City Break New York City Part X (Episode.4)

Night out in the city that never sleep…(Final)

..มีการกล่าวกันว่า ‘There is no business like show business’ และประเทศที่ยิ่งใหญ่ที่สุดในเรื่องธุรกิจบันเทิงนี้ก็คืออเมริกา ซึ่งคงต้องให้เครดิต Broadway Musical พอสมควรที่ทำให้อเมริกาเป็นเจ้าแห่ง Show Business ได้..

Broadway Musical

ผมขอส่งท้าย City Break New York Series ด้วยเรื่องละครบอร์ดเวย์ ที่มันเปรียบเสมือนสิ่งที่ขาดกันไม่ได้ เหมือนกับว่า หากนิวยอร์กไม่มีละครบอร์ดเวย์ เพลง New York New York ของ Frank Sinatra ที่ผมพูดถึงในตอนที่1 ของบทความนี้ก็อาจจะไม่เกิดขึ้นมาได้ สีสันของถนนดังแห่งนี้ก็ไม่มีอะไรน่าจดจำเพราะมันก็จะไม่ใช่ย่าน Theater District และอุตสาหกรรมหนังของHollywood ก็อาจไม่มีแรงขับเคลื่อน อาชีพนักแสดงซึ่งมักต้องไต่เต้าจากละครร้องหรือละครเวทีก็อาจจะไม่ต้องใช้ความสามารถในการแสดงเท่านี้ จะเห็นว่าดาราฮอลลีวูดส่วนใหญ่ร้องรำทำเพลงหรือเต้นได้แบบ ธรรมชาติ ไม่ใช่ดาราแบบที่แค่ท่องบทได้ก็เป็นดาราได้แล้ว

ละครแบบMusicalก็คือละครที่ใช้เพลงแทนการเล่าเรื่องหรือการแสดงออก อาจเป็นแบบcomedyคือละครตลกสนุกสนานหรือละครชีวิตแบบน้ำตาซึมก็ได้ ในนิวยอร์กก็มักจะแสดงกันในโรงละครที่ตั้งอยู่บริเวณถนนบอร์ดเวย์ ในลอนดอนก็มีเช่นกันในแถบWest End ใกล้ๆ ย่านSoho มันเริ่มมาตั้งแต่เริ่มศตวรรษที่20 มีละครที่สร้างชื่ออดังนี้ Show Boat (1927) , Oklahoma! (1943) ตามมาด้วย West Side Story (1957), The Fantasticks (1960), Hair (1967), A Chorus Line (1975), Les Misérables (1985), The Phantom of the Opera (1986), Rent (1996), The Producers (2001), Wicked (2003) และล่าสุด Hamilton (2015)

ปัจจุบันโรงละคร Broadway มีเหลืออยู่ 41 แห่ง เมื่อก่อนมีมากกว่านี้และทั้งหมดก็จะอยู่ใกล้ๆ Times Square ทุกๆ ปีจะมีคนเข้าชมละครเป็นล้านคน และละครบางเรื่องก็ไม่เคยออกจากโรงเลย เล่นเรื่องเดียวมาตลอดอาจเปลี่ยนตัวละครไปหลายชุดแต่เรื่องไม่เปลี่ยน เช่นเรื่อง The Phantom of the Opera ในขณะที่ดาราฮอลลีวูดที่มีผลงานจะได้รางวัล Oscar แต่รางวัลของดาราละครBroadwayจะได้เป็น Tony Awards และเนื่องจากละครBroadwayมักจะเป็นละครที่ต้องใช้บทประพันธ์เพลงและเนื้อร้องที่อลังการ และบทพูดที่อาจต้องให้เดินเนื้อเรื่องสนุก เพราะไม่มีการตัดต่อเหมือนภาพยนต์จึงต้องได้ผู้ประพันธ์ที่มีความเป็นมืออาชีพสูง ต้องทุ่มทุนสร้างต้นทุนก็สูงตามแถมยังใช้ตัวละครเยอะ ฉากยิ่งใหญ่ แบบว่าบางเรื่องเล่นผ่านไป 1-2 ปีแล้วทุนยังไม่คืนก็มี ดังนั้นทำให้ละครต้นทุนต่ำไม่มีโอกาสมาแสดงที่นี่ จึงเกิดละครที่เรียกว่า Off Broadway เกิดขึ้นทั่วไปในนิวยอร์ก อาจอยู่ที่Brooklyn หรือที่ไหนที่ไม่ใช่บอร์ดเวย์แต่ก็ดังได้เหมือนกัน เป็นแบบคล้ายค่ายเพลงIndieนั่นเอง คือจะมีกลุ่มตลาดอีกแบบ

 
แนะนำ Broadway Shows เรื่องที่น่าสนใจ (ไม่ใช่รีวิวนะครับรีวิวต้องโดยผู้ชำนาญหาอ่านดูครับ)

Aladdin

Aladdin แสดงที่ New Amsterdam Theatre บทเพลงโดย Alan Menken เนื้อร้องโดย Howard Ashman และTim Rice กำกับโดย Casey Nicholaw กับ Adam Jacobs, James Monroe ความยาว 2 ชั่วโมง 20 นาที มีเบรก 1 ช่วง มันคือการนำการ์ตูนของDisney มาสู่ละครเวทีแบบเดียวกับ Beauty and the Beast และThe Lion King ซึ่งเพลงของดีสนีย์ก็มักจะไพเราะอยู่แล้ว และแถมเรื่องเอฟเฟ็กต์เช่นพรมบินได้ หรือจินนี่ออกจากตะเกียงวิเศษก็เป็นอะไรที่น่าสนใจ

 
Beautiful—The Carole King Musical

Beautiful—The Carole King Musical ถ้าท่านชอบเพลงของ Carole King อย่าง “So Far Away,” “Will You Still Love Me Tomorrow,” “It’s Too Late” ท่านก็น่าจะมีโอกาสชอบละครเรื่องนี้ เพราะมันก็เหมือนเก็บเอาบางช่วงของชีวิตนักร้องคนนี้ที่เติบโตมาในย่านBrooklyn ที่ต้องฟันฝ่าอะไรมาหลายอย่างมาทำบทละคร คนที่ไปดูมาแล้วบอกว่าไม่ผิดหวัง

 
A Bronx Tale: The Musical

A Bronx Tale The Musical Broadway NYC

เมื่อลูกชายต้องเลือกเอาระหว่างพ่อ ซึ่งทำงานบริสุทธิ์เคารพกฎหมายด้วยอาชีพขับรถโดยสารกับเจ้านายที่เป็นหัวหน้าแก็งค์มาเฟีย มีบทเพลงที่แต่งโดย Alan Menken เนื้อร้องโดย Glenn Slater (Leap of Faith) แต่ที่น่าสนใจที่สุดก็คือกำกับโดย Robert De Niro และ Jerry Zaks

 
Cats

Cats Broadway NYC

ถือเป็น Broadway Classic ที่มีบทเพลงโดย Andrew Lloyd Webber ซึ่งเปรียบเหมือนกับ’ตัวพ่อ’ แห่งวงการเพลงละครบอร์ดเวย์ มันเคยออกแสดงในช่วงปี 80 อยู่ถึง 18 ปีด้วยกัน และตอนนี้มีการนำกลับมาแสดงใหม่ จะดีกว่าเก่าหรือไม่ต้องพิสูจน์กันเองครับ แต่ท่านควรมีพื้นฐานเป็นคนชอบแมวซะหน่อย เพราะผมเป็นคนชอบหมาเลยยังไม่เคยดูสักครั้ง
แสดงที่ Neil Simon Theatre , Midtown West จนถึง 31 ธันวาคม 2017

 
Chicago

Chicago Broadway NYC

นี่คือผลงานของ John Kanderแต่ถูกนำมาชุบชีวิตใหม่โดยผู้กำกับ Walter Bobbie มันเป็นเรื่องราวของนักร้องประสานเสียงChorus Girl ชื่อ Roxie Hart ที่พัวพันกับคดีฆาตกรรมคนรักของเธอ แต่ได้รับกาช่วยเหลือโดยทนายความจอมพลิกแพลงที่หลงรักเธอ ทำให้เธอโด่งดังเป็นดาราขึ้นมา ความยาวชั่วโมงครึ่ง มี 1 เบรก (intermission)

 

Cirque du Soleil Paramour

Cirque du Soleil Paramour Broadway NYC

ถ้าใครชอบดูละครเพลงที่เหมือนได้ดูกายกรรมด้วยอาจต้องพิจารณาเรื่องนี้ มันเคยเป็นโชว์แบบSpectacle ไม่ใช่ละครอยู่ที่ Las Vegas เรียกว่าโด่งดังตื่นตาตื่นใจ ตัวละครเกือบทุกคน มีความสามารถด้านกายกรรม Acrobats ตีลังกากัน 4-5 ตลบแบบนักกีฬายิมนาสติก แต่การเอามาดัดแปลงให้เป็นละครบอร์ดเวย์ที่ต้องมีเพลงร้อง บางคนบอกว่ามันไม่เนียนที่จะทำให้แฟนละครยอมรับ
แสดงที่ Lyric Theatre , Midtown West จนถึง 16 เมษายน 2017

 
The Color Purple

The Color Purple Bradway NYC

The Color Purple คือละครที่เคยเล่นมาในช่วงปี2005 แล้วก็ถูกนำมาปัดฝุ่นลงโรงใหม่อีกครั้ง ในลีลาที่คล่องแคล่วกว่าเดิม คือเดินเรื่องไม่อืดอาดเหมือนเดิม เพราะคราวนี้มาลงโรงเล็กด้วยนักแสดงเลยโดนตัดไปเยอะ เรื่องนี้คนรู้จักดีเพราะเคยถูกสร้างเป็นหนังมาก่อน มันถูกดัดแปลงมาจากบทประพันธ์ของ Alice Walkerนวนิยายของเขาในปี1982 เป็นการเล่าเรื่องราวของ Celie ตั้งแต่อายุ14 ปีที่ถูกข่มขืนโดยผู้ซึ่งเชื่อว่าเป็นพ่อของเธอ เพราะเขาคิดว่าลูกได้ตายไปแล้วและเรื่องราวก็เดินต่อไปถึงการฟันฝ่าอุปสรรคต่างๆ
แสดงที่ Bernard B. Jacobs Theatre , Midtown West

 
Come from Away

Come from Away Broadway NYc

เป็นเหมือนเรื่องจริงที่ไม่น่าจะกลายมาเป็นละครบอร์ดเวย์ Come Fly Away คือนำเหตุการ์ณที่ค่อนข้างเครียดสำหรับผู้โดยสารกว่า 6,000 คนของสายการบินต่างๆ 38 ลำที่ถูกบังคับให้ลงจอดที่สนามบิน Ganderใน Newfoundland ของแคนาดาเมื่อวันที่มีเหตุการ์ณ 911 หรือวันที่ 11 กันยายน 2001 มาเดินเรื่อง ทั้งนี้หนังสือ บทเพลงบทพูดมาจากทีมทำละครของแคนาดา นำโดย Irene Sankoff และ David Hein
แสดงที่ Gerald Schoenfeld Theatre , Midtown West

 
Dear Evan Hansen

Dear Evan Hansen Bradway NYC

เรื่องนี้เป็นบทละครที่ตั้งใจทำให้มาเป็นละครเพลงแบบmusicalโดยเฉพาะ ไม่เหมือนบางเรื่องที่เอามาจากภาพยนตร์ดังหรือการ์ตูน หรือแม้แต่วงดนตรีที่มีเพลงดังเช่น Mama Mia! เรื่องนี้เป็นเรื่องราวต่อเนื่องของนักเรียน High School ที่มารวมกลุ่มกันและต้องเชื่อใจกัน หลังจากที่เพื่อนร่วมห้องคนหนึ่งถูกฆ่า มันเคยเป็นละครแบบOff Broadway คืออยู่ในโรงชั้น 2 มาก่อน แต่คนมาดูเต็มตลอดก็เลยเขยิบขึ้นมาBroadwayจากบทประพันธ์ของ Steven Levenson

 

Jersey Boys

มันคือเรื่องราวของ Frankie Vallie และ The Four seasons วงดนตรีที่ดังในยุค 60 ต่อ 70 ซึ่งมีเพลงฮิตดังๆ มากมายรวมทั้งเพลงที่ผมชอบคือ เพลง Who Loves You คือลำพังเพลงแต่ละเพลงก็น่าจะทำให้ละครเรื่องนี้ประสบความสำเร็จได้ไม่ยาก การเล่าความเป็นมาของสมาชิกในวงตั้งแต่เป็นพวกแก๊งส์เกเรที่เติบโตมาในนิวเจอร์ซี่จึงเป็นโจทย์ไม่ยากนักสำหรับคนเขียนบท

 
Off Broadway Show

ก่อนจบจะขอแถมแนะนำละครแบบ Off Broadway Productions ให้ซักเรื่อง เพราะบางครั้งมันคุ้มค่ากว่าดูบอร์ดเวย์ในราคาแพงแล้วเจอโชว์ที่ไม่เข้าตา พวกโรงชั้น 2 นี้ มักมีราคาอยู่ที่ช่วง$15–$25 แต่มักจะเป็นโรงเล็กจุได้ไม่น่าเกิน 100 ที่นั่ง แต่มีโรงละครประเภทนี้เยอะอยู่กระจายตัวอยู่ทั่วไปไม่ได้อยู่แถว Times Square เหมือนพวก Broadway Show

 

Ghosts of Christmas Past

Ghosts of Christmas Past Broadway NYC

เป็นเรื่องราวที่รวบรวมมาจากละครวิทยุสมัยก่อน โดย Dan Bianchi ไม่ทราบว่าจะเหมือนหนังผีไทยหรือไม่ ที่ถือเป็นsure bet คือลงทุนแล้วเจ๊งยาก เพราะคนไทยชอบหนังผีแล้วมีตลกแทรก แต่เรื่องนี้นำเรื่องเล่าท้องถิ่นที่เป็นตำนานคล้ายหนังเรื่อง Urban Legend มาเป็นเรื่องสั้นทั้งหมด 14 เรื่อง โดยแต่ละวันจะแสดง 4-5 เรื่องใน 14 เพื่อให้คนกลับมาดูอีกในตอนที่ตัวองยังไม่ได้ดู เป็นไอเดียไม่เลวทีเดียว ถ้าท่านชอบ Ghost Stories และอยากลอง Off Broadway Show ดูสักครั้งก็เรื่องนี้เลยครับ

 

เราคงส่งท้ายมหานครนิวยอร์กกันในตอนนี้แล้วครับ แต่ City Break Series ของผมก็ยังมีต่อไป โดยจากที่นิวยอร์กเราจะบินข้ามแอตแลนติกไปที่ อมตะนคร หรือกรุงโรม (ตอนแรกว่าจะไปปารีส แต่ขอเก็บไว้ทีหลัง เพราะถ้าเขียนปารีสก่อนเดี๋ยวเมืองอื่นจะดูจืดไป) ซึ่งเหมือนเป็นเมืองแม่เมืองหนึ่งของชาวนิวยอร์กเพราะมีบรรพบุรุษอยู่ที่ Italy เยอะ กรุงโรมถือว่ามีที่เที่ยวมากมาย และยังเป็นต้นตำรับของวัฒนธรรมตะวันตกหลายอย่าง ไม่ว่าจะเป็นอาหารการกิน และไลฟ์สไตล์…แล้วเจอกันที่โรมครับ