City Break Rome Part X

เบรกเที่ยวในโรม ….กินอะไรในโรม (ต่อ)
โดย Paul Sansopone

…“เกิดจากตอนที่ทำครั้งแรก แม่บ้านคงโมโหโกรธสามีที่กลับบ้านดึกให้เมียรอกินมื้อเย็นนานเกินเหตุ ก็เลยใส่พริกเยอะกระเทียมเยอะ รสจัดมาก ตั้งใจแกล้งสามีด้วย เพราะ arrabbiata มันหมายความว่า “Angry” Pasta แต่กลับกลายมาเป็นซอสพาสต้าสีแดงที่เป็นที่นิยม”…

เมื่อคราวที่แล้วแนะนำอาหารท้องถิ่นต้นกำเนิดและร้านอาหารแบบเน้นบรรยากาศที่ราคาแพงหน่อย แต่การมาเที่ยว 3-4 วัน เราก็ควรต้องมีอย่างน้อย 1 มื้อล่ะครับ ในตอนนี้จะพูดถึง Routine Food หรือแบบ Staple ในแบบโรมที่มีความอบอุ่นตามแบบฉบับของร้านอาหารท้องถิ่นประเภท Osterie แบบดั้งเดิม ซึ่งเราผู้บริโภคเริ่มมีทางเลือกมากขึ้น เช่น เพราะเชฟรุ่นใหม่ที่ทำอาหารดั้งเดิมแบบเก่ากำลังมาแทนที่บรรดาเชฟที่เป็นคุณยายที่เน้น Home Cooking Style และที่พิสูจน์ได้ง่ายที่สุดคงต้องเป็นจานพาสต้า เพราะใครๆ ก็มากินพาสต้าที่โรม

และถ้าพูดถึง Pasta แบบโรมที่นี่จะใช้เส้นพาสต้าท้องถิ่นคือ Bucatini แปลว่า “Little Hole” มันเป็นเส้นยาวที่มีรูกลวงคล้าย มักกะโรนีหรือ Tonnarell จะคล้าย Spaghetti แต่จะอ้วนกว่าค่อนข้างเป็นที่นิยมในโรมแต่เส้นทั่วไปก็มีให้เลือกครับ

มารู้จักเมนูจานPastaที่เป็นโรมแท้

1.Pasta Alla Carbonara มีความ Creamy แต่ไม่มีการใส่ครีมจึงจะเป็นของกรุงโรมแท้ๆ เพราะมันเป็นอาหารกรรมกรทำง่ายๆ ไม่มีพิธีรีตรอง เพื่อนอิตาเลี่ยนของผมชื่อ Claudio เคยอธิบายว่า Carbonara มาจากคำว่า Carbone ซึ่งก็คือผงถ่านเพราะเวลาพวกกรรมกรเหมืองทานกันจะใส่พริกไทยดำเยอะมากจนดูเหมือนผงถ่านปกคลุมพาสต้าจานนี้

City Break ROME Italy Pasta Alla Carbonara

จริงแล้วอาหารจานนี้แพร่หลายไปทั่วโลก หลายๆ คนยังเชื่อว่ามันเกิดในสมัยสงครามโลกตอนทหารอเมริกันมาปักหลักอยู่กรุงโรมเพราะอเมริกันนำประเพณีอาหารเช้าที่เป็นเบคอนกับไข่มาแล้วมาดัดแปลงใส่เส้น กลายเป็นเมนูเด่นดังไปจนมีแทบทุกร้านอาหารตะวันตกทั่วไป แต่ถ้าเป็นของกรุงโรมแท้มันไม่ใส่ครีมและต้องใช้Guanciale เบคอนที่ทำจากแก้มหมู ส่วนชีสต้อง Pecorino และเส้นต้องเป็น Tonnarelli ถึงเป็นต้นตำรับ

City Break ROME Italy Pasta Alla Gricia

Pasta Alla Gricia

2.Pasta Alla Gricia ง่ายๆ แบบ Roman Pasta: มันเกือบจะเหมือน Carbonara ต่างกันตรงไม่มีไข่และใช้ Guanciale เป็นอะไรที่คล้ายกับเบคอนแต่ทำมาจากส่วนแก้มของหมู ไม่ได้ใช้ส่วนท้องแบบเบคอนหรือ Pancetta ทำให้มีรสแตกต่าง และแน่นอนต้องใช้ชีส Pecorino, Romano, Black Pepper และควรเป็นเส้นTonnarelliไม่ใช่ Spaghetti ซึ่งต้นตำรับเป็นของNapoliไม่ใช่ Roma

City Break ROME Italy Pasta Arrabbiata

3.Pasta Arrabbiata คงเกิดจากตอนที่ทำครั้งแรก แม่บ้านคงโมโหโกรธสามีที่กลับบ้านดึกให้เมียรอกินมื้อเย็นนานเกินเหตุ ก็เลยใส่พริกเยอะ กระเทียมเยอะ รสจัดมาก ตั้งใจแกล้งสามีด้วย เพราะ Arrabbiata มันหมายความว่า “Angry” Pastaแต่กลับกลายมาเป็นซอสพาสต้าสีแดงที่เป็นที่นิยมมากๆ เพราะความเผ็ดรสจัดจากส่วนผสมประกอบด้วยมะเขือเทศ กระเทียม และพริกแดง Peperoncino (Red Chili Peppers)

City Break ROME Italy Cacio e pepe

4.Cacio e pepe มันคือจานศักดิ์สิทธิ์แห่งพาสต้าของชาวโรมัน เพราะมันคืออาหารคนจนที่ต้องทานอะไรง่ายๆ และแค่ได้พาสต้า Cacio e Pepe สักจานก็ยกมือไหว้พระเจ้าแล้ว มันเลยเป็นจานศักดิ์สิทธิ์ “Cacio e Pepe” แปลว่า “Cheese and Pepper” ในภาษาพื้นเมืองในแถบLazio ส่วนผสมของพาสต้าจานนี้จึงง่ายแค่ Black Pepper และ Pecorino Romano Cheeseคลุกกับน้ำต้มเส้นเล็กน้อย
City Break ROME Italy Pasta all’amatriciana

5.Pasta all’amatriciana ชื่อนี้ได้มาจากเมืองชื่อAmatriceจากเขต Lazio มันใช้ส่วนประกอบที่เป็นมะเขือเทศ Guanciale,เบคอนที่ทำจากแก้มหมู แล้วมีพริกแดงหอมกระเทียมและไวน์แดงกับสุดท้ายต้องโรย Pecorino

 

รู้จักPastaท้องถิ่นของโรม แล้ว เราลองไปค้นหา The Best Pasta in Rome ดูกันครับว่าจะไปกินร้านไหนดี

“When in Rome do what the Romans do…” ใช่แล้วครับต้องหาพาสต้าที่ดีที่สุดของโรมกิน ขอแนะนำ 9 อรหันต์ของร้านพาสต้าในโรม ที่แต่ละร้านไม่ได้หรูหราแบบ Ristorante(ภัตตาคาร) แต่มักเป็นร้านระดับกลางหรือร้านเล็กๆ คือ Trattoria หรือ Osterie เท่านั้น  Credit Katie Parla

 

1.ร้าน Da Danilo (Via Petrarca 13, +39 06 7720 0111)
ที่เราควรต้องสั่งพาสต้า Carbonara and Cacio e pepe ที่เขาจะเอาเส้นพาสต้าที่ลวกเสร็จใหม่ๆ มาลงคลุกกับชีสแบบวงล้อก้อนใหญ่ที่คว้านเป็นรูปร่างเหมือนชามทำให้การคลุกชีสเปคคอริโนนั้นมั่นใจได้ว่าชีสเคลือบเส้นทั่วถึง

City Break ROME Italy at Da Danilo 2

City Break ROME Italy at Da Danilo

ยังมีจานเด็ดที่เป็น อาหารท้องถิ่นทัศคานี คือ Strozzapreti al Lardo di Colonnata e Pecorino di Fossa ซึ่งมีซอสมะเขือเทศแบบบางเบาไม่ข้น เป็นเบสมีlardoคล้ายเบคอนแต่มันเยอะโรยด้วยชีสนมแพะเก่าPecorinoที่บ่มเก็บไว้นานหน่อย

City Break ROME Italy at Da Danilo 1

 

2.ร้าน Flavio De Maio ของเชฟ Flavio al Velavevodetto (Via di Monte Testaccio 97, +39 06 574 4194)

City Break ROME Italy Cacio e pepe at Flavio De Maio

มาที่นี่ต้องสั่ง Cacio e pepe พาสต้าที่ใส่แค่ชีส Pecorinoกับพริกไทยดำคลุกน้ำต้มเส้น

 

3.ร้านPipero al Rex (Via Torino 149; +39 06 481 5702) ที่เชฟ Luciano Monosilo เสิร์ฟสุดยอดตำนานพาสต้าของโรม Spaghetti Alla Carbonara เชฟ Monosilo มีเทคนิคคือเขาจะอุ่นส่วนผสมของไข่แดง Parmigiano Reggiano, Pecorino Romano และพริกไทยดำใน Bain-Marie หรือซึ้งที่ใช้สำหรับนึ่งและพอได้พาสต้า al dente ขึ้นจากหม้อต้มก็คลุกกับส่วนผสมของไข่โรยด้วยเบคอนแก้มหมู Guanciale และไขมันที่เหลือจากการทอดมันเล็กน้อย

City Break ROME Italy at Pipero al Rex

Pipero al Rex: Spaghetti alla Carbonara credit pic: http://www.bonappetit.com

 
4.ร้านArmando al Pantheon (Salita dè Crescenzi 31, +39 06 6880 3034) ต้องสั่งคาโบนาร่าหากยังไม่เบื่อหรือหากต้องการรสจัดหน่อยก็ “Pasta dei cornuti” (Cuckold’s Pasta) ที่มีรสจัดจ้านจากพริกกระเทียมและน้ำมันมะกอก ร้านนี้หาง่ายอยู่ใกล้กับวิหาร Pantheon แต่มันไม่ใช่ร้านที่เป็น Tourist Trap ถ้ามา 2 คนให้อีกคนสั่ง Pasta Amatriciana มาจะได้ลอง 2 แบบ และอย่าลืมทานของหวานที่เป็น Signatureของร้าน Torta Antica Roma

City Break ROME Italy at Armando al Pantheon

City Break ROME Italy Torta Antica Roma at Armando al Pantheon

Armando al Pantheon: Ajo, Ojo e Peperoncino (garlic, oil, chili) credit pic: http://www.bonappetit.com

 

5.ร้านColline Emiliane (Via degli Avignonesi 22, +39 06 481 7538) ซึ่งเจ้าของเป็นตระกูล Latini จากเขต Emilia Romagna แต่ย้ายมาเปิดร้านอาหารแถวน้ำพุเทรวี่ตั้งแต่ปี 1967 จึงทำให้คุณจะได้ชิม Tortelliไส้ฟักทองต้นตำรับจาก Emilia Romagna แท้ๆโดยไม่ต้องไปถึงถิ่น

City Break ROME Italy Colline Emiliane Tortelli di Zucca at Colline Emiliane

Colline Emiliane: Tortelli di Zucca

 

City Break ROME Italy at Tavernaccia da Bruno

City Break ROME Italy Tavernaccia da Bruno 1

ร้านTavernaccia da Bruno: Lasagne Cotte nel Forno al Legna (wood oven baked lasagna) credit pic: http://www.bonappetit.com

6.ร้านTavernaccia da Bruno’s (Via Giovanni da Castel Bolognese 63, +39 06 581 2792) มีความโดดเด่นเรื่อง ลาซานญ่าที่อบด้วยเตาอบฟืน Lasagna, Bechamel, and Meat Sauce เป็นอาหาร Roman-Umbrian

 

City Break ROME Italy Il Sanlorenzo Spaghetti alle Vongole Veraci

Il Sanlorenzo: Spaghetti alle Vongole Veraci (with clams)
7.ร้านIl Sanlorenzo (Via dei Chiavari 4/5, +39 06 686 5097) เป็นร้านที่ต้องสั่งสปาเก็ตตี้หอยลาย (ต้องเช็คด้วยบางช่วงอาจไม่มีหอย) Spaghetti Alle Vongole

 

City Break ROME Italy Rigatoni con Burro e Parmigiano at Roscioli

8.ร้าน Roscioli: จานเด็ดเป็นRigatoni Burro e Parmigiano (Butter and Aged Parmigiano-Reggiano)

ไม่น่าเชื่อว่าแค่เป็นพาสต้าเนยสดกับปาร์มิจานก็อร่อยได้ ต้องไปลองทาน Rigatoni con Burro e Parmigianoที่ร้านRoscioli (Via dei Giubbonari 21, +39 06 687 5287) เคล็ดลับอยู่ที่วัตถุดิบที่เป็นเส้นสดและเนย Echiré Butter ก่อนโรยหน้าด้วยปาร์มิจานแบบบ่มเก็บนาน 30 เดือนผสมกับแบบบ่มนาน 36 เดือน (Aged Parmigiano Reggiano)
 

City Break ROME Italy Rigatoni con pajata

หรือถ้าท่านต้องการพาสต้าจากโรมแบบExtremeหน่อยก็ต้องสั่งทานจานนี้

Rigatoni con pajata มันคือ Pasta กับ Pajata ซึ่งก็คือไส้ของลูกแกะหรือลูกวัวที่ยังไม่หย่านมคือมันยังไม่เคยทานอาหารที่ทำลำไส้มันสกปรกและมีไขมันมันเป็น Cucina povera dishes หรืออาหารคนยากจนที่ต้องกินทุกชิ้นส่วนของสัตว์แต่มันกลายเป็นของอร่อย

 

City Break ROME Italy Spaghetti Alle Vongole Hostaria Romana

Spaghetti Alle Vongole ที่ Hostaria Romana

9.ร้าน Hostaria Romana เป็นแบบold-schoo trattoria ที่มีโต๊ะเบียดๆ กันอยู่ แต่อาหารจานพาสต้าแบบสปาเก็ตตี้หอยลายและAmatriciana ต้องขอแนะนำอะไรที่ไม่ใช่พาสต้าทิ้งท้ายหน่อย ไหนๆ มาร้านนี้ถ้าอยู่ในฤดูของ Artichokesให้สั่ง ArtichokesทอดAlla Giudia (fried) หรือแบบตุ๋นAlla Romana (braised) ก็อร่อยทั้งคู่
City Break ROME Italy Carciofo Alla Giudia at Hostaria Romana

Carciofo Alla Giudia อาร์ติโช๊คทอดกรอบ

City Break ROME Italy Carciofo Alla Romana at Hostaria Romana

Carciofo Alla Romanaหรือว่าอาร์ติโช๊คตุ๋นดี?

 

คราวหน้าเรามาว่ากันต่อในเรื่องของกินของดื่มที่โรมครับ

City Break Rome Part IX

เบรกเที่ยวในโรม…กินอะไรในโรม
โดย Paul Sansopone

… “หากจะมาสารภาพรักหรือขอแต่งงานหรือแม้แต่แต่งงานกันมา 30 ปีแล้วแต่ยังอยากจะสารภาพอีกว่ายังรักไม่เคยเสื่อมคลาย คงต้องจองโต๊ะมาช่วงพระอาทิตย์ตกดิน เพราะมันจะเป็นbackdropระดับโลก เนื่องจากพระอาทิตย์จะลับขอบฟ้าด้านหลังของ Coliseum แบบ Picture Perfect ที่สำคัญที่นี่ไม่ได้สวยแต่วิว อาหารจากเมนูระดับ 5 ดาวจากสถาบัน…”

กินอะไรในโรม

กรุงโรมมีอายุเกือบ 3,000 ปี แต่ไม่ว่าจะผ่านมากี่พันปีของประวัติศาสตร์ โรมเป็นเมืองที่ไม่เคยเป็นรองใครในเรื่องอาหารและไวน์ ที่จริงแล้วเมืองนี้เคยถูกปกคลุมไปด้วยไร่องุ่นที่เป็นส่วนหนึ่งของที่ดินของคนรวย
กรุงโรมในวันนี้ ความรักในไวน์และอาหารดีๆ ยังไม่เคยเปลี่ยนแปลงแต่กลับพัฒนามากขึ้น ในช่วง 25 ปีหลังนี้ ชาวเมือง 2.7 ล้านที่อาศัยอยู่ที่นี่ได้เติบโตขึ้นด้วยความเชื่อมั่นความมั่งคั่งและความซับซ้อน นักเดินทางจากทั่วโลกมาที่นี่เพิ่มมากขึ้น ทำให้มาตรฐานของชาวโรมันซึ่งปกติก็จู้จี้จุกจิกเรื่องการทำอาหารอยู่แล้วต้องยกมาตรฐานให้สูงขึ้น จากเดิมที่อาหารอิตาเลี่ยนมันมาจากสถาบันครอบครัวแบบง่ายๆ ใช้สูตรตำราอาหารที่เป็นมรดกตกทอดกันมา กลายมาเป็นองค์ความรู้เป็นสถาบันอาหารและมีการศึกษาลึกซึ้งกว่าเดิม
ที่นี่แตกต่างจากฟลอเรนซ์ ตูริน และเวโรนาซึ่งที่นั่นมักจะมีความเกี่ยวข้องโดยตรงกับความเป็นเลิศเรื่องไวน์ของพวกเขาในท้องถิ่น เช่นโซน Chianti, Barolo และ Valpolicella ตามลำดับ แต่ Rome ซึ่งอยู่ในพื้นที่ของลาซิโออาจมีแค่เพียงแหล่งผลิตไวน์ที่มีคุณค่าทางประวัติศาสตร์ เช่น Candida หรือ Casale Giglio แต่มันยังไม่ใช่อะไรที่ติดChart โชคดีที่ที่นี่มันคือกรุงโรมที่ถนนทุกสายมุ่งมาสู่ ดังนั้นมันเป็นเรื่องง่ายที่จะหาไวน์จากทุกภูมิภาคในกรุงโรมมากกว่าที่เป็นอยู่ในสถานที่ของแหล่งกำเนิด

City Break Rome Italy Gambero Rosso 3

ทางเลือกสำหรับการมาทัวร์ชิมไวน์และการเรียนการทำอาหารมากในเมืองอมตะแห่งนี้ ลองไปศูนย์ไวน์และอาหาร Gambero Rosso ซึ่งเป็นวารสารเกี่ยวกับอาหารและไวน์ชื่อดังของอิตาลี ของ Cittàdi Gusto (เมืองTaste) ที่ตั้งอยู่ในคลังสินค้า 86,000 ตารางฟุตในย่านมาร์โคนี ผู้เข้าชมสามารถชมเชฟอิตาเลี่ยนชั้นนำโชว์ศิลปะการทำอาหารของพวกเขา หรือเข้าร่วมการสัมมนาเชิงปฏิบัติการเรื่องไวน์หรือบางคนอาจสนใจโรงเรียนสอนทำอาหารสำหรับมือสมัครเล่นและมืออาชีพ ส่วนการชิมไวน์แบบคลาสสิกต้องไป Enoteca Costantini ใน Piazza Cavour หนึ่งในกรุงโรมที่เก่าแก่ที่สุดและมีชื่อเสียงโด่งดังที่สุดเรื่องไวน์บาร์และยังมีการจัดหลักสูตรไวน์ด้วย

City Break Rome Italy Enoteca Costantini

อาหารโรมันแท้ๆ

ในกรุงโรมที่ร้านอาหารแบบดั้งเดิมปนอยู่กับร้านแบบร่วมสมัย อาหารพิเศษของกรุงโรมไม่ได้หรูหรา หลายสูตรมาจากวัฒนธรรมคนยากจน Cucina Povera แลtได้อิทธิพลมาจากอาหารของชุมชนชาวยิวที่ใช้เนื้อชิ้นที่ไม่ใช่cut ราคาแพง บางครั้งอาจมีอาหารแบบที่ไม่น่าดูชมนักด้วยซ้ำที่มักจะประกอบด้วยชิ้นส่วนเครื่องในของสัตว์นำมาทอด Smothered แล้วไปเคี่ยวในซอส เป็นที่รู้จักกันคือ Cucina di Quinto หรือ “ไตรมาสที่ห้า” หรือมีCervello Fritto (ไส้สมองแกะทอดขนาดลูกกอล์ฟ) TRIPP Aalla Romana (ลำไส้ลูกวัวในซอสมะเขือเทศ) Vitella Piccante (ลิ้นลูกวัวในซอสเผ็ด) และ Alla Vaccinara (ตุ๋นหางวัว)

City Break Rome Italy Saltimbocca Alla Romana

Saltimbocca Alla Romana มันแปลว่า “กระเด้งในปาก”เป็นเนื้อลูกวัวห่อด้วยแฮม Prosciutto Crudo และใบSageผัดซอสแบบน้ำแดง

City Break Rome Italy Rigatoni con pajata

Rigatoni con pajata มันคือ Pasta กับ Pajata ซึ่งก็คือไส้ของลูกแกะหรือลูกวัวที่ยังไม่หย่านมคือมันยังไม่เคยทานอาหารที่จะทำลำไส้มันสกปรก และมีไขมันมันเป็น Cucina Povera Dishes หรืออาหารคนยากจนที่ต้องกินทุกชิ้นส่วนของสัตว์แต่มันกลายเป็นของอร่อย
City Break Rome Italy Coda alla vaccinara Oxtail

Coda alla vaccinara. Oxtailอาหารคนจนอีกแล้ว Cucina Povera Clan เป็นสตูหางวัวที่เคี่ยวนานจนละลายในปาก

Involtini alla romana เนื้อม้วนแครอทและเซเลอรี่ในซอสมะเขือเทศ

City Break Rome Italy Trippa Tripe

Trippa Tripe มันคือผ้าขี้ริ้ว(เครื่องในวัว)แบบเดียวกับเกาเหลาเนื้อบ้านเราแต่ที่นี่กินกับซอสแดง
City Break Rome Italy Crostata di ricotta

Crostata di ricotta ของหวานแบบ Classic Roman dessert มันเป็นชีสเค้กทำจากชีสรีค๊อดต้า

City Break Rome Italy Carciofo alla giudia

บางส่วนของเมืองอาหารแบบดั้งเดิมมีต้นกำเนิดมาจากชุมชนชาวยิวในกรุงโรม Carciofo alla giudia หรืออาติโช๊คทอดกรอบ

จนกระทั่งเมื่อเร็วๆ นี้อาหารพิเศษโรมันเหล่านี้ที่เคยถูกปกป้องโดยประเพณีอย่างเหนียวแน่นก็ถึงเวลาเปลี่ยนแปลง เมื่อเชฟเยอรมันชื่อไฮนซ์เบ็คมาถึงที่นี่ในปี 1994 ความเป็นพ่อครัวระดับสามดาวมิชลินของเขาเปิดทางให้พ่อครัวที่มีชื่อเสียงและเทคนิคใหม่ๆในกรุงโรม

City Break Rome Italy The View from La Pergola 2

เบ็คทำงานห้องครัวของร้าน La Pergola ยังคงถือว่าเป็นร้านอาหารที่ดีที่สุดของกรุงโรมและเขายังคงเป็นหนึ่งในพ่อครัวที่มีอิทธิพลมากที่สุดในเมืองหลวงและประเทศเก่าแก่นี้

The View from La Pergola

City Break Rome Italy The View from La Pergola 1

City Break Rome Italy The View from La Pergola

La Pergo ร้านอาหารอันดับหนึ่งในกรุงโรมที่ถูกโหวตปีแล้วปีเล่า เชฟไฮนซ์เบ็ค Chef Heinz Beck ผสมผสานความเชี่ยวชาญด้านเทคนิคที่มีการพิจารณาลึกของรสชาติและเนื้อสัมผัส เลือกที่สุดของไวน์มานำเสนอกับเมนูชิมที่ห้ามพลาดที่นี่มีทั้งไวน์อิตาลีและไวน์ต่างประเทศ และไม่เพียงแต่อาหารที่ดีที่สุดในกรุงโรมแต่วิวก็ยังสวยที่สุดอีกด้วยแน่นอนว่าการทำให้มาตรฐานสูงขึ้นไปเรื่อยๆ ของร้าน La Pergola นั้นก็ต้องทำให้คู่แข่งอย่างร้านข้างล่างเหล่านี้พัฒนาไปด้วยเช่นกัน

 

Imàgo
ร้านอาหารและบาร์ไวน์มาพร้อมกับสุดยอดของวิวที่สวยงามของโรมจากย่านบันไดสเปน บริการอาหารอิตาเลี่ยนด้วยสำเนียงโรมันแบบไม่เพี้ยน และOriginalสุดดั้งเดิมและเสิร์ฟเฉพาะไวน์อิตาเลี่ยนกว่า 400 ตัว

City Break Rome Italy RELAIS PICASSO

RELAIS PICASSO / Bramante TERRACE / Roof Gardenบนชั้นบนสุดของโรงแรมราฟาเอลใกล้กับ Piazza Navonaบนเทอเรซหรือสวนบนดาดฟ้าในสภาพอากาศที่เหมาะสม คุณจะได้ทานอาหารในระดับเดียวกับเส้นขอบฟ้าของกรุงโรมที่ประดับประดาไปด้วยโรมันโดมของโบสถ์ต่างๆ

 

City Break Rome Italy Aroma 1

Aroma
แต่ถ้าอยากให้ได้บรรยากาศเหมือนเพิ่งไปชมการต่อสู้ของยอดนักสู้ Gladiators มา ก็ต้องที่นี่เลยร้านที่ชื่อ Aroma ที่จัตุรัส Manfredi ซึ่งจะได้วิวของสุดยอดสถาปัตยกรรมระดับสิ่งมหัศจรรย์ตลอดกาลของโลก นั่นคือ Coliseum และหากจะมาสารภาพรักหรือขอแต่งงานกับคู่ชีวิตหรือแม้แต่แต่งงานกันมา 30 ปีแล้ว แต่ยังอยากจะสารภาพอีกว่ายังรักไม่เคยเสื่อมคลาย คงต้องจองโต๊ะมาช่วงพระอาทิตย์ตกดินเพราะมันจะเป็นbackdropระดับโลก เนื่องจากพระอาทิตย์จะลับขอบฟ้าด้านหลังของ Coliseum แบบ Picture Perfect ที่สำคัญที่นี่ไม่ได้สวยแต่วิว อาหารจากเมนูระดับ 5 ดาวจากสถาบัน American Academy of Hospitality Sciences และดาวจาก Michelin น่าจะเพียงพอให้คู่เดทของคุณไม่รู้สึกว่าเราcheapอย่างแน่นอนในโอกาสสำคัญแบบนี้ ที่อยู่และเบอร์โทร: Aroma, Palazzo Manfredi, Via Labicana 125, Rome, Italy, +39 06 97615109

City Break Rome Italy Aroma 2

City Break Rome Italy Aroma 4

 

Hotel Forum Roof Garden

City Break Rome Italy Hotel Forum Roof Garden

แต่ถ้าต้องการอาหารกลางวันแบบBuffetในราคาสมเหตุสมผล หรือจะมา à-la-carte ตอนหัวค่ำเพื่อชมความงามของขอบฟ้ากรุงโรมตอนอาทิตย์ลับฟ้าเหมือนภาพเดียวกันกับที่จูเลียสซีซ่าร์ได้เคยเห็นเมื่อเกือบ 3000 ปีก่อน ก็เพราะเมื่อก่อน Roman Forum คือสถาบันที่รวมของชุมชนชนชาวโรม แต่ปัจจุบันโรงแรมชื่อเดียวกัน Hotel Forum ก็สนองบรรยากาศและอาหารสุดยอดแบบนั้นได้ โดยเฉพาะที่ห้องอาหารRoof Garden, ที่อยู่และเบอร์โทร: Hotel Forum, Via Tor Dei Conti 31, Rome, Italy, +39 06 6792447

 

คราวหน้าเราจะคุยกันถึงอาหารจานเก่งของชาวโรมันกันครับ