูกต้องและทำสมาธิสวดมนต์เพื่อความผ่อนคลายและมีการออกกำลังกายเพื่อหลอดเลือดหัวใจอย่างสม่ำเสมอ

 

 

healthskin07

 

 

คาง

เกี่ยวข้องกับ: ความเหนื่อยล้า, การขาดสมดุลของฮอร์โมนในร่างกาย

 

คำอธิบาย: คางและบริเวณคาง เกี่ยวข้องกับความเหนื่อยล้าสะสมและฮอร์โมนที่ขาดสมดุล ผู้หญิงส่วนใหญ่มักจะมีสิวเกิดขึ้นที่บริเวณคางและรอบๆคางมากที่สุดกว่าพื้นที่ส่วนอื่นๆของใบหน้า

 

จะดูแลอย่างไร: เลือกผลิตภัณฑ์ความสะอาดผิวหน้าที่มีส่วนผสมสกัดจากธรรมชาติ เพื่อเลี่ยงจากสารเคมีที่เป็นพิษทีจะทำให้เกิดผลในทางลบในระบบฮอร์โมนของร่างกาย อาจแทนที่โฟมล้างหน้าด้วยผงแป้งทำความสะอาดใบหน้าที่ผลิตจากธรรมชาติ เลี่ยงการบริโภคน้ำตาล ผลิตภัณฑ์อาหารแปรรูป ขนมหวานและอาหารอุดมด้วยไขมัน และควรแน่ใจว่าคุณได้ลดความเหนื่อยล้าและจัดเวลาของคุณให้ได้มีการพักผ่อนและการนอนหลับได้อย่างเพียงพอด้วย

อย่าดื่มน้ำผสมน้ำส้มสายชูแอปเปิ้ลไซเดอร์…ถ้าคุณเป็นแบบนี้!

 

คนที่ชอบดูแลสุขภาพแนวธรรมชาติบำบัด คงเคยได้ยินเรื่องการดื่มน้ำผสมน้ำส้มสายชูแอปเปิ้ลไซเดอร์ทุกเช้าหลังตื่นนอน ว่ามันช่วยบำบัดได้หลายโรคหลายอาการ แต่ที่จริงแล้ว ไม่ใช่คนทุกคนที่ดื่มมันแล้วจะดี ตรงข้ามอาจทำให้เกิดอันตรายได้หลายเรื่อง หากคุณมีสภาวะร่างกายไม่เหมาะสม

 

 

applecider002

 

 

ข้อดีของน้ำผสมน้ำส้มสายชูแอปเปิ้ลไซเดอร์:

คุณสมบัติที่ดีของมันก็คือ น้ำส้มนี้ใช้ได้ผลดีในการลดน้ำหนัก เพราะมันจะช่วยลดความรู้สึกอยากอาหารของคุณลงได้ มีการศึกษาของจีนแสดงผลว่า น้ำส้มสายชูชนิดนี้ สามารถลดความเสี่ยงของการเกิดโรคมะเร็งหลอดอาหารลงได้ถึง37% นอกจากนี้ น้ำส้มสายชูแอปเปิ้ลไซเดอร์ ยังมีคุณสมบติต้านเชื้อแบคทีเรียและเชื้อรา สามารถบำบัดการติดเชื้อจากยีสต์และฮ่องกงฟุตได้ด้วย กรดอะซิติกที่พบในน้ำสายชูแอปเปิ้ลไซเดอร์ ช่วยลดความดันโลหิตสูงและลดระดับของคอเลสเตอรอลชนิดเลว ซึ่งเท่ากับช่วยลดความเสี่ยงต่อการเกิดโรคมะเร็ง และยังมีคุณสมบัติที่ดีต่อการบำบัดโรคเบาหวาน เพราะมันมีคุณสมบัติของการต้านไกลซีมิก และไปช่วยขัดขวางการย่อยของแป้งชนิดต่างๆที่จะทำให้เกิดการเพิ่มตัวของระดับน้ำตาลในเลือด

 

 

แต่คุณก็ไม่ควรบริโภคน้ำส้มสายชูแอปเปิ้ลไซเดอร์ หากคุณอยู่มีสภาวะสุขภาพเหล่านี้!

เอาละ! ต่อให้เราทราบว่าน้ำส้มสายชูแอปเปิ้ลไซเดอร์มีข้อดียังไงก็ตาม แต่คุณก็ไม่ควรบริโภคมัน หากคุณมีปัญหาสุขภาพบางเรื่อง และไม่ควรบริโภคคู่กับยาบางอย่าง เพราะมันจะทำให้เกิดผลข้างเคียงที่เลวร้ายและอาจนำไปสู่ปัญหาที่ยิ่งใหญ่ของสุขภาพในเวลาต่อมาได้ เพราะการบริโภคน้ำผสมน้ำส้มสายูแอปเปิ้ลไซเดอร์คู่กับยาบางชนิด จะไปลดระดับโปแตสเซียมใน ร่างกาย

 

 

applecider004

 

 

ลองมาดูกันว่ามียาอะไรบ้างที่เราไม่ควรบริโภคมันร่วมกับน้ำส้มสายชูแอปเปิ้ลไซเดอร์:

ยา Digixin หรือยา Lanoxin

ยาชนิดนี้ใช้เพื่อรักษาอาการเกี่ยวกับโรคหัวใจ ซึ่งหากบริโภคยานี้ร่วมกับน้ำที่ผสมน้ำส้มสายชูแอปเปิ้ลไซเดอร์ มันก็จะไปขัดขวางการดูดซึมของโปตัสเซียมในร่างกาย ซึ่งร่างกายเราจำเป็นต้องใช้แร่ธาตุนี้เพื่อสร้างเนื้อเยื่อส่วนต่างๆ ทำให้ต่อมาก็จะเกิดผลข้างเคียงต่างๆ อาทิ อารมณ์แปรปรวน, คลื่นไส้อาเจียน, ปัญหาการมองเห็นของสายตา, การเวียนศีรษะ และท้องร่วง

 

 

ยาขับปัสสาวะ – Diuril, Lasix, Microzidea และ Thalito

โดยปกติ ยาเหล่านี้มักใช้เพื่อแก้อาการบวมน้ำ อาการท้องอืด เพราะมันจะช่วยกระตุ้นให้ร่างกายให้ขจัดของเหลวส่วนเกินที่เก็บเอาไว้ออกไป ซึ่งโปตัสเซียม เป็นแร่ธาตุที่ช่วยรักษาสมดุลของระดับน้ำในร่างกาย และเมื่อน้ำผสมน้ำส้มสายชูแอปเปิ้ลไซเดอร์ ได้เข้าไปลดระดับของโปตัสเซียม ก็จะส่งผลให้ร่างกายเกิดการขาดน้ำ

 

 

อินซูลิน Insulin

อินซูลินเป็นยาที่ร่างกายใช้ในการรักษาสมดุลของระดับน้ำตาลในเลือด จะใช้กับผู้ป่วยที่เป็นโรคเบาหวานซึ่งเป็นโรคที่ร่างกายสามารถผลิตอินซูลินได้น้อยกว่าปกติ และถึงแม้เราจะได้ยินว่าน้ำส้มสายชูแอปเปิ้ลไซเดอร์ จะสามารถควบคุมระดับน้ำตาลในเลือดได้ก็ตาม แต่ก็มีการศึกษาบางงานแสดงว่าการน้ำส้มสายชูแอปเปิ้ลไซเดอร์นี้ร่วมกับอินซูลิน จะทำให้เกิดการลดต่ำลงมากเกินไปของระดับโปตัสเซียมและน้ำตาลในเลือดจนอาจเกิดอันตรายได้

 

นอกจากนี้ ยังควรระวังให้มากๆกับการบริโภคน้ำผสมน้ำส้มสายชูแอปเปิ้ลไซเดอร์ต่อเนื่องเป็นเวลานานๆ เพราะมีการศึกษาพบว่า การบรโภคน้ำส้สายชูแอปเปิ้ลไซเดอร์ในปริมาณ 8 ออนซ์ทุกๆวันต่อเนื่องกันเป็นเวลา 2-3 ปี จะทำให้เกิดโรคกระดูกบางขึ้นได้ในเวลาไม่กี่ปี จากการที่โปตัสเซียมซึ่งเป็นแร่ธาตสำคัญในการสร้างกระดูกลดน้อยลงนั่นเอง

 

 

applecider003

 

 

ถ้าคุณคือกลุ่มคนเหล่านี้ ก็ไม่ควรบริโภคน้ำผสมน้ำส้มสายชูแอปเปิ้ลไซเดอร์

มารดาในระหว่างตั้งครรภ์และให้นมบุตร

ผู้หญิงตั้งครรภ์ไม่ควรบริโภคน้ำผสมน้ำส้มสายชูนี้ เพราะมันยังไม่มีหลักฐานทางการแพทย์ใดๆที่บอกถึงผลดีของมันที่มีต่อร่างกายในช่วงตั้งครรภ์ และหากเป็นมารดาที่กำลังให้นมบุตร มันก็อาจจะส่งผลลบต่อพัฒนาการของทารกแรกเกิดโดยเฉพาะพัฒนาการในการสร้างเนื้อเยื่อและความแข็งแรงของกระดูก

 

 

ผู้หญิงช่วงหลังวัยทอง

หลังวัยทองหรือช่วงหมดรอบเดือนใหม่ๆ จะเป็นช่วงเวลาที่ผู้หญิงมีสภาวะเปลี่ยนแปลงเรื่องความหนาแน่นของกระดูก ซึ่งหากบริโภคน้ำส้มนิดนี้ในปริมาณสูงๆ ก็จะทำให้เกิดสภาวะกระดูกบางขึ้นได้ในสตรีหลังวัยทอง

 

 

ผู้เป็นโรคเบาหวาน

ผู้ที่มีอาการของโรคเบาหวาน จะต้องระวังอย่างมากในการบริโภคน้ำส้มสายชูชนิดนี้ เพราะน้ำส้มนี้จะไปลดระดับน้ำตาลในเลือด ซึ่งหากคุณบริโภคยาที่ลดระดับน้ำตาลดังกล่าวนี้อยู่แล้ว ก็เท่ากับไปทำให้ระดับน้ำตาลลดต่ำลงจนมากเกินไป และอินซูลินและน้ำส้มสายชู ก็จะไปลดระดับโปตัสเซียมในร่างกายลงด้วยจนเป็นอันตรายได้เช่นกัน

 

ไม่ว่าคุณจะเลือกการดูแลสุขภาพด้วยแนวทางใด สิ่งที่อยากจะให้ระลึกไว้เสมอก็คือ ทุกสิ่งที่ทำลงไป มีทั้งผลดีและผลข้างเคียง ควรหาความรู้ให้เข้าใจในผลทั้งสองด้านเสียก่อน จึงตัดสินใจเลือกวิธีดูแลสุขภาพที่เหมาะสมกับตัวเองที่สุด