เมื่อเร็วๆนี้ เราคงได้ยินกันว่า องค์การอนามัยโลกหรือ WHO รวมทั้งกระทรวงสาธารณสุขของประเทศไทยได้ออกมาเตือนให้เราเตรียมตัวรับมือกับการแพร่ระบาดอีกครั้งของโรคไข้หวัดใหญ่ ซึ่งคาดว่าในปี 2562 นี้จะรุนแรงขึ้น ส่งผลให้มีอัตราการเสียชีวิตของประชากรโลกในช่วงการระบาดได้มากถึง 290,000 – 650,000 คนต่อปีเลยทีเดียว สายพันธุ์ของโรคนี้ที่พบมากคือสายพันธุ์บี พบในกลุ่มเด็กมากกว่าผู้ใหญ่ถึง 9 เท่า นี่คือตัวเลขประมาณการณ์ซึ่งคาดว่าจะเพิ่มขึ้นเรื่อยๆ โดยเฉพาะการระบาดของเชื้อไวรัส H1N1 ที่สถิติพบว่า ทุกๆ1 คนใน 5 คนจะมีการติดเชื้อโรคนี้และในจำนวนผู้ติดเชื้อทั้งหมดจะมีผู้ที่อาการหนักอยู่ราว 3-5 ล้านคนทีเดียว สิ่งสำคัญก็คือ มีเชื้อไข้หวัดอยู่รอบตัวทั้งในที่ทำงานและคนที่เราต้องติดต่อด้วย ปัญหาคือทำอย่างไรเราถึงจะไม่นำโรคนี้หรือโรคใดๆก็ตามไปแพร่เชื้อต่อให้กับคนในบ้าน
มีกิจวัตรประจำวันหลายๆอย่างที่เราทำและมันก็เป็นพาหะนำเชื้อโรคเข้าไปในบ้านและส่งต่อให้กับสมาชิกในครอบครัวโดยไม่รู้ตัวมาดูเคล็ดลับต่อไปนี้ ซึ่งจะช่วยให้บ้านของเราปลอดจากโรคไข้หวัดใหญ่และเชื้อโรคต่างๆดีขึ้นกว่าเดิม
1. อย่าลืมล้างนิ้วหัวแม่มือ:การล้างมือเป็นวิธีฆ่าเชื้อโรคที่ได้ผลที่สุดแต่เราก็มักจะลืมล้างนิ้วหัวแม่มือหรือนิ้วโป้งเพราะมัวใส่ใจกับนิ้วชี้ถึงนิ้วก้อยมากกว่าซึ่งนิ้วหัวแม่มือเป็นนิ้วที่สัมผัสเชื้อโรคต่างๆมากที่สุด จากพื้นผิวของสิ่งต่างๆเช่น ปุ่มโทรศัพท์มือถือ, รีโมทคอนโทรล ฯลฯ ซึ่งมักเป็นนิ้วที่เราละเลยบ่อยๆเมื่อล้างมือ
2. อย่าวางกระเป๋าหรือถุงบนพื้น:การทำแบบนั้นเป็นการเปิดทางให้เชื้อโรคเข้าสู่ร่างกายได้ง่ายขึ้นโดยเฉพาะพื้นในห้องน้ำหรือในร้านอาหารเพราะถุงและกระเป๋านั้น มักทำจากผ้าหรือหนังสัตว์ ซึ่งมีโอกาสติดเชื้อโรคจากพื้นได้ง่ายมากควรใช้สบู่อ่อนๆผสมน้ำอุ่น นำผ้านุ่มๆชุบส่วนผสมเช็ดกระเป๋าให้ทั่วเพื่อขจัดฝุ่นและเชื้อแบคทีเรียออกไป
3. เก็บแปรงสีฟันแยกจากของคนอื่น:โรคไข้หวัดใหญ่, โรคอาหารเป็นพิษ, เชื้อแบคทีเรียอีโคไลสาเหตุของโรคท้องร่วงตลอดจนเชื้อราต่างๆ จะเจริญเติบโตได้ดีบนแปรงสีฟัน การเก็บแปรงสีฟันของทุกคนไว้ในภาชนะเดียวกันจะทำให้เชื้อโรคถ่ายโอนถึงกันได้ควรนำแปรงสีฟันใส่กล่องปิดฝาบนตัวแปรงให้มิดชิด แล้วเก็บแยกออกจากแปรงสีฟันของคนอื่นๆ โดยเฉพาะอย่างยิ่งเมื่อมีคนในบ้านป่วยเป็นไข้หวัดหรือไข้หวัดใหญ่
4. เช็ดฆ่าเชื้อโรคบนมือจับทุกอย่างในบ้าน:เรามักทำความสะอาดลูกบิดประตู แต่ลืมดูแลอุปกรณ์มือจับอื่นๆในบ้านเช่นมือจับบานเปิดตู้ในครัว มือจับตู้เย็น ลิ้นชักและตู้เสื้อผ้ามือจับเหล่านี้เป็นที่สะสมเชื้อโรคได้มาก ทั้งทุกคนในบ้านมักสัมผัสเป็นประจำด้วยควรเช็ดทำความสะอาดมันด้วยผ้านุ่มๆชุบน้ำยาฆ่าเชื้อโรคหรือแอลกอฮอล์ทุกๆ 1-2 วันและทำทุกวันหรือเมื่อมีคนในบ้านป่วยด้วยไข้หวัด
5. วางรองเท้าไว้นอกบ้าน:อย่าลืมว่ารองเท้าของเราคือสิ่งที่ใช้เดินตระเวณไปทุกหนแห่งในทุกๆวัน และถ้าหากเราใส่มันย่ำเข้ามาในพื้นบ้าน บนพรมและที่ต่างๆนั่นก็คือการทำให้เชื้อโรคจากนอกบ้านกระจายไปทั่วในบ้าน ซึ่งเราและทุกคนก็จะเจ็บป่วยจากเชื้อโรคนั้น
6. อย่าบริโภคอาหารบนโต๊ะทำงาน:บนโต๊ะทำงานมีจำนวนเชื้อโรคที่มากและสกปรกกว่าบนที่นั่งชักโครกในห้องน้ำถึง 100 เท่า นี่เป็นการศึกษาจากสถิติของหลายๆสำนักออกมายืนยันเพราะเหตุนี้ การบริโภคมื้อเที่ยงบนโต๊ะทำงานจึงเป็นสิ่งที่ไม่ควรทำ เพราะมือของคุณจะต้องสัมผัสกับพื้นผิวโต๊ะที่เต็มไปด้วยเชื้อโรค ดังนั้น ถ้าจะบริโภคอาหารให้ไปที่ห้องพักดื่มกาแฟหรือห้องครัวของออฟฟิศ แล้วก็อย่าลืมฆ่าเชื้อโรคที่มือก่อนด้วยการใช้ผ้านุ่มชุบน้ำยาหรือแอลกอฮอล์เจล เช็ดมือให้สะอาดก่อนจะหยิบแซนวิชขึ้นมาบริโภค
7. อย่าเอาโทรศัพท์เข้าห้องน้ำ:อะไรก็ตามที่หยิบติดมือเข้าไปในห้องน้ำ มันสามารถจะเปื้อนเชื้อโรคได้ทั้งนั้นจากสถิติพบว่า 16% ของโทรศัพท์มือถือได้รับเชื้อโรคจากสถานที่แห่งนี้ ดังนั้นเพื่อฆ่าเชื้อโรค ให้ทำความสะอาดมือถือด้วยผ้าชุบแอลกอฮอล์และซื้อแผ่นเช็ดทำความสะอาดใส่ในกระเป๋าหรือในรถ เพื่อเช็ดเป็นประจำ
8. ตุนโยเกิร์ตใส่ตู้เย็นไว้บริโภค:จากการวิจัยเชื่อว่าจุลินทรีย์โปรไบโอติกในโยเกิร์ตอาจมีศักยภาพในการช่วยต้านเชื้อไวรัสจากโรคหวัดได้ในระดับหนึ่งมีการศึกษาที่ตีพิมพ์ในวารสาร the Canadian Medical Association Journal แนะนำว่าโปรไบโอติกสามารถช่วยยับยั้งการติดเชื้อของระบบทางเดินหายใจช่วงบน ผลไม้เช่นบลูเบอร์รี่และเบอร์รี่สีเข้ม ก็ช่วยเพิ่มประสิทธิภาพระบบภูมิคุ้มกันโรคได้ดี
9. เปลี่ยนผ้าปูที่นอนทุกสองสัปดาห์:ผ้าปูที่นอนเป็นเหล่งสะสมของเชื้อโรคอย่าใช้ผ้าปูที่นอนครั้งละนานๆเกิน2 สัปดาห์และจะดีกว่าถ้าเปลี่ยนมันได้ทุกๆสัปดาห์ให้ซักผ้าปูที่นอน ปลอกหมอน และผ้าเช็ดตัวในน้ำร้อน ตากแดดหรืออบให้แห้งสนิทเพื่อฆ่าเชื้อโรค
10. ฉีดวัคซีนป้องกันไข้หวัดใหญ่:เพื่อป้องกันไข้หวัดใหญ่ ควรฉีดวัคซีนป้องกันตั้งแต่เนิ่นๆ และถึงจะฉีดวัคซีนนี้แล้ว ก็ควรศึกษาวิธีป้องกันตัวเองจากเชื้อโรคนี้ด้วย เพราะการฉีดวัคซีนไม่ได้แปลว่าจะป้องกันได้ร้อยเปอร์เซ็นต์
11. ใส่ใจดูแลสัตว์เลี้ยง:เมื่อช่วงต้นปีนี้มีเรื่องของไวรัสจากสุนัข ที่สามารถแพร่เชื้อมาสู่มนุษย์ได้ในสหรัฐอเมริกา และในขณะที่ไวรัสไข้หวัดใหญ่ในสายพันธุ์ที่เป็นกับสุนัข ก็จะมีความแตกต่างกับไวรัสโรคนี้ที่เป็นกับมนุษย์แต่มันก็จะทำให้สุนัขของเราเป็นส่วนหนึ่งของความเสี่ยงได้เช่นกันจึงควรระวังและใส่ใจมันให้มากขึ้น
ทุกครั้งที่มีคนในบ้านเจ็บป่วย นอกจากจะเป็นความกังวลใจแล้ว ก็ยังเป็นสัญญาณให้เราต้องเพิ่มความใส่ใจของสุขอนามัยในบ้านให้มากขึ้นอีกด้วย มาทำพื้นที่แห่งความสุขของครอบครัวแห่งนี้ ให้เป็นที่ปลอดภัยของสุขภาพด้วยกัน แค่เราใส่ใจในรายละเอียดเพิ่มขึ้นอีกนิด ก็จะได้สิ่งดีๆกลับคืนมามากมายค่ะ