เบรกทานอาหารว่าง Snack Break
… “มันคือชีวิตและเป็นวัฒนธรรมของคนนิวยอร์กไปแล้ว เพราะพวกเขาเติบโตมากับพิซซ่า มันไม่ได้จำกัดว่าต้องทานเป็นมื้อกลางวันหรือมื้อค่ำ “มันเป็นอาหารของคนทุกระดับ ตั้งแต่รปภ.หรือตำรวจNYPDกะดึก คนงานก่อสร้างหรือผู้บริหารจาก Wall Street” …
มื้ออาหารว่าง Snack
อย่างที่เคยเกริ่นมาเบื้องต้นว่าผู้อพยพชาวอิตาเลี่ยนโดยเฉพาะจากภาคใต้แถวเมืองเนเปิ้ลและซิซิลี มาอยู่นิวยอร์กเพื่อเริ่มต้นชีวิตใหม่ใน‘ดินแดนแห่งโอกาส’แห่งนี้ มากพอสมควร จึงทำให้อาหารอิตาเลี่ยนในนิวยอร์กไม่ได้เป็นรองเมนูเดียวกันในเมืองแม่สักเท่าใด แต่ในบรรดาอาหารอิตาเลี่ยนที่สร้างชื่อที่สุดจนบางคนบอกว่ามันอร่อยกว่าที่ที่อยู่ในอิตาลีด้วยซ้ำ ใช่แล้วครับมันคือ พิซซ่า ซึ่งมันมีสไตล์ของตัวเองจนต้องเรียกว่า New York Style Pizza
มันคือชีวิตและเป็นวัฒนธรรมของคนนิวยอร์กไปแล้ว เพราะพวกเขาเติบโตมากับพิซซ่า มันไม่ได้จำกัดว่าต้องทานเป็นมื้อกลางวันหรือมื้อค่ำ มันเป็นอาหารของคนทุกระดับ ตั้งแต่รปภ.หรือตำรวจNYPDกะดึก คนงานก่อสร้างหรือผู้บริหารจาก Wall Street แถมยังสะดวกเพราะคุณสั่งได้ตลอด 24/7 มันมี Delivery Services
ร้าน Pizzeria ร้านแรกในอเมริกาตั้งขึ้นที่เมืองนิวยอร์กย่าน Little Italy โดยนาย Gennaro Lombardi เมื่อปี 1905 เขาเป็นผู้ประกอบอาชีพเป็น Pizzaiolo อยู่ที่เมือง Naples มาก่อน ซึ่งการทำอาชีพนี้ในเนเปิ้ลมีกฎระเบียบมากมาย ต้องมีการฝึกและมีประสบการณ์อย่างต่ำในการนวดแป้งพิซซ่าด้วยมืออย่างน้อย 2 ปีกว่าจะได้เป็น Pizziolo หลังจากที่เขาได้ใบอนุญาตให้เปิดร้านพิซซ่าจากเทศบาลเมืองนิวยอร์ก ลูกน้องเขาที่ชื่อ Antonio Totonno Pero, ที่ถูกฝึกมาอย่างหนักก็เริ่มทำขายในราคา 5 เซ็นต์ต่อถาดที่นี่จะะเรียกว่าต่อ pie (ขนาดมาตรฐานของนิวยอร์ก pie จะใหญ่มีเส้นผ่าศูนย์กลาง 18 นิ้ว ของเนเปิ้ลจะแค่13.8 นิ้ว) แต่ระดับคนงานสมัยนั้นไม่สามารถจะจ่ายทั้งถาดหรือwhole pie ไหว เลยขอซื้อเป็นชิ้นหรือที่นี่จะเรียกว่า slice ซึ่งเท่ากับประมาณ 1 ใน 8 ส่วน จะห่อด้วยกระดาษหรือจานกระดาษเดินถือกินได้เลย แต่จะม้วนนิดหน่อยเป็นแบบโคนไส่ไอศกรีมหรือพับครึ่ง ก็เหมือน Fish and Chips ในอังกฤษที่ห่อด้วยกระดาษหนังสือพิมพ์ทำเป็นโคนเดินถือกินเหมือนๆ กันในสมัยก่อน
New York Pizza มีเอกลักษณ์ของตัวเอง เช่น ของแท้จะต้องอบด้วยเตาถ่านหิน (Coal Oven) ซึ่งจะทำให้ขอบเกรียมกรอบมีสีดำเหมือนรอยไหม้เล็กน้อย ไม่ใช้ฟืนไม้โอ๊คเหมือนในเนเปิ้ล และในขณะที่เนเปิ้ลจะละเลงซอสมะเขือเทศก่อนบน pie แล้วจึงโรย Mozzarella Cheese ทับ ในสมัยก่อนของนิวยอร์กจะโรยชีสก่อนแล้วจึงละเลงซอสทับแบบที่เรียกว่า Up Side Down และขนาด pie จะใหญ่กว่าของเนเปิ้ล ซึ่งจะมีเส้นผ่าศูนย์กลางแค่ 35 cm หรือ 13.77 นิ้ว (อ่านเพิ่มเติมได้จากblogของผม http://khunpusit.wixsite.com/tripsandtastes) และยังมีผู้สันทัดกรณีบางคนยังบอกว่าน้ำของนิวยอร์กจะมีคลอรีนน้อย( Low in Chlorine ) เวลานำมาผสมแป้งเพื่อทำโด (Dough) นั้น จะนุ่มนวลกว่าและที่ว่า Bagel ที่นี่อร่อยนั้นก็มาจากเหตุผลนี้เช่นกัน
ปัจจุบันมี Optional Tour ที่ขายตามเคาเตอร์โรงแรมเป็นทัวร์กิน New York Pizza โดยเฉพาะจะตระเวนไปกินร้านต่างๆ ซึ่งปกติแล้วจะพาไปร้าน Pizzeria ที่เป็นแบบ Classic ต้นตำรับจะขายแบบยกถาดหรือ Whole Pie แล้วก็พาไปร้านอีกแบบที่เรียกว่า Slice Joint ที่จะมีขายแบบสไลซด้วยแม้ว่าจริงๆ แล้วมันก็ทำแบบเดียวกันแล้วมาหั่นแบ่ง แต่พวกที่มาแบ่งเป็นสไลซมักจะไส่เครื่องหรือโรยหน้าแบบทั่วถึง และเยอะกว่า มันจะมีสไลด์แบบคล้ายสามเหลี่ยมธรรมดา และยังมีแบบ Sicilian Slice ที่จะออกมาเป็นทรงสี่เหลี่ยม แล้วเขาอาจพาไปร้านที่มีความหลากหลายเรื่องหน้าแบบต่างๆ เพราะที่นี่ไม่ยึดติดและไม่หยุดเรื่องการสร้างสรรค์ไม่เหมือนที่เนเปิ้ลที่คุณต้องเจอหน้าสไตล์ Old School มีซอสมะเขือเทศนำเป็นหลัก
ทีนี้หากท่านไม่ต้องการเสียเงินค่าทัวร์ แต่อยากกินพิซซ่านิวยอร์กแท้ๆ ผมแนะนำให้ไปร้านต่อไปนี้ซึ่งจัดเป็นหมวดหมู่ไว้ให้เลือกตามสไตล์ของแต่ละท่านแล้ว
I. ประเภท Coal-oven Pizzerias ( แบบ Whole Pie)
แบบ Whole Pie และใช้เตาถ่านหินต้องร้านต่อไปนี้ครับ สังเกตว่าจะมีชื่อร้าน Lombardi ที่ Soho ที่ถือเป็นร้านต้นตำรับ และร้านของลูกศิษย์คนเก่งของเขาที่ชื่อ Totonno ซึ่งแยกไปเปิดร้านของเขาเองที่เกาะ Coney Island, มีชื่อร้านว่า Totonno’s ซึ่งคุณต้องเลือกที่มี 2 ร้านนี้ หากต้องการร้านประวัติศาสตร์หรือไปที่จุดเริ่มต้นธุรกิจของอุตสาหกรรมพิซซ่าของประเทศนี้ที่มียอดขาย $38 ล้านเหรียญอเมริกาต่อปี
1.1 แบบประวัติศาสตร์
Lombardi’s Pizza, Soho
ร้าน Pizzeria ประวัติศาสตร์ของประเทศอเมริกา ตั้งขึ้นที่เมืองนิวยอร์กย่าน Little Italy โดยนาย Gennaro Lombardi เมื่อปี 1905.จากการเป็น Pizzaiolo อยู่ที่เมือง Naples พิซซ่าก็ได้ถือกำเนิดในอเมริกาแบบเป็นทางการและผู้ที่ชอบสัมผัสความขลังแบบ “ลองสักหน่อย” ต้องไปนะครับ มันอยู่ใน Manhattan ไม่ไกลจากChina Town
Totonno’s, Coney Island
มาที่นี่ต้องสั่ง Margherita ที่อบแบบ Coal-fired รสชาติดั่งเดิมของนิวยอร์กแท้ๆ พร้อมด้วยเนย Mozzarellaของที่ร้านทำเองไม่มีใครเหมือน และก็ในปริมาณซอสที่พอเหมาะง่ายๆ แค่นี้ไม่มีความลับอะไรมาก เปิดมาจะครบ 100 ปีแล้วที่ Coney Island ตั้งแต่เริ่มต้นที่เจ้าของที่ชื่อ Anthony “Totonno” Pero’s ลูกศิษย์เอกของGennaro Lombardi ผู้บุกเบิกนิวยอร์กพิซซ่า เขาถูกฝึกฝนวิชาจนกล้าแกร่งแล้วมาเปิดเองแต่ด้วยความเกรงใจอาจารย์ก็เลยไปเปิดร้านไกลหน่อย ราคาก็ $19.50.ต่อpie
1.2 แบบclassic เปิดมานานและได้รับความนิยมต่อเนื่อง
Arturo’s
อยู่ถนน Houston Street แถว Greenwich Village ร้านนี้เหมือน PubหรือBar มากกว่าที่จะเป็น Pizza Joint แต่กลับเสริฟ์พิซซ่าแบบมือโปรเป็น Coal-oven Pies ทำให้พิซซ่ามีขอบรอยไหม้แบบ Charred, แป้งบางกรอบแต่เหนียวตอนเคี้ยว มีบรรยากาศแบบไฟสลัวและมี Jazz สดๆ ฟัง ในราคาที่ไม่มีใครบ่นว่าแพง
Bleecker Street Pizza
อยู่ถนน Seventh Avenue slicery เหมาะสำหรับมื้อดึกเพื่อให้สร่างเมาก่อนกลับบ้าน ต้องลอง Mushroom Pizza ทำด้วยเห็ดสดไม่ใช่เห็ดกระป๋อง เป็นร้านโปรดของคนดังอย่าง Mickey Rourke และ Kylie Jenner ลูกสาว Bruce Jenner นักวิ่งโอลิมปิกรูปหล่อที่มาแปลงเพศตอนแก่
Famous Joe’s Pizzeria Photo cr: thelifestyledirectory.com/Famous Joe’s Pizzeria
7 Carmine St., 212-366-1182, Greenwich Village, Manhattan
และ 150 E. 14th St., 212-388-9474, East Village, Manhattan
มองจากด้านนอกมาจากถนน Carmine ก็ไม่ได้บ่งบอกว่ามันคือสุดยอดร้านพิซซ่า แต่คงต้องมีอะไรดีเพราะเปิดถึงตี4 เป็นร้านโปรดของนักศึกษา NYU ผู้หิวโหยจากการอ่านตำราจนดึกดื่น ร้าน Joe’s อีกแห่งนึงก็เก่าแก่อยู่แถว East Village มากว่า 40 ปีแล้ว ร้านนี้ชื่อดังเพราะคนดังสลับกันมากินต้องที่ Famous Joe’s Pizza ที่นี่ขายแบบ New York Slice ด้วย คือแป้งบางกรอบแต่ยังเหนียวเวลาเคี้ยว (Chewy) ม้วนหรือพับก็ไม่หักไม่แตกไม่งั้นจะแห้งกระด้างเกิน สัดส่วนซอสและชีสกำลังดี และถ้ามาที่นี่ต้องสั่ง Pepperoni Pie ซึ่งเผ็ดกำลังดีราคา $24ต่อpie
1.3 แบบสร้างสรรค์ไม่ใช่ Old School
Franny’s
348 Flatbush Ave
Brooklyn, NY 11238
Park Slope, Prospect Heights
Clam pie at Franny’s พิซซ่าหน้าหอยลายอบครีมหรือ Clam Pie ของที่นี่น่าสนใจ เพราะหอมอร่อยของน้ำซุปจากหอยไวน์ขาวและครีมสด เคี่ยวจนข้นลาดบนแผ่นแป้งโดบาง แล้วนำไปอบจนได้พิซซ่ากรอบหอมชวนกินโรยหน้าด้วยพาสลี่ย์แล้วเสริฟ์ในราคา $19ต่อpie
Margot’s Pizza
919 Fulton St, Brooklyn, NY 11238
Hot Supreme at Margot’s ถ้าชอบแป้งบางแบบ credit-card–thin แล้วเป็นหน้าแบบเม็กซิกันที่โดนัลด์ ทรัมป์ไม่ชอบต้องมาร้านนี้เท่านั้น เนยแข็ง Romano ไส้กรอกผสม Garlic-fennel พริก Jalapeños ดอง กับหอมแดงซอย ในราคา $25ต่อpie
II. แบบ Slice
2.1 แบบนิวยอร์กสไลซ
John’s Pizzeria.
John’s Pizzeria (Elmhurst, Queens)
ร้าน John’s อยู่แถว Elmhurst ในเขต Queens ดังเพราะ Key Words ทั้ง 3 นี้คือ Superthin, Cheesy, Crisp และยังตกแต่งแบบยุค1960’s ซึ่งสะท้อนถึงบรรยากาศเมื่อตอนร้านนี้เปิดใหม่ๆ
Plain slice from Best Pizza. Photo: Adam Kuban
แบบที่ชอบหน้าที่แตกต่าง
Best Pizza
33 Havemeyer St., 718-599-2210, Williamsburg, Brooklyn
ร้านนี้สิแตกต่างจริงเพราะไม่ใช้ถ่านหินแต่ใช้ไม้ฟืนหอมแบบสไตล์เนเปิ้ล (Neapolitan-style pizza wood-fired pies) และเจ้าของที่ชื่อ Frank Pinello ที่จบมาจาก Culinary Institute of America ก็ยังขอแตกต่างอีกขั้นหนึ่งคือนำเสนอพิซซ่าขาวไม่มีการละเลงซอสมะเขือเทศ แต่ใช้ Fresh Ricotta ชีสและหัวหอมแบบ Caramelized Onion และยังเพิ่มรสถั่วที่พวกอเมริกันชอบนัก Nutty Flavor โดยการโรยงาบนแป้งก่อนอบ
แบบที่ชอบเพิ่มหน้า Extra
Sausage slice from Louie and Ernie’s. Photo: Adam Kuban
Louie & Ernie’s
1300 Crosby Ave., 718-829-6230, Throgs Neck, The Bronx
พิซซ่าสไลซร้าน Louie & Ernie’s ถือว่าเป็นหนึ่งในที่สุดของ NYC เพราะ Parmesan Cheese ที่นี่บ่มนานจนกลิ่นรสออกหอมฉุนอมเปรี้ยว แล้วต้องเพิ่มไส้กรอกอิตาเลี่ยน เพราะไม่งั้นไม่ต้องมาที่นี่เนื่องจากมัน Juicy และได้กลิ่นหอมของ Fennel ที่ใช้หมักและแน่นนอนว่ามันมาจากร้าน S&D Pork ที่เป็นร้านที่ทำ Italian Sausage ที่อร่อยที่สุดร้านหนึ่ง
Pepperoni slice from Naples 45. Photo: Adam Kuban
200 Park Ave., 212-972-7001, Midtown East, Manhattan
Naples 45 น่าจะเป็นร้านที่ขายพิซซ่าในสไตล์เนเปิ้ลที่คงความเป็นต้นฉบับที่สุด certified-authentic Neapolitan pizzas จนได้รับฉายาว่า “New York Margherita” แต่อเมริกันก็คืออเมริกันจะไม่เพิ่มหน้าExtra ได้อย่างไร และExtra ที่ว่านั้นจะเป็นอะไรไปไม่ได้นอกจาก Pepperoni ที่หนานิดนึง แล้วก็เกรียมตรงขอบหน่อย เพราะการย่างให้กรอบจนแผ่น Pepperoni เริ่มบิดตัวพองาม
แบบมังสวิรัติ
Artichoke. Photo: Phil Kline
Artichoke Basille’s
328 E. 14th St., 212-228-2004, East Village, Manhattan
114 Tenth Ave., 212-792-9200, Chelsea, Manhattan
111 MacDougal St., 646-278-6100, Greenwich Village, Manhattan
Artichoke Basille’s ขึ้นชื่อมากมี 3 สาขาหลักๆ เพราะแตกต่างด้วยหน้า Artichoke ซึ่งอบจนออกเป็นครีมเข้ากับกระเทียม และผักโขม เป็นจานโปรดของผู้ที่กินมังสวิรัติและพวกที่เมาออกมาจากบาร์(Bar Hoppers) แถวนั้น แล้วก็ยังมี Sicilian Slice แบบแผ่นสี่เหลี่ยมที่Topด้วยชีส 3 ชนิดคือ Fresh Mozzarella, Regular Mozzarella และ Pecorino Romano. โรยใบ Basil แล้วเหยาะ Olive Oil คุณก็ไม่ต้องกินเนื้อสัตว์เลย เหมาะมากที่จะมาร้านนี้ช่วงกินเจหรือเข้าพรรษา
Semi-dried cherry tomato slice from Di Fara Pizza. Photo: Adam Kuban
Di Fara Pizza
1424 Avenue J, 718-258-1367, Midwood, Brooklyn
ถ้าคุณชอบร้านแบบที่ต้องต่อคิวยาวๆ ไม่ต่ำกว่า 30-40 นาที และยังต้องจ่ายแพงกว่าร้านอื่น เพราะเขาขายสไลซละ $5 แล้วละก็ให้มาที่นี่ มันเปิดมาตั้งแต่ปี 1964 แต่รายการที่ดังก็คงเป็นหน้ามะเขือเทศเชอร์รี่กึ่งแห้งซึ่งโค่นบังลังก์รายการที่เป็นหน้า Artichoke ที่เคยเป็นพระเอกของร้านมาตลอด
2.2 แบบ Sicilian Slice แผ่นสี่เหลี่ยม
Sicilian slice, L&B Spumoni Gardens.
L&B Spumoni Gardens
ถ้าจะทานแบบ Sicilian Slide แบบแผ่นสี่เหลี่ยมต้องที่นี่ L&B อยู่ใน Brooklyn แต่คนอยู่Manhattanก็ต้องมากิน เพราะไม่เหมือนใคร มันไม่ไช่แป้งบางเป็นแบบหนาและยังโรยชีส Mozzarella ก่อนละเลง Sauce ทับแบบโบราณสั่งแบบขอบมุมหรือตรงกลางก็จะได้รสต่างกัน หรือจะเพิ่มเห็ดก็ได้ มาที่นี่ต้องจบด้วยของหวานSignatureของร้านที่เป็นไอศกรีมแบบซิซีเลี่ยนด้วยจะได้ไม่เสียเที่ยว
Prince Street Pizza
27 Prince St., 212-966-4100, NoLITa, Manhattan
Carnivores หรือบรรดาผู้กินเนื้อทั้งหลายจะไม่ยอมทานพิซซ่าที่มีแต่ชีสกับซอสหรอกครับต้องมี Pepperoni กรุบกรอบรสเผ็ดเป็นส่วนประกอบ และร้านนี้ได้ชื่อว่ามีสไลซสี่เหลี่ยมที่เด็ดมากหากไม่ต้องการไปไกลถึงบรุ๊คลิน
Thin-crust sicilian slice from Rizzo’s. Photo: Adam Kuban
Rizzo’s Fine Pizza
30-13 Steinway St., 718-721-9862, Astoria, Queens
หากอยู่ในเขตควีนส์แล้วสนใจ Thin-crust Sicilian slice ซึ่งหายาก เพราะSicilian slices ส่วนใหญ่จะหนาต้องร้านนี้เลย ใช้เนยแข็ง Parmesan และ Romano รสเข้มข้น
Hot Dog
นอกจากพิซซ่าแล้ว อาหารว่างหรืออาหารระหว่างมื้อที่ทานเล่นไม่หนักท้องเกินไปของที่นี่ผมว่าต้องมีเรื่องฮอทด็อกอีกหน่อยจึงจะครบสูตร เพื่อไม่ให้เสียเวลาจะขอแนะนำร้าน Top 3 ของ NYC เลยครับ
Papaya King
ร้านนี้เก่าแก่ย้อนยุคไปเมื่อปี 1932, ช่วงหลังจากที่อเมริกามีปัญหาเศรษฐกิจตกต่ำอย่างหนัก Papaya King ก็เกิดขึ้นมาซึ่งตรงกับความต้องการของประชาชนรายได้น้อย และที่ได้รับผลกระทบจากเศรษฐกิจครั้งนั้น
ตอนนี้มันกลายเป็นสถาบันต้นตำหรับของเมืองนี้ไปแล้วอีกเช่นกัน มีหลายสาขา, papayaking.com แต่ขอแนะนำให้สั่งเมนู “The Original” ที่มีหัวหอมและซาวเออเคล้า (Sauerkraut ) โรยอยู่ด้านบนเพราะสร้างชื่อมาจากตัวนี้
Gray’s Papaya
คนอาจสงสัยว่าทำไมร้าน Hot Dog ดังๆ ในนิวยอร์กจึงต้องมีคำว่า “Papaya” อยู่ด้วย จริงๆแล้วร้านนี้มันเริ่มต้นจากการเป็นหุ้นส่วนกับเจ้าของPapaya King นั่นเอง แล้วยังอาจเป็นเพราะขายน้ำผลไม้ Papaya fruit juice ด้วยหรือเปล่า อย่างไรก็ตามหลังจากแยกทางกันกับ Papaya King แล้วมันก็กลายมาเป็นคู่แข่งกัน แล้วปรากฎว่านักวิจารณ์จากหลายสำนักบอกว่าตอนนี้ Gray’s Papaya น่าจะขึ้นเป็นอันดับหนึ่งได้ตำแหน่งฮอทดอกที่ยอดเยี่ยมที่สุดของเมืองนี้ไปแล้วนะครับ แม้แต่ประธานาธิบดี Obama ยังยอมรับ มี 3-4สาขา แต่ควรไปที่สาขาแรกที่ 2090 Broadway, 212-799-0243 grayspapayanyc.com
Crif Dogs
มี 2 เหตุผลที่ต้องไปลองฮอทดอกร้านนี้ ก็คือฮอทดอกที่ไม่ใช่ Old School เช่นให้ลองสั่งฮอทดอกที่ไส่ไส้กรอกแฟรงเฟอร์เตอร์ทอด และได้ไปลอง Craft Cocktail Bar ซึ่งอยู่ในย่าน East Village แห่งนี้ให้สั่ง Tsunami เบคอนห่อไส้กรอก Frank ใส่ Teriyaki Sauce และสับประรดหรือชีวาวาChihuahua เบคอนห่ออโวคาโดกับครีมเปรี้ยวมาแกล้มด้วย 113 St Marks Pl.; 212-614-2728, crifdogs.com
พบกันคราวหน้า เราจะเบรกจากของกินไปพูดถึงเรื่อง Shopping ใน NYC บ้างครับ