ส่องความหรูหรานาฬิกาคาร์เทียร์ Maillon de Cartier พลิ้วเส้นสายสวยสง่าบนข้อมือ

เป็นเรื่องที่รู้กันดีว่าผู้หญิงนั้นทั้งรักทั้งหลงใหลความสวยงามและความหรูหราอย่างที่สุด และถึงแม้ว่าการอยู่บ้านในช่วงนี้อาจทำให้คุณต้องพักก่อน ไม่ได้เดินทางออกไปไหนมาไหน ไม่ได้ออกไปวินโดร์ช้อปปิ้งอย่างที่ชอบทำ ฯลฯ แต่ทั้งนี้ทั้งนั้นก็ไม่มีสิ่งใดจะมาหยุดความหรูหราในใจคุณไว้ได้ วันนี้ทีมเอดิเตอร์ #สายแฟ สายจิวเวลรี่ จะนำคุณไปทำความรู้จักนาฬิกาจากแบรนด์ดัง Cartier รับรองว่าความสวยหรูของนาฬิกาเวอร์ชั่นนี้จะทำให้ใจคุณเต้นแรงขึ้นแน่นอน

Maillon-de-Cartier-1

Maillon-de-Cartier-2

เมลลงเดอคาร์เทียร์ (Maillon de Cartier) เรือนเวลาคอลเลคชั่นล่าสุดจาก คาร์เทียร์ (Cartier) แบรนด์เครื่องประดับและนาฬิกาสัญชาติฝรั่งเศสคอลเลคชั่นเรือนเวลาที่บ่งบอกสไตล์ของสตรีผู้สวมใส่ได้เด่นชัดที่สุด สายโซ่ที่พันรอบรับกับข้อมือเป็นองค์ประกอบหลักที่สะดุดตา ผสานดีเอ็นเอของคาร์เทียร์ทั้งในอดีตและปัจจุบัน เมลลงเดอคาร์เทียร์ (Maillon de Cartier) พลิกทัศคติแบบเดิมๆ ของนาฬิกาทั่วไปอย่างสิ้นเชิงสวยงามดั่งเครื่องประดับอัญมณี
สตูดิโอออกแบบนาฬิกาของเมซงคาร์เทียร์บรรจงออกแบบนาฬิการุ่นนี้ขึ้นด้วยความคิดสร้างสรรค์สายนาฬิกาแบบโซ่ถูกถักเรียงในแนวทแยงสลับไปมานอกจากจะเป็นทรวดทรงที่ได้รูปสวยงามแล้ว ยังสะท้อนความหรูหราในแบบสตรีได้อย่างลงตัว

Maillon-de-Cartier-7

Maillon-de-Cartier-5

Maillon-de-Cartier-6

ความโดดเด่นอันเป็นเอกลักษณ์ทั้งหมดนี้มาจากการถักทอของเส้นสายนาฬิกาเพื่อเน้นให้เรือนหน้าปัดแลดูกลมกลืนไปกับเรือนเวลา ตัวเรือนและข้อต่อประสานกันด้วยลีลากราฟิกข้อต่อเหลี่ยมมุมฉาก หน้าปัดทรงหกเหลี่ยม และบรังการ์ดตัดมุมเฉียงการออกแบบของนาฬิกา เมลลงเดอคาร์เทียร์ (Maillon de Cartier) ช่วยเสริมดีไซน์ให้งดงามในแบบเรขาคณิตโครงสร้างของนาฬิการูปทรงของข้อไปจนถึงตัวเรือนที่เป็นเหลี่ยมมุม ได้เปลี่ยนจิตวิญญาณของนาฬิการุ่นนี้อย่างสุดโต่งเสน่ห์อีกด้านของเมลลงอยู่ที่วอลลุ่มที่แน่นทึบเป็นชิ้นเป็นอัน บิดเกลียวเข้ากันไปกับเหลี่ยมและมุม

Maillon-de-Cartier-8

Maillon-de-Cartier-3

Maillon-de-Cartier-4

“เราต้องการเปลี่ยนสายนาฬิกาด้วยดีไซน์ใหม่ที่ดีเยี่ยมยิ่งกว่าเดิม โดยเล่นกับวอลลุ่มองค์ประกอบที่ดึงดูดสายตาอยู่ที่การเคลื่อนไหวและพลังในชิ้นงาน” มารี-ลอร์ เซแรด, ผู้อำนวยการสร้างสรรค์นาฬิกา

เมลลงเดอคาร์เทียร์ (Maillon de Cartier) คอลเลคชั่นเรือนเวลาอันล้ำค่านี้ ยังมีรุ่นที่ตกแต่งด้วยอัญมณีเสริมให้ดีไซน์โดดเด่นยิ่งขึ้น หน้าปัดเคลือบแล็กเกอร์สีน้ำเงินหรือซาโวไรท์เข้ากันกับของต่อของสายนาฬิกาที่ประดับเรียงรายเกิดเป็นเอฟเฟ็คท์แบบจลนศิลป์ การเคลื่อนไหวของเส้นสาย หรือ kinetic ลายกราฟฟิคและความตรงกันข้ามเห็นเด่นชัดที่สุดในเวอร์ชั่นเยลโลโกลด์ประดับเพชรพร้อมเคลือบแล็กเกอร์สีดำที่ข้อต่อสายนาฬิกา

Maillon-de-Cartier-9

ขนาด 16 x 17 มม., หนา 6.8มม.
ตัวเรือนเยลโลโกลด์18K
เม็ดมะยมฝังแซฟไฟร์เจียระไนแบบคาโบชง
ขับเคลื่อนด้วยกลไกลควอตซ์

Maillon-de-Cartier-10

ขนาด 16 x 17 มม., หนา 6.8 มม.
ตัวเรือนพิงค์โกลด์18K
เม็ดมะยมฝังเพชรบริลเลียนคัท (0.07 กะรัต)
ขอบหน้าปัดฝังเพชรบริลเลียนคัท24 เม็ด (0.54 กะรัต)
ขับเคลื่อนด้วยกลไกลควอตซ์

Maillon-de-Cartier-11
ขนาด 16 x 17 มม., หนา 6.8 มม.
ตัวเรือนไวท์โกลด์18K
เม็ดมะยมฝังเพชรบริลเลียนคัท (0.07 กะรัต)
ขอบหน้าปัดฝังเพชรบริลเลียนคัท24 เม็ด (0.54 กะรัต)
ขับเคลื่อนด้วยกลไกลควอตซ์

Maillon-de-Cartier-12

ขนาด 16 x 17 มม., หนา 6.8 มม.
ตัวเรือนพิงค์โกลด์18K
เม็ดมะยมฝังเพชรบริลเลียนคัท (0.07 กะรัต)
ตัวเรือนและขอบหน้าปัดฝังเพชรบริลเลียนคัท400 เม็ด (8.30 กะรัต)
ขับเคลื่อนด้วยกลไกลควอตซ์

Maillon-de-Cartier-13
ขนาด 16 x 17 มม., หนา 6.8 มม.
ตัวเรือนไวท์โกลด์18K
เม็ดมะยมฝังเพชรบริลเลียนคัท (0.07 กะรัต)
ตัวเรือนและหน้าปัดฝังเพชรบริลเลียนคัท486 เม็ด (8.64 กะรัต)
ขับเคลื่อนด้วยกลไกลควอตซ์

Maillon-de-Cartier-14
ขนาด 16 x 17 มม., หนา 6.8มม.
ตัวเรือนเยลโลโกลด์18K
เม็ดมะยมฝังเพชรบริลเลียนคัท (0.07 กะรัต)
ตัวเรือนและขอบหน้าปัดฝังเพชรบริลเลียนคัท580 เม็ด (9.33 กะรัต) หน้าปัดเคลือบแล็กเกอร์สีดำ
ขับเคลื่อนด้วยกลไกลควอตซ์
วางจำหน่ายทั่วโลกเพียง 50 เรือน

Apple Watch Series 2 กับดีไซน์ และแฟชั่นล้ำ!

002

Apple Watch และ Apple Watch Edition

 

ด้วยความที่แอปเปิ้ล สร้างภาพลักษณ์ Apple Watch เอาไว้ให้เป็นทั้งนาฬิกา สมาร์ทดีไวซ์ และแฟชั่นไอเท็ม ก็เลยทำให้แอปเปิ้ลวอทซ์ มาพร้อมทั้งความสามารถ และความสวยงามแบบหลากหลายในหนึ่งเดียว

และเมื่อมาถึง Apple Watch Series 2 ก็เพิ่มความเป็นนาฬิกาสำหรับการกีฬา และสุขภาพ ทั้งการกันน้ำ (เสียที) การมีจีพีเอส เพื่อบอกพิกัดเส้นทางการวิ่ง หรือการทำกิจกรรมต่างๆ โดยไม่ต้องพึ่งพาสมาร์ทโฟน หรือแม้แต่ฟังก์ชั่นเล็กๆ แต่ชอบมากคือ การช่วยกำหนดลมหายใจเข้า-ออก ซึ่งก็จะช่วยในเรื่องของการทำสมาธิจากความเคร่งเครียด และรีบเร่งในวิถีชาวเมือง
ดูเหมือนจะเน้นความเป็นสปอร์ตมากขึ้น แต่ในความจริง แอปเปิ้ลวอทซ์ ซีรีย์ 2 นอกจากจะไม่ทิ้งความเป็นแฟชั่น ยังเพิ่มให้เยอะขึ้น นับตั้งแต่การที่สามารถจะตกแต่งหน้าปัดของนาฬิกาให้ได้ง่าย และหลากหลายมากยิ่งขึ้น (แบบทวีคูณ) ยังเพิ่มวัสดุตัวเรือนให้พรีเมี่ยมยิ่งขึ้น คือ เซรามิก จากเดิมที่ก็มีให้เลือกทั้ง อลูมิเนียม และ สเตนเลส สตีล

nike

Apple Watch Nike+

 

สีสันของ แอปเปิ้ล วอทซ์ ซีรีย์ 2 ยังมาพร้อมกับเวอร์ชั่น Apple Watch Nike + ที่มาพร้อมกับแอพ Nike + Run Club แอพพลิเคชั่นของไนกี้สำหรับการวิ่งโดยเฉพาะ และก็มาพร้อมกับสายนาฬิกา Nike Sport Band ที่ไนกี้ที่ออกแบบมาให้สวมใส่เพื่อเล่นกีฬาโดยเฉพาะ เบา ยืดหยุ่น และระบายเหงื่อและอากาศ รวมทั้งหน้าปัดที่ออกแบบมาเป็นพิเศษ

hermes1

hermes2

hermes3

Apple Watch HERMES

 

ลืมไม่ได้คือ Apple Watch Hermes เวอร์ชั่นที่ฮือฮาที่สุดนับตั้งแต่การเปิดตัวครั้งแรกเมื่อปีที่ผ่านมา และครั้งนี้แอปเปิ้ล วอทซ์ ซีรีย์ 2 ก็ยังคงร่วมกับแอร์เมส แบรนด์แฟชั่นชั้นนำของฝรั่งเศส ที่คราวนี้ได้เปิดตัวพร้อมกับสายข้อมืองานฝีมือจากเวิร์คช็อปของแอร์เมสในรุ่น Double Buckle Cuff เพิ่มเติมจาก Single Tour และ Double Tour และแน่นอนมาพร้อมหน้าปัดนาฬิกาที่ได้แรงบันดาลใจจากนาฬิการุ่น Clipper, Cape Cod และ Espace ของแอร์เมส

009

Coach Band for Apple Watch

 

และที่จะลืมไม่ได้ คือสายนาฬิกาแอปเปิ้ล วอทซ์ ที่ออกแบบโดยอีกหนึ่งแบรนด์แฟชั่นของอเมริกา Coach นำเอาลวดลายดอกไม้อันเป็นซิกเนเจอร์ของแบรนด์ตกแต่งเป็นงานลอยตัวสามมิติ รวมทั้งแบบที่ตกแต่งด้วยจี้เงิน หรือลายพรางก็ไม่เลว สายนาฬิการุ่นนี้ปัจจุบันไม่ได้มีจำหน่ายแล้ว ใครมีแล้วก็ต้องถือเป็นของสะสมหายากเลยล่ะ

ปลายปีเช่นนี้ ก็ต้องถือว่าแอปเปิ้ลวอทซ์ ซีรีย์ 2 ก็เป็นอีกหนึ่งกิ๊ฟท์ไอเดียสำหรับช่วงเทศกาลเช่นนี้ (หักภาษีก็ไม่เลว)

True Thinline นวัตกรรมเวลาเรือนบางและเด็ดที่สุดของ Rado

Rado-04

Rado-05

Rado-08

Rado-06

 

พูดถึงนาฬิกา Rado ต้องยกให้เป็นแบรนด์แห่งนวัตกรรมเรือนเวลา เพราะไฮเทคเซรามิก ที่นาฬิกาแบรนด์สุดหรูนิยมใช้กันทั่วโลกก็มี ราโด นี่แหละที่ใช้กันมานานแสนนาน คราวนี้ ราโด นำนาฬิกาเรือนของปี 2016 มาอัพเดตในรุ่น True Thinline ที่โดดเด่นด้วยตัวเรือนไฮเทคเซรามิก ภายในบรรจุกลไกควอทซ์ที่มาขนาดบางเพียง 1 มม. ทำให้ตัวเรือนบางลงตามตวามความบางของกลไก และเป็นความบางที่สุดเท่าที่ราโดเคยทำมา

หน้าปัดเรียบหรูมีเพียงลวดลายซันเรย์ โลโก้ และเข็บอกเวลา กระจกหน้าปัดคริสตัวแซฟไฟร์ ฝาหลังไทเทียม แบบยูนิเซ็กส์ขนาด 39 มม.มีทั้งหมด 3 สี ได้แก่ ตัวเรือนสีขาวหน้าปัดอีนาเมลสีขาวมุก ตัวเรือนและหน้าปัดสีดำแวววาว และตัวเรือนพลาสม่าขัดเงาหน้าปัดเทา และไซส์สำหรับสตรีขนาด 30 มม. เพิ่มวงแหวนโรเดียมขอบหน้าปัดในรุ่นสีขาวและดำ และวงแหวนขอบหน้าปัด เข็มบอกเวลา และเม็ดมะยม สีโรสโกลด์สำหรับตัวเรือนและหน้าปัดพลาสม่า

นอกจากนี้ยังมี True Thinline เรือนพิเศษสุด True Thinline Skeleton ที่ทำจากตัวเรือนไฮเทคเซรามิกหนาเพียง 7 มม. เผยให้เห็นการทำงานกลไกไขลานอัตโนมัติที่ออกแบบให้บางที่สุด ผลิตเพียง 99 เรือนทั่วโลก งานดีของปีนี้มาถึงไทยแล้วนะ

 

Rado-03

 

Hi-tech Ceramic คืออะไร?

เรียกว่าเป็นความภาคภูมิใจของราโด ที่ได้คิดค้นและเริ่มใช้วัสดุไฮเทคเซรามิกก่อนใครในวงการนาฬิกา ที่ต่อมาได้กลายเป็นอีกหนึ่งมาตรฐานของนาฬิกาแบรนด์สุดหรู ด้วยเพราะน้ำหนักที่เบากว่าสเตนเลสสตีล ถึง 25% จึงให้ความรู้สึกสบายยิ่งขึ้นเมื่อสวมใส่ แต่แข็งแกร่งกว่าสเตนเลสสตีล ถึง 5 เท่า และยังป้องกันรอยขีดข่วนได้เป็นอย่างดี ทำให้เมื่อพูดถึง ราโด นอกจากจะเป็นแบรนด์นาฬิกาเรือนหรู ยังมาพร้อมนวัตกรรมการออกแบบ และการเลือกใช้วัสดุอันน่าตื่นตาเสมอมา

 

Rado-09

Rado-16

Rado-11

Rado-13

Rado-14

Rado-12

นอกจากนี้ นาฬิการาโด ยังได้จัดงานเปิดตัว ราโด ทรู ทินไลน์ ต่อแขกผู้มีเกียรติและสื่อมวลชนไปเมื่อวันก่อน

 

(ภาพ: ลิขสิทธิ์แบรนด์)