แอลกอฮอล์กับร่างกายเมื่อวัย 30+

 

รู้ไหมว่าเจ้าเครื่องดื่มนี้ทำอะไรคุณบ้างเมื่อวัยเพิ่มขึ้น

 

 

เราคงเคยได้ยินที่เขาบอกให้ “งดเหล้าเข้าพรรษา” กันในช่วงนี้ แต่ถ้าคุณได้รู้ว่า เจ้าเครื่องดื่มแอลกอฮอล์จะทำให้เกิดอะไรกับร่างกายคุณบ้างเมื่อวัยย่างเข้าเลข 30 คุณอาจจะไม่แตะต้องมันตลอดไปก็ได้!

 

 

ถึงแม้ว่าการดื่มไวน์สักแก้วสองแก้วในโอกาสพิเศษ จะเป็นเรื่องที่ใครๆเขาก็ทำกันเป็นปกติก็ตาม แต่เมื่อเราอายุมากขึ้น ระบบการเผาผลาญแอลกอฮอล์ในร่างกายก็จะเริ่มชะลอตัวลง ซึ่งหมายความว่า แม้แอลกอฮอล์ในปริมาณเพียงเล็กน้อยที่เราดื่มเข้าไป ก็จะทำให้เกิดผลเสียอันยิ่งใหญ่ต่อสุขภาพได้อย่างที่เราไม่คาดคิด ตับของเรา ที่เคยทำงานย่อยสลายแอลกอฮอล์ได้ดีเมื่อครั้งที่เราอายุน้อยๆ ก็จะทำงานได้ไม่ดีเท่าแต่ก่อน ซึ่งสิ่งที่เกิดขึ้นตามมาก็คือ แอลกอฮอล์และผลข้างเคียงต่างๆของมัน ก็จะคงค้างอยู่ในร่างกายเราได้นานขึ้น” นี่คือสิ่งที่ ดร. แอนดรู รอชฟอร์ด แห่งองค์กร ดริ๊งไวส์ ได้ให้คำแนะนำ “ นอกจากนี้ เมื่ออายุเรามากขึ้น น้ำในระบบร่างกายของเราก็จะมีปริมาณน้อยลง ซึ่งเท่ากับไปเพิ่มความเข้มข้นให้แอลกอฮอล์ที่ค้างอยู่ในร่างกาย ให้เข้มข้นขึ้นกว่าเมื่อก่อนนั่นเอง”

 

 

และนี่คือสิ่งที่แอลกอฮอล์ทำกับร่างกายคุณเมื่อวัยเข้าเลข 30+:

 

 

algohol004

 

 

เส้นรอบเอวของคุณ:

เมื่อวัยเข้าสู่เลข 30+ ระบบการเผาผลาญอาหารในร่างกายก็จะเริ่มช้าลง ทำให้จำนวนแคลอรี่ที่จะสะสมเพิ่มมากขึ้นด้วย โดยเฉพาะแคลอรี่จากการตกค้างของแอลอกอฮอล์ที่ไม่สามารถผาผลาญออกไปได้

 

ไวน์หนึ่งแก้วธรรมดาๆขนาด 150 มล. จะมีปริมาณแคลอรี่อยู่ที่ 430 แคลอรี่ ซึ่งมากกว่าบิสกิตชอคโกแล็ต 1 ชิ้น” นี่คือการระบุของนักโภชนาการชาวอังกฤษ อลิสัน แมคอาลิส “ เมื่อระบบการเผาผลาญอาหารในร่างกายชะลอตัวลง การดื่มแอลกอฮอล์แต่ละครั้งก็จะต้องใช้เวลาและพื้นที่มากขึ้นในการเผาผลาญ และสิ่งนี้เองที่ทำให้น้ำหนักตัวของคุณเพิ่มขึ้นได้มากกว่าและเร็วกว่าเดิมเมื่อวัยเพิ่มชึ้น ดังนั้น สิ่งที่อยากแนะนำก็คือ ให้คุณคิดถึงแอลกอฮอล์ว่ามันคืออาหารขยะประเภทหนึ่ง ที่คุณจะบริโภคมันได้บ้างเป็นครั้งคราว ในปริมาณน้อยที่สุดที่จะทำได้” นี่คือคำแนะนำจากอลิสัน แมคอาลิส

 

 

ผิวพรรณของคุณ:

เมื่อแอลกอฮอล์เข้าสู่ระบบร่างกาย มันก็จะไปขยายหลอดเลือดแดง และเมื่อวัยเพิ่มขึ้น หลอดเลือดเหล่านี้ก็จะอ่อนแอและสูญเสียความสามารถที่จะหดตัวกลับมาเหมือนเดิม ทำให้ผิวเกิดรอยแดง และรอยเส้นเลือดที่ขยายตัวชัด ขึ้น “ นอกจากนี้ แอลกอฮอล์ยังทำให้กิดความเสี่ยงของผิวในอาการแพ้ต่างๆ เช่น โรคผื่นภูมิแพ้ผิวหนังอักเสบ ซึ่งเป็นโรคผิวหนังที่มักเกิดขึ้นในวัย 30 – 50 ปี ” เป็นการระบุของ ดร. ไมเคิล ริช ผู้อำนวยการศูนย์ผิวหนังของเมลเบิร์น ออสเตรเลีย ดังนั้น ถ้าหากคุณมีแนวโน้มเป็นผื่นแพ้ง่ายหรือมีผิวหน้าแดงง่ายกว่าปกติ ก็ควรจำกัดการบริโภคแอลกอฮอล์ รวมทั้งอาหารที่มรสจัดต่างๆ ทั้งไม่ควรอยู่ในที่ๆมีอากาศร้อนมากๆ ซึ่งจะทำให้หลอดเลือดแดงขยายตัวได้ง่ายๆ

 

 

การทำเลเซอร์ทรีทเมนท์ จะช่วยแก้ปัญหาหลอดเลือดแดงปรากฎชัดเจนได้ดี ทั้งแอลกอฮอล์ยังทำให้ผิวขาดน้ำ เกิดเป็นริ้วรอย ดังนั้น สิ่งที่ควรรู้อีกอย่างของกฎการดื่มแอลกอฮอล์ก็คือ “ ให้ดื่มน้ำตาม 1 แก้ว หลังจากการดื่มแอลกอฮอล์ 1 แก้วทุกครั้ง”

 

 

algohol005

 

 

ระดับความเหนื่อยล้าในร่างกายคุณ:

เมื่ออายุน้อยๆ หลายคนมักใช้แอลกอฮอล์เป็นตัวช่วยปลุกพลังงานให้ร่างกาย โดยคิดว่าเป็นเรื่องที่ใครๆก็ทำกัน แต่รู้ไหมว่า จากพฤติกรรมนี้แหละที่ทำให้เมื่ออายุมากขึ้น เราก็จะใช้แอลกอฮอล์เพื่อผ่อนคลายในชีวิตประจำวัน เพราะการทำแบบนี้เท่ากับคุณเริ่มต้นให้ความเชื่อถือกับแอลกอฮอล์ และนำมันมาเชื่อมโยงกับการแก้ไขความเหนื่อยล้า ทำให้คุณก็จะต้องเริ่มต้นดื่มมันเป็นประจำทุกวัน ยิ่งเราดื่มมากเท่าไหร่ เราก็จะยิ่งกลายเป็นคนติดแอลกอฮอล์ได้ง่ายขึ้นเท่านั้น เพราะเราจะยึดเหนี่ยวมันมากขึ้นเมื่อรู้สึกว่าต้องการความผ่อนคลาย ทั้งๆที่มีทางอื่นที่ดีและเหมาะสมกว่านี้ ดังนั้น ถ้าคุณกำลังตกอยู่ในอาการขกับดักที่จะต้องออกไปชิลล์เอาท์ในตอนกลางคืนด้วยการดริ๊งค์กันเป็นประจำแล้วละก็ วิธีที่จะแก้ไขได้ง่ายๆก็คือ หยุดดื่มมันโดยเริ่มจากในบ้านของคุณก่อนเป็นที่แรก ทิ้งเหล้าทุดขวดในบ้านไปให้หมด เพราะถ้าคุณมีมันอยู่ในบ้าน คุณก็จะดื่มมันในปริมาณมากกว่าปกติ เพราะคุณเป็นเจ้าของมันทั้งขวด ” เป็นคำแนะนำจาก ศจ.ไบเกน

 

 

ตับของคุณ:

การชะลอตัวของประสิทธิภาพการทำงานของตับ คือสิ่งที่เป็นผลด้านลบจากการดื่มแอลกอฮอล์ที่จะเกิดขึ้นกับเราเมื่อวัยเพิ่มขึ้น ซึ่งบอกได้ว่า แอลกอฮอล์ มีอืมธิพลอย่างมากกับอวัยวะส่วนนี้

 

 

มีสารชนิดหนึ่งที่เรียกว่า อะซิทัลดิไฮด์ (acetaldehyde) เป็นสารที่จะถูกผลิตออกมาเมื่อแอลกอฮอล์ในร่างกายถูกย่อยสลายลงไป สารนี้เป็นพิษอย่างมากต่อเซลล์ ยิ่งอายุมากขึ้นร่างกายของเราก็จะยิ่งเก็บมันเอาไว้ได้นานขึ้น สารนี้จะทำให้เกิดรอยแผลขึ้นที่ตับ และแผลนี้ก็จะลุกลามมากขึ้นจนประสิทธิภาพการทำงานของตับเริ่มลดลง แต่ก็อย่าเพิ่งตกใจจนเกินไปเพราะมีข่าวดีที่จะบอกให้รู้ว่า ถึวจะดื่มแอลกอฮอล์เข้าไปจนตับมีรอยแผล แต่ตับของเราก็มีความสามารถที่จะฟื้นฟูตัวเองเรื่องนี้ได้ ถ้าเรางดดื่มแอลกอฮอล์หลังจากที่ดื่มไปแล้วประมาณ 2 วัน ก็จะเป็นการให้เวลากับตับเพื่อซ่อมแซมตัวเองจากแผลดังกล่าว

 

 

ถ้าคุณดื่มในขนาดแก้วมาตรฐานครั้งละไม่เกิน 2 แก้วต่อครั้ง และใช้เวลาหยุดพักประมาณ 2-3 วันหลังจากนั้น ตับของคุณก็จะไม่มีปัญหาไมว่าคุณจะมีอายุเท่าไหร่ก็ตาม” ดร. โรชฟอร์ดระบุ

 

 

algohol003

 

 

หัวใจของคุณ:

มีความเชื่อว่า การดื่มแอลกอฮอล์ในปริมาณเล็กน้อยจะช่วยป้องกันโรคหัวใจ แต่ที่จริงแล้ว สำหรับผู้หญิงช่วงหลังวัยทองที่ระดับฮอร์โมนตามธรรมชาติของเพศหญิงลดลงอย่างรวดเร็ว การดื่มกลับจะทำให้เพิ่มความเสี่ยงต่อหัวใจวายเฉียบพลันได้ง่ายขึ้น “สำหรับคนทั่วไป การดื่มปริมาณ 1 แก้วมาตรฐานไม่เกิน 3 ครั้งต่อสัปดาห์ จะไปลดความดันโลหิตให้ต่ำลง ทำให้มีผลทางบวกกับระบบหลอดเลือดแดงของหัวใจ” ดร.โรชฟอร์ดระบุ “ แต่หากดื่มมากเกินไป ก็จะทำให้คุณสมบัติการป้องกันนี้สูญหายไปด้วย”

 

 

อารมณ์ของคุณ:

อาจมีบางช่วงเวลาของชีวิต ที่เราจะใช้แอลกอฮอล์เป็นสิ่งฟื้นฟูอารมณ์ แต่จากการศึกษาของ ศจ.ไบเกนพบว่า ผลกระทบของแอลกอฮอล์ที่มีต่ออารมณ์ของเรานั้น บ่อยครั้งที่มันจะขึ้นอยู่กับเหตุผลในขณะที่เราดื่มมันเข้าไปด้วย “ ถ้าหากว่าคุณดื่มมันเพราะคุณได้รับเลี้ยงยินดีสักเรื่อง มันก็จะช่วยขยายความรื่นรมย์นั้นๆให้มากขึ้น แต่ก็อย่าลืมว่า มันก็อาจเป็นต้นเหตุของพฤติกรรมเมามายเกินขอบเขตที่เลวร้ายได้ เพราะมันไปขัดขวางการทำงานของสมองส่วนที่ควบคุมเรื่องความกระตือรือร้นและการมีเหตุผลตัดสินถูกผิดต่างๆ รวมทั้งการตัดสินใจ ทำให้คุณสามารถทำอะไรโดยไม่ยั้งคิด นอกจากนี้ การดื่มมากเกินไปก็จะไปลดระดับฮอร์โมนเซโรโทนินในสมอง ทำให้คนติดเหล้ามักเป็นคนหงุดหงิดฉุนเฉียวง่ายๆ

คำแนะนำก็คือ ให้เลี่ยงจากแอลกอฮอล์เมื่อรู้สึกว่ากำลังเจอเรื่องหนักๆในชีวิต อย่าดื่มมันเพื่อหนีปัญหา แต่ให้คุณหันไปทำสิ่งอื่นๆที่คุณรัก ก็จะช่วยเชียร์ให้คุณรู้สึกดีขึ้นอย่างยาวนานกว่า

 

 

algohol002

 

 

ข่าวดีที่ควรรู้!

เมื่ออายุมากขึ้น อาการแฮงก์โอเวอร์ก็จะน้อยลงด้วย: จากการศึกษาพบว่า คนอายุ 18-29 ปี จะมีอาการแฮงก์โอเวอร์มากกว่าคนอายุ 60 ปีขึ้นไปถึง 10 เท่า ซึ่งพัฒนาการของเรื่องความต้านทานต่อแอลกอฮอล์นี้ อาจมีคำอธิบายได้ข้อหนึ่งคือเรื่องของ “ความฉลาดรู้คิด” ที่มีมากขึ้นตามวัยเป็นส่วนสำคัญ “ จากประสบการณ์ที่ได้เรียนรู้ ทำให้คุณสามารถจัดการกับอาการแฮงก์นี้ได้โดยดื่มมันให้น้อยลงกว่าเดิม ซึ่งจากสถิติพบว่า คนอายุน้อยๆมักดื่มในปริมาณ 9 แก้วต่อครั้ง ในขณะที่คนอายุมากจะหยุดอยู่ที่ค่าเฉลี่ยประมาณ 6 แก้วต่อครั้ง เพราะประสบการณ์สอนให้รู้ว่าถ้าดื่มในปริมาณเท่าเดิม จะต้องพบความเลวร้ายในวันต่อมาก็เป็นได้ ” เป็นการระบุของนักเขียน ดร.ริชาร์ด สตีเฟน จากมหาวิทยาลัยคึล ประเทศอังกฤษ

‘ปัญหาของผิวหน้า บอกทุกปัญหาของสุขภาพ’

 

ถ้าเราจะเปรียบเทียบร่างกายว่าเหมือนกับหนังสือหนึ่งเล่ม ใบหน้าก็จะเป็นเสมือนปกของหนังสือ ที่จะบ่งบอกสัญญาณสุขภาพภายในร่างกายของคุณนั่นเอง ส่วนไหนของใบหน้า จะบอกเรื่องราวสุขภาพของคุณได้ว่ามีอะไรผิดปกติไปบ้างได้ทุกสิ่ง หากคุณเข้าใจสัญญาณจากมัน

 

เพราะผิวพรรณที่สวยสดใส คือสัญญาณบอกถึงการมีสุขภาพโดยรวมที่ดี ดังนั้น ในทางกลับกันก็คือ หากคุณพบว่ามีสิ่งใดผิดปกติเกิดขึ้นกับผิว นั่นหมายถึงใบหน้าของคุณกำลังบอกว่ามีความผิดปกติบางอย่างเกิดขึ้นกับร่างกาย แผนที่สุขภาพบนใบหน้าหรือ Face mapping คือศาสตร์ที่มีพื้นฐานมาจากศาสตร์แห่งอายุรเวท ผสมผสานกับศาสตร์แผนจีนโบราณ ซึ่งได้เชื่อมต่อสิ่งที่เกิดขึ้นกับผิวไว้กับสุขภาพโดยรวมของร่างกาย และยังทำให้คุณสามารถหารากของปัญหาสุขภาพที่เกิดขึ้นกับคุณได้อย่างแท้จริง

 

หน้าผาก

เกี่ยวข้องกับ: ตับ, กระเพาะปัสสาวะ

 

คำอธิบาย: หน้าผาก เป็นส่วนที่เกี่ยวข้องกับระบบการย่อยอาหารและการทำงานของระบบประสาท ปัญหาของผิวที่เกิดกับบริเวณหน้าผากหมายถึงระบบการย่อยที่เฉื่อยชา และความเหนื่อยล้ามากเกินไปในชีวิตประจำวัน

 

จะดูแลอย่างไร: ให้หลีกเลี่ยงการบริโภคอาหารกึ่งสำเร็จรูปหรืออุดมด้วยไขมัน น้ำตาล และควรเพิ่มการบริโภคผักผลไม้สดที่จะช่วยกระตุ้นระบบการย่อยของคุณ นอกจากนี้ ยังสำคัญมากที่เราจะต้องหาวิธีควบคุมความเหนื่อยล้าต่างๆ ด้วยการทำสมาธิ การฟังเพลง โยคะฯลฯ แนะนำให้ลองบริโภคชาแดนเดเลี่ยนหรือคาโมไมล์เพื่อช่วยผ่อนคลาย น้ำผลไม้คั้นสด หรือน้ำมะนาวผสมน้ำอุ่นเพื่อช่วยทำความสะอาดตับของคุณด้วย

 

 

healthskin04

 

 

ริ้วรอยหว่างคิ้วที่หัวคิ้วด้านซ้าย

เกี่ยวข้องกับ: การเกิดอารมณ์โกรธที่มีผลกับม้าม

 

คำอธิบาย: เส้นริ้วรอยแนวตั้งที่หัวคิ้วด้านซ้าย จะบอกถึงความเครียดของจิตใจที่หาทางออกไม่ได้ และซ่อนอยู่ในใจและส่งความกดดันนี้ไปสู่ม้าม

 

จะดูแลอย่างไร: ลองพยายามใช้เทคนิคเล็กๆน้อยๆอย่างเช่นเล่นโยคะ เรกิ การทำสมาธิสวดมนต์ และเทคนิคการฝึกหายใจเพื่อการผ่อนคลายความเครียด หรือหาคนที่พูดคุยได้เพื่อระบายความเครียดออกไปจากความรู้สึกของคุณ

 

 

ริ้วรอยหว่างคิ้วที่หัวคิ้วด้านขวา

เกี่ยวข้องกับ: อารมณ์เก็บกดต่างๆที่มีผลกับตับ

 

คำอธิบาย: ความผิดปกติของผิวหรือริ้วรอยในบริเวณนี้ คือสัญญาณว่าคนๆนั้นได้เก็บความโกรธที่ไม่แสดงออกเอาไว้ ซึ่งส่งผลให้ความเครียดกดดันนี้ได้ถูกส่งไปที่การทำงานของตับ

 

จะดูแลอย่างไร: ฝึกหัดเทคนิคที่สามารถช่วยให้คุณขจัดความโกรธออกไปได้ และช่วยให้คุณควบคุมอารมณ์ไปสู่ทิศทางที่ปลอดภัยต่อสุขภาพ เช่น การอ่านหนังสือธรรมะ การเข้าคลาสฝึกจิตใจ การพูดคุยกับผู้มีประสบการณ์หรือคนที่ไว้ใจได้เพื่อให้ลดความกดดันลง อาจลองเล่นโยคะ เรกิ หรือเขียนไดอารี่ และสำคัญมากที่คุณควรเลี่ยงอาหารที่อุดมด้วยไขมัน และแอลกอฮอล์ เพราะมันจะไปเพิ่มความกดดันให้ตับทำงานหนักขึ้น

 

 

healthskin06

 

 

นัยน์ตา

เกี่ยวข้องกับ: ลำไส้เล็ก ข้อต่อ ต่อมไทรอยด์

 

คำอธิบาย: จุดด่างที่เกิดขึ้นกับม่านตา ส่วนที่มีเม็ดสีทำให้เรามีนัยน์ตาเป็นสีต่างๆกันหรือที่เรียกว่า ไอริส นั้น สีที่ผืดปกติของอิส จะหมายถึงความบกพร่องของระบบการดูดซึมอาหารของลำไส้เล็ก และถ้าหากไอริสของนัยน์ตามีจุดสีขาวมากๆเป็นบริเวณกว้างเก็นชัดเจนด้วยละก็ มันคือสัญญาณของโรคข้อเสื่อม และถ้าไอริสของนัยน์ตามีขนาดเล็กเกินไป ก็จะหมายถึงความเกี่ยวข้องกับปัญหาโรคข้อต่อทั่วไป หากวงแหวนรอบๆไอริสของนัยน์ตาดูเป็นสีจางๆ ไม่สดใสเท่าที่ควร ก็คือสัญญาณว่าคุณบริโภคเกลิอหรือน้ำตาลมากเกินไป

 

จะดูแลอย่างไร: เริ่มโดยการบริโภคอาหารที่มีคุณสมบัติต้านการติดเชื้อเช่นพวกสมุนไพรต่างๆได้แก่ขิง ขมิ้น วอลนัท ปลาที่อุดมด้วยไขมันโอเมก้า-3 เมล็ดแฟล็กซีด ให้เลี่ยงการบริโภคน้ำตาลและเกลือที่ผ่านกรรมวิธีปรุงแต่งด้วยสารฟอกขาว ผลิตภัณฑ์อาหารสำเร็จรูปหรือกึ่งสำเร็จรูปทุกชนิด รวมทั้งคาเฟอีนด้วย ทั้งหมดนี้จะสร้างการติดเชื้อให้เกิดได้ในร่างกายเรา

 

 

ผิวใต้ตา

เกี่ยวข้องกับ: การทำงานของไต

 

คำอธิบาย: หากผิวใต้ตามีการบวมเกิดขึ้น นั่นหมายถึงความบกพร่องของการทำงานของไต ที่ทำให้ผิวต้าเกิดการบวมน้ำขึ้น ซึ่งมักเกิดร่วมกับรอยดำคล้ำของผิวใต้ตาร่วมด้วย ทำให้ผิวใต้ตาบวมและคล้ำกว่าที่เคย

 

จะดูแลอย่างไร: ปัญหานี้ส่วนหนึ่งเกิดจากการขาดน้ำของร่างกาย ทำให้ไม่สามารถระบายของเสียออกมาได้เต็มที่ จึงควรเพิ่มการดื่มน้ำสะอาดให้มากขึ้น เพื่อทำความชุ่มชื่นให้ไตได้มีน้ำสำหรับขับของเสียออกมาได้อย่างเพียงพอ เลือกดื่มน้ำกรองจะเหมาะสมที่สุด การขาดน้ำของรางกายสามารถเพิ่ใความกดดันและความเครียดให้กับไตทำให้ต้องทำงานหนักมากขึ้น จึงเกิดความเสียหายของระบบการกรองของเสียน่างกายระบายออกได้ไม่ดีเท่าที่ควร และควรหาเวลานอนหลับและพักผ่อนร่างกายให้เพียงพอ เพื่อลดความเหนื่อยล้าของร่างกายให้มากที่สุดที่จะทำได้

 

 

healthskin008

 

 

แก้ม

เกี่ยวข้องกับ: ปอด, ความอ่อนแอของระบบการเผาผลาญอาหาร, ปัญหาของระบบการดูดซึมอาหารเข้าสู่ร่างกาย

 

คำอธิบาย:ถ้าหากคุณพบว่าผิวที่แก้มมีสิวหรือรอยด่างซึ่งไม่ใช่สีแก้มที่เกิดจากการสูบฉีดโลหิต ก็ควรรู้ไ/ว้ว่า นั่นคือสัญญาณของระบบการเผาผลาญอาหารที่บกพร่อง และปัญหาการชลอตัวลงของระบบการดูดซึมสารอาหารของร่างกาย หากคุณได้ไปตรวจร่างกาย ก็อาจพบความผิดปกติของเนื้อเยื่อในปอด ซึ่งอาจแสดงว่าคุณกำลังมีปัญหาเกี่ยวกับระบบการทำงานของมัน

 

จะดูแลอย่างไร: ลองฝึกหัดการออกกำลังกายด้วยเทคนิคการหายใจที่จะช่วยให้ออกซิเจนเข้าสู่ร่างกายได้มากขึ้นและเพิ่มประสิทธิภาพการทำงานของปอด ทั้งยังสำคัญมากที่คุณควรจะต้องเริ่มทำกิจกรรมออกกำลังกายเพื่อการทำงานของหลอดเลือดของหัวใจที่เรียกว่า cardio exercise อย่างสม่ำเสมอเพื่อพัฒนาระบบการทำงานของปอดให้ดีขึ้น ทั้งช่วยเพื่มประสิทธิภาพให้ระบบการเผาผลาญอาหารของคุณด้วย และให้แน่ใจว่าคุณเคี้ยวอาหารได้ละเอียดพอก่อนที่จะกลืนมันลงไป

 

 

healthskin003

 

 

จมูก

เกี่ยวข้องกับ: ระบบการทำงานของหลอดเลือดแดงของหัวใจ

 

คำอธิบาย: ผิวที่บริเวณจมูก จะเกี่ยวข้องกับระบบการไหลเวียนของของเหลวภายในร่างกาย ดังนั้น ถ้าหากคุณมีปัญหาใดๆที่ผิวบริเวณนี้ นั่นอาจเป็นสัญญาณความสี่ยงของโรคความดันโลหิตสูงก็เป็นไปได้

 

จะดูแลอย่างไร: ควรบริโภคอาหารที่ช่วยฟื้นฟูสุขภาพหลอดเลือดของหัวใจให้สม่ำเสมอได้แก่ อโวคาโด ถั่วเปลือกแข็งชนิดต่างๆ เมล็ดแฟล็กซีด และปลาทะเลที่อุดมด้วยไขมันโอเมก้า-3 ทั้งควรเลี่ยงการดื่มกาแฟและเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ เพราะเครื่องดื่มเหล่านี้จะไปกระตุ้นการทำงานของหลอดเลือดหัวใจให้ทำงานหนักเกินไป

 

 

healthskin002

 

 

ริมฝีปากล่าง

เกี่ยวข้องกับ: ระบบการย่อยอาหาร

 

คำอธิบาย: ริมฝีปากที่มีสีซีดขาว อาจหมายถึงการเป็นโรคโลหิตจาง นอกจากนี้ ริมฝีปากล่างยังเป็นอวัยวะที่เกี่ยวข้องกับการทำงานของลำไส้ ดังนั้น หากคุณพบว่ามีสิวหรือจุดสีน้ำตาลเกิดขึ้นที่บริเวณริมฝีปากล่าง นั่นคือปัญหาเกี่ยวกับอาหารไม่ย่อย ซึ่งเกิดจากการมีเอนไซม์ที่ใช้ในการย่อยอาหารของลำไส้มีปริมาณน้อยเกินไป

 

จะดูแลอย่างไร: ควรบริโภคอาหารที่อุดมด้วยธาตุเหล็กให้มากขึ้น เช่น เนื้อสัตว์แดงปลอดไขมัน เพิ่มผักใบสีเขียวเข้มในมื้ออาหาร บริโภคโยเกิร์ตที่มีจุลินทรีย์โปรไบโอติกคุณภาพสูงให้มากขึ้น เพื่อเป็นทรีทเมนท์ธรรมชาติในการดูแลลำไส้ของคุณ

 

 

ลิ้น

เกี่ยวข้องกับ: ปอด, มลพิษสะสมในร่างกายมากเกินไป

 

คำอธิบาย: การสังเกตดูผิวของลิ้น โดยเฉพาะอย่างยิ่งในตอนเช้าๆ จะสามารถบอกคุณได้ถึงสุขภาพร่างกายโดยรวมของคุณ

 

ลิ้นที่มีฝ้าขาวๆปกคลุม หรือผิวลิ้นที่แตกบริเวณขอบลิ้นด้านนอก คือสัญญาณระบบการทำงานที่บกพร่องของปอด ในขณะที่ผิวลิ้นที่มีวงขาวๆอยู่ตรงกลางหรือด้านหลังของลิ้น หมายถึงการมีสารพิษสะสมมากเกินไปในลำไส้

 

จะดูแลอย่างไร: มันสำคัญมากที่คุณจะต้องทำทรีทเมนท์ล้างพิษและเพิ่มการบริโภคอาหารสดที่ไม่ผ่านการปรุงหรือ raw food รวมทั้งดื่มน้ำผลไม้คั้นสดแบบโฮมเมดให้มากขึ้น ทั้งควรฝึกการหายใจอย่างถูกต้องและทำสมาธิสวดมนต์เพื่อความผ่อนคลายและมีการออกกำลังกายเพื่อหลอดเลือดหัวใจอย่างสม่ำเสมอ

 

 

healthskin07

 

 

คาง

เกี่ยวข้องกับ: ความเหนื่อยล้า, การขาดสมดุลของฮอร์โมนในร่างกาย

 

คำอธิบาย: คางและบริเวณคาง เกี่ยวข้องกับความเหนื่อยล้าสะสมและฮอร์โมนที่ขาดสมดุล ผู้หญิงส่วนใหญ่มักจะมีสิวเกิดขึ้นที่บริเวณคางและรอบๆคางมากที่สุดกว่าพื้นที่ส่วนอื่นๆของใบหน้า

 

จะดูแลอย่างไร: เลือกผลิตภัณฑ์ความสะอาดผิวหน้าที่มีส่วนผสมสกัดจากธรรมชาติ เพื่อเลี่ยงจากสารเคมีที่เป็นพิษทีจะทำให้เกิดผลในทางลบในระบบฮอร์โมนของร่างกาย อาจแทนที่โฟมล้างหน้าด้วยผงแป้งทำความสะอาดใบหน้าที่ผลิตจากธรรมชาติ เลี่ยงการบริโภคน้ำตาล ผลิตภัณฑ์อาหารแปรรูป ขนมหวานและอาหารอุดมด้วยไขมัน และควรแน่ใจว่าคุณได้ลดความเหนื่อยล้าและจัดเวลาของคุณให้ได้มีการพักผ่อนและการนอนหลับได้อย่างเพียงพอด้วย