เบรกเที่ยวในโรม…กินอะไรในโรม
โดย Paul Sansopone
… “หากจะมาสารภาพรักหรือขอแต่งงานหรือแม้แต่แต่งงานกันมา 30 ปีแล้วแต่ยังอยากจะสารภาพอีกว่ายังรักไม่เคยเสื่อมคลาย คงต้องจองโต๊ะมาช่วงพระอาทิตย์ตกดิน เพราะมันจะเป็นbackdropระดับโลก เนื่องจากพระอาทิตย์จะลับขอบฟ้าด้านหลังของ Coliseum แบบ Picture Perfect ที่สำคัญที่นี่ไม่ได้สวยแต่วิว อาหารจากเมนูระดับ 5 ดาวจากสถาบัน…”
กินอะไรในโรม
กรุงโรมมีอายุเกือบ 3,000 ปี แต่ไม่ว่าจะผ่านมากี่พันปีของประวัติศาสตร์ โรมเป็นเมืองที่ไม่เคยเป็นรองใครในเรื่องอาหารและไวน์ ที่จริงแล้วเมืองนี้เคยถูกปกคลุมไปด้วยไร่องุ่นที่เป็นส่วนหนึ่งของที่ดินของคนรวย
กรุงโรมในวันนี้ ความรักในไวน์และอาหารดีๆ ยังไม่เคยเปลี่ยนแปลงแต่กลับพัฒนามากขึ้น ในช่วง 25 ปีหลังนี้ ชาวเมือง 2.7 ล้านที่อาศัยอยู่ที่นี่ได้เติบโตขึ้นด้วยความเชื่อมั่นความมั่งคั่งและความซับซ้อน นักเดินทางจากทั่วโลกมาที่นี่เพิ่มมากขึ้น ทำให้มาตรฐานของชาวโรมันซึ่งปกติก็จู้จี้จุกจิกเรื่องการทำอาหารอยู่แล้วต้องยกมาตรฐานให้สูงขึ้น จากเดิมที่อาหารอิตาเลี่ยนมันมาจากสถาบันครอบครัวแบบง่ายๆ ใช้สูตรตำราอาหารที่เป็นมรดกตกทอดกันมา กลายมาเป็นองค์ความรู้เป็นสถาบันอาหารและมีการศึกษาลึกซึ้งกว่าเดิม
ที่นี่แตกต่างจากฟลอเรนซ์ ตูริน และเวโรนาซึ่งที่นั่นมักจะมีความเกี่ยวข้องโดยตรงกับความเป็นเลิศเรื่องไวน์ของพวกเขาในท้องถิ่น เช่นโซน Chianti, Barolo และ Valpolicella ตามลำดับ แต่ Rome ซึ่งอยู่ในพื้นที่ของลาซิโออาจมีแค่เพียงแหล่งผลิตไวน์ที่มีคุณค่าทางประวัติศาสตร์ เช่น Candida หรือ Casale Giglio แต่มันยังไม่ใช่อะไรที่ติดChart โชคดีที่ที่นี่มันคือกรุงโรมที่ถนนทุกสายมุ่งมาสู่ ดังนั้นมันเป็นเรื่องง่ายที่จะหาไวน์จากทุกภูมิภาคในกรุงโรมมากกว่าที่เป็นอยู่ในสถานที่ของแหล่งกำเนิด
ทางเลือกสำหรับการมาทัวร์ชิมไวน์และการเรียนการทำอาหารมากในเมืองอมตะแห่งนี้ ลองไปศูนย์ไวน์และอาหาร Gambero Rosso ซึ่งเป็นวารสารเกี่ยวกับอาหารและไวน์ชื่อดังของอิตาลี ของ Cittàdi Gusto (เมืองTaste) ที่ตั้งอยู่ในคลังสินค้า 86,000 ตารางฟุตในย่านมาร์โคนี ผู้เข้าชมสามารถชมเชฟอิตาเลี่ยนชั้นนำโชว์ศิลปะการทำอาหารของพวกเขา หรือเข้าร่วมการสัมมนาเชิงปฏิบัติการเรื่องไวน์หรือบางคนอาจสนใจโรงเรียนสอนทำอาหารสำหรับมือสมัครเล่นและมืออาชีพ ส่วนการชิมไวน์แบบคลาสสิกต้องไป Enoteca Costantini ใน Piazza Cavour หนึ่งในกรุงโรมที่เก่าแก่ที่สุดและมีชื่อเสียงโด่งดังที่สุดเรื่องไวน์บาร์และยังมีการจัดหลักสูตรไวน์ด้วย
อาหารโรมันแท้ๆ
ในกรุงโรมที่ร้านอาหารแบบดั้งเดิมปนอยู่กับร้านแบบร่วมสมัย อาหารพิเศษของกรุงโรมไม่ได้หรูหรา หลายสูตรมาจากวัฒนธรรมคนยากจน Cucina Povera แลtได้อิทธิพลมาจากอาหารของชุมชนชาวยิวที่ใช้เนื้อชิ้นที่ไม่ใช่cut ราคาแพง บางครั้งอาจมีอาหารแบบที่ไม่น่าดูชมนักด้วยซ้ำที่มักจะประกอบด้วยชิ้นส่วนเครื่องในของสัตว์นำมาทอด Smothered แล้วไปเคี่ยวในซอส เป็นที่รู้จักกันคือ Cucina di Quinto หรือ “ไตรมาสที่ห้า” หรือมีCervello Fritto (ไส้สมองแกะทอดขนาดลูกกอล์ฟ) TRIPP Aalla Romana (ลำไส้ลูกวัวในซอสมะเขือเทศ) Vitella Piccante (ลิ้นลูกวัวในซอสเผ็ด) และ Alla Vaccinara (ตุ๋นหางวัว)
Saltimbocca Alla Romana มันแปลว่า “กระเด้งในปาก”เป็นเนื้อลูกวัวห่อด้วยแฮม Prosciutto Crudo และใบSageผัดซอสแบบน้ำแดง
Rigatoni con pajata มันคือ Pasta กับ Pajata ซึ่งก็คือไส้ของลูกแกะหรือลูกวัวที่ยังไม่หย่านมคือมันยังไม่เคยทานอาหารที่จะทำลำไส้มันสกปรก และมีไขมันมันเป็น Cucina Povera Dishes หรืออาหารคนยากจนที่ต้องกินทุกชิ้นส่วนของสัตว์แต่มันกลายเป็นของอร่อย
Coda alla vaccinara. Oxtailอาหารคนจนอีกแล้ว Cucina Povera Clan เป็นสตูหางวัวที่เคี่ยวนานจนละลายในปาก
Involtini alla romana เนื้อม้วนแครอทและเซเลอรี่ในซอสมะเขือเทศ
Trippa Tripe มันคือผ้าขี้ริ้ว(เครื่องในวัว)แบบเดียวกับเกาเหลาเนื้อบ้านเราแต่ที่นี่กินกับซอสแดง
Crostata di ricotta ของหวานแบบ Classic Roman dessert มันเป็นชีสเค้กทำจากชีสรีค๊อดต้า
บางส่วนของเมืองอาหารแบบดั้งเดิมมีต้นกำเนิดมาจากชุมชนชาวยิวในกรุงโรม Carciofo alla giudia หรืออาติโช๊คทอดกรอบ
จนกระทั่งเมื่อเร็วๆ นี้อาหารพิเศษโรมันเหล่านี้ที่เคยถูกปกป้องโดยประเพณีอย่างเหนียวแน่นก็ถึงเวลาเปลี่ยนแปลง เมื่อเชฟเยอรมันชื่อไฮนซ์เบ็คมาถึงที่นี่ในปี 1994 ความเป็นพ่อครัวระดับสามดาวมิชลินของเขาเปิดทางให้พ่อครัวที่มีชื่อเสียงและเทคนิคใหม่ๆในกรุงโรม
เบ็คทำงานห้องครัวของร้าน La Pergola ยังคงถือว่าเป็นร้านอาหารที่ดีที่สุดของกรุงโรมและเขายังคงเป็นหนึ่งในพ่อครัวที่มีอิทธิพลมากที่สุดในเมืองหลวงและประเทศเก่าแก่นี้
The View from La Pergola
La Pergo ร้านอาหารอันดับหนึ่งในกรุงโรมที่ถูกโหวตปีแล้วปีเล่า เชฟไฮนซ์เบ็ค Chef Heinz Beck ผสมผสานความเชี่ยวชาญด้านเทคนิคที่มีการพิจารณาลึกของรสชาติและเนื้อสัมผัส เลือกที่สุดของไวน์มานำเสนอกับเมนูชิมที่ห้ามพลาดที่นี่มีทั้งไวน์อิตาลีและไวน์ต่างประเทศ และไม่เพียงแต่อาหารที่ดีที่สุดในกรุงโรมแต่วิวก็ยังสวยที่สุดอีกด้วยแน่นอนว่าการทำให้มาตรฐานสูงขึ้นไปเรื่อยๆ ของร้าน La Pergola นั้นก็ต้องทำให้คู่แข่งอย่างร้านข้างล่างเหล่านี้พัฒนาไปด้วยเช่นกัน
Imàgo
ร้านอาหารและบาร์ไวน์มาพร้อมกับสุดยอดของวิวที่สวยงามของโรมจากย่านบันไดสเปน บริการอาหารอิตาเลี่ยนด้วยสำเนียงโรมันแบบไม่เพี้ยน และOriginalสุดดั้งเดิมและเสิร์ฟเฉพาะไวน์อิตาเลี่ยนกว่า 400 ตัว
RELAIS PICASSO / Bramante TERRACE / Roof Gardenบนชั้นบนสุดของโรงแรมราฟาเอลใกล้กับ Piazza Navonaบนเทอเรซหรือสวนบนดาดฟ้าในสภาพอากาศที่เหมาะสม คุณจะได้ทานอาหารในระดับเดียวกับเส้นขอบฟ้าของกรุงโรมที่ประดับประดาไปด้วยโรมันโดมของโบสถ์ต่างๆ
Aroma
แต่ถ้าอยากให้ได้บรรยากาศเหมือนเพิ่งไปชมการต่อสู้ของยอดนักสู้ Gladiators มา ก็ต้องที่นี่เลยร้านที่ชื่อ Aroma ที่จัตุรัส Manfredi ซึ่งจะได้วิวของสุดยอดสถาปัตยกรรมระดับสิ่งมหัศจรรย์ตลอดกาลของโลก นั่นคือ Coliseum และหากจะมาสารภาพรักหรือขอแต่งงานกับคู่ชีวิตหรือแม้แต่แต่งงานกันมา 30 ปีแล้ว แต่ยังอยากจะสารภาพอีกว่ายังรักไม่เคยเสื่อมคลาย คงต้องจองโต๊ะมาช่วงพระอาทิตย์ตกดินเพราะมันจะเป็นbackdropระดับโลก เนื่องจากพระอาทิตย์จะลับขอบฟ้าด้านหลังของ Coliseum แบบ Picture Perfect ที่สำคัญที่นี่ไม่ได้สวยแต่วิว อาหารจากเมนูระดับ 5 ดาวจากสถาบัน American Academy of Hospitality Sciences และดาวจาก Michelin น่าจะเพียงพอให้คู่เดทของคุณไม่รู้สึกว่าเราcheapอย่างแน่นอนในโอกาสสำคัญแบบนี้ ที่อยู่และเบอร์โทร: Aroma, Palazzo Manfredi, Via Labicana 125, Rome, Italy, +39 06 97615109
Hotel Forum Roof Garden
แต่ถ้าต้องการอาหารกลางวันแบบBuffetในราคาสมเหตุสมผล หรือจะมา à-la-carte ตอนหัวค่ำเพื่อชมความงามของขอบฟ้ากรุงโรมตอนอาทิตย์ลับฟ้าเหมือนภาพเดียวกันกับที่จูเลียสซีซ่าร์ได้เคยเห็นเมื่อเกือบ 3000 ปีก่อน ก็เพราะเมื่อก่อน Roman Forum คือสถาบันที่รวมของชุมชนชนชาวโรม แต่ปัจจุบันโรงแรมชื่อเดียวกัน Hotel Forum ก็สนองบรรยากาศและอาหารสุดยอดแบบนั้นได้ โดยเฉพาะที่ห้องอาหารRoof Garden, ที่อยู่และเบอร์โทร: Hotel Forum, Via Tor Dei Conti 31, Rome, Italy, +39 06 6792447
คราวหน้าเราจะคุยกันถึงอาหารจานเก่งของชาวโรมันกันครับ