สังขละบุรี: เมืองนี้มีแต่ความฮิป

ใครเป็นสายฮิปยกมือขึ้น! วันนี้เราจะพาเหล่าสายฮิปทุกคนไปเที่ยวเมืองฮิปๆ กัน และเมืองฮิปๆ ที่ว่านี้ก็คือ “สังขละบุรี” นั่นเอง ใครนึกอยากจะสโลว์ไลฟ์ไปใช้ชีวิตแบบฮิปๆ ในวันหยุดเสาร์–อาทิตย์หรือหยุดพักร้อนก็เดินทางไปกันได้แบบสะดวก เราไปดูกันดีกว่าว่าที่สังขละบุรีจะมีอะไรฮิปๆ ให้ทำบ้าง

1. เดินเล่นบนสะพานมอญ

Traveloka Sangklaburi Kanchanaburi 2

Traveloka Sangklaburi Kanchanaburi 3

Traveloka Sangklaburi Kanchanaburi 4

จุดนัดพบสายฮิปก็ต้องที่นี่เลย “สะพานมอญ” แลนด์มาร์คของสังขละบุรีที่ว่ากันว่าถ้ามาสังขละบุรีแล้วไม่ได้มาสะพานมอญก็เหมือนมาไม่ถึงสังขละบุรีกันเลยทีเดียว สะพานแห่งนี้ถือได้ว่าเป็นสะพานไม้ที่ยาวและคลาสสิคที่สุดในประเทศไทยด้วยความยาวเกือบ 1 กิโลเมตร ความฮิปก็คือเราจะได้ชมทั้งความสวยงามของสะพาน แม่น้ำและวิถีชีวิตของชาวสังขละเชื้อสายมอญ ใครอยากมาถ่ายรูปฮิปๆ รับรองว่าได้กลับไปเต็มอิ่มอย่างแน่นอน ไม่ว่าจะเป็นภาพสาวชาวมอญเทินของขึ้นศรีษะเดินข้ามสะพาน ภาพเด็กกระโดดแม่น้ำเล่นกันอย่างสนุกสนาน ภาพพระสงฆ์บิณฑบาตในยามเช้าหรือถ้าใครไปช่วงหน้าฝนและหน้าหนาวก็จะได้ภาพไอหมอกสวยๆ ลอยเหนือผิวน้ำกันอีกด้วย

 

2. ใส่บาตรยามเช้าแบบมอญ

Traveloka Sangklaburi Kanchanaburi 5

Traveloka Sangklaburi Kanchanaburi 6

Traveloka Sangklaburi Kanchanaburi 7

การใส่บาตรยามเช้าแบบมอญเป็นอีกหนึ่งกิจกรรมฮิปๆ ที่จะได้ทั้งบุญและความสุขกายสบายใจ ชาวมอญสังขละบุรีเป็นพุทธศาสนิกชนที่เคร่งครัด ทุกเช้าจะตื่นขึ้นมาเตรียมอาหารเตรียมดอกไม้ใส่บาตรในเครื่องแต่งกายแบบพื้นบ้าน ใครอยากได้ภาพสวยๆ เวลาที่เหล่าชาวมอญยืนเรียงแถวรอใส่บาตรหรือก้มลงกราบพระสงฆ์บนพื้นถนนอย่างพร้อมเพรียงก็ต้องห้ามพลาด

 

3. ไปชมวัดวังก์วิเวการามเดิมหรือวัดใต้น้ำ

Traveloka Sangklaburi Kanchanaburi 8

Traveloka Sangklaburi Kanchanaburi 9

Traveloka Sangklaburi Kanchanaburi 10

วัดวังก์วิเวการามเดิมหรือวัดใต้น้ำเดิมเป็นวัดที่ตั้งอยู่บริเวณที่เรียกว่าสามประสบหรือจุดบรรจบของแม่น้ำ 3 สายคือแม่น้ำซองกาเลีย แม่น้ำบีคลี่และแม่น้ำการันตี ต่อมาในช่วงที่สร้างเขื่อนวชิราลงกรณ์ได้มีการปล่อยน้ำให้ท่วมตัวชุมชนชาวมอญเก่ารวมถึงวัดแห่งนี้ทำให้ในปัจจุบันวัดจมอยู่ใต้น้ำซึ่งการจะไปชมวัดนี้ได้ก็ต้องนั่งเรือหรือนั่งแพไปเท่านั้น หากไม่ใช่ช่วงน้ำลดจะสามารถทำได้เพียงเยี่ยมชมจากบนเรือแต่ถ้าหากเป็นช่วงน้ำลดประมาณต้นเดือนมีนาคมถึงเดือนมิถุนายนก็จะสามารถเดินลงไปชมอุโบสถได้ วัดใต้น้ำแห่งนี้ถือเป็นอีกหนึ่งสถานที่Unseen แปลกตาที่ต้องถูกใจชาวฮิปอย่างแน่นอน

 

4. ไปชมวัดวังก์วิเวการามใหม่

Traveloka Sangklaburi Kanchanaburi 11

Traveloka Sangklaburi Kanchanaburi 12

ชมวัดวังก์วิเวการามเดิมไปแล้วก็ต้องมาชมวัดวังก์วิเวการามใหม่กันด้วย วัดนี้ก็คือวัดที่ย้ายมาจากที่เดิมหลังน้ำท่วมนั่นเอง ถือเป็นปูชนียสถานสำคัญและศูนย์รวมจิตใจของชาวสังขละบุรี สถาปัตยกรรม จิตรกรรมและศิลปกรรมภายในตัววัดเป็นแบบมอญผสมผสานกับไทย ดูสวยงามวิจิตรตระการตา ภายในวัดเป็นที่ตั้งรูปหุ่นขี้ผึ้งขนาดเท่าคนจริงของหลวงพ่ออุตตมะ เกจิอาจารย์ชื่อดังของวัดซึ่งนั่งอยู่บนบัลลังก์หน้าปราสาทหลังใหญ่เก้ายอดที่ใช้เก็บร่างของท่านไว้ให้ศิษยานุศิษย์ได้มากราบไหว้บูชา

 

5. ไปไหว้เจดีย์พุทธคยา

Traveloka Sangklaburi Kanchanaburi 13

Traveloka Sangklaburi Kanchanaburi 14

เจดีย์พุทธคยาเป็นอีกหนึ่งปูชนียสถานสำคัญของเมืองสังขละบุรี ตัวเจดีย์เป็นสีทองสดใส สร้างเลียนแบบเจดีย์พุทธคยาที่ประเทศอินเดีย ตั้งตระหง่านเหนือความเขียวขจีของป่าไม้รอบด้าน ด้านหน้าเจดีย์มีสิงห์แบบมอญ 2 ตัวขนาดใหญ่ยืนเฝ้าบันไดทางขึ้นอยู่ เจดีย์พุทธคยาแห่งนี้เป็นที่ประดิษฐานพระบรมสารีริกธาตุซึ่งหลวงพ่ออุตตมะอัญเชิญมาจากประเทศศรีลังกา นอกจากจะเป็นสถานที่ศักดิ์สิทธ์แล้วก็ยังเป็นจุดชมวิวมุมสูงที่สวยงามอีกด้วย สายฮิปคนไหนสักการะพระเจดีย์เสร็จก็สามารถไปถ่ายรูปวิวสวยๆ ต่อกันได้เลย
สังขละบุรีมีที่พักสวยๆ หลากหลายรูปแบบให้เลือกสรร โดยที่พักสังขละบุรีแต่ละแห่งก็ล้วนแต่เป็นแบบใกล้ชิดธรรมชาติเพื่อให้ดื่มด่ำกับความสวยงามและเงียบสงบกันอย่างเต็มที่ ลองหาเวลาว่างไปเที่ยวสังขละบุรีและทำกิจกรรมแบบฮิปๆ กันดูสักครั้ง เราขอบอกเลยว่าได้ฮิป ได้ฟินจุใจกันอย่างแน่นอน สำหรับคนที่ตัดสินใจแน่แล้วว่าจะไปก็เข้าไปเลือกจองที่พักสังขละบุรีกับ Traveloka ได้ จองกับเว็บฯ นี้ขอการันตีว่าได้ราคาสบายกระเป๋า สะดวกสบายจ่ายได้หลายช่องทาง แถมยังมีโปรโมชั่นดีๆ ออกมาตลอดเวลา เอาล่ะ สายฮิปรู้แล้วก็อย่ารอช้านะจ๊ะ เตรียมออกเดินทางไปฮิปที่สังขละบุรีกันได้เลย

booking-hotel-blue

ที่พักสังขละบุรีราคาพิเศษ จองกับ Traveloka