ครั้งก่อน เราได้คุยกันเรื่องมะเร็งเต้านมเกี่ยวกับการป้องกันและพฤติกรรมลดความเสี่ยง วันนี้จะขอชวนมาอัพเดตกันเรื่องของการรักษาบ้าง ซึ่งผู้หญิงยุคนี้ถือว่าโชคดี ที่นวัตกรรมของเทคโนโลยีการรักษามะเร็งเต้านมได้ล้ำหน้าไปมาก จนทำให้การต่อสู้กับมะเร็งเต้านม ไม่ใช่เรื่องยากอีกต่อไป มาเรียนรู้และเข้าใจหนทางรักษา เพื่อประโยชน์ของตัวคุณเองและบอกเล่าให้กับคนที่คุณรัก
รู้โรครู้เรา เพราะอนาคตเป็นสิ่งคาดเดาไม่ได้ และอัตราการเกิดโรคนี้ในผู้หญิงก็เพิ่มสูงขึ้นทุกวันจากความเสี่ยงของไลฟสไตล์การหาความรู้เพื่อเตรียมพร้อมอย่างไม่ประมาทจึงเป็นสิ่งที่ดีที่สุด หากผู้หญิงคนหนึ่งได้รับการตรวจวินิจฉัยว่าเป็นมะเร็งเต้านม แน่นอนว่าความรู้สึกแรกที่เกิดขึ้นคือความเสียใจและตกใจ แต่หลังจากผ่านความรู้สึกนั้นแล้ว สิ่งแรกที่ต้องทำก็คือ หาความรู้ว่าอาการของโรคนั้นอยูในระยะไหน เพื่อให้คุณพบคำตอบในการรักษาซึ่งสำคัญมาก โดยทั่วไป ระยะของมะเร็งเต้านมจะมี 5 ระยะด้วยกัน ขึ้นอยู่กับสถานะของก้อนมะเร็งว่ามีขนาดเท่าใด เป็นชนิดลุกลามหรือไม่ลุกลาม เพื่อหาแนวทางรักษาที่เหมาะสม ซึ่งระยะของโรคนี้จะแบ่งเป็น 5 ระยะด้วยกัน
มะเร็งเต้านมระยะ 0: เป็นระยะแรกเริ่มที่สุดหรือที่เรียกว่า DCIS การตรวจแมมโมแกรมสม่ำเสมอทุกปี จะช่วยให้รู้ได้อย่างรวดเร็วและหากพบอยู่ในระยะนี้ก็จะมีโอกาสรอดได้ถึง 95-98 % ทั้งการรักษาก็ง่ายกว่า เช่นอาจใช้การผ่าตัดและฉายแสงโดยไม่จำเป็นต้องให้เคมีบำบัดหรือคีโม ( Chemotherapy) ซึ่งจากข้อมูลทางการแพทย์ก็พบได้ว่า มีบางคนที่เป็นมะเร็งในระยะ 0 นี้ ที่หายเองได้โดยไม่ต้องทำทรีทเมนท์ใดๆเลย ซึ่งสถิติพบว่าผู้ป่วยมะเร็งเต้านมระยะ 0 ที่หายเองได้นี้จะมีประมาณ 18%
มะเร็งเต้านมระยะที่ 1: มะเร็งที่พบจะมีขนาดเล็กกว่า 2 ซม. และยังไม่ลุกลามไปยังเนื้อเยื่อใกล้เคียงเต้านมและต่อมน้ำเหลืองด้วย หรืออาจมีเซลล์มะเร็งเพียงเล็กน้อยที่เกิดขึ้นในต่อมน้ำเหลือง การรักษามะเร็งเต้านมระยะที่ 1 นี้จะใช้การผ่าตัดก้อนมะเร็งออกไปและตามด้วยการฉายแสง อาจให้เคมีบำบัดหากมะเร็งใหญ่กว่า 1 ซม. และอาจมีการตัดชิ้นเนื้อเพื่อนำไปตรวจหาเซลล์มะเร็งที่อาจมีในต่อมน้ำเหลืองใกล้เคียงด้วย
มะเร็งเต้านมระยะที่ 2: แม้ขนาดของมะเร็งจะโตขึ้นแต่ก็ยังจัดอยู่ในสถานะแรกๆที่มีโอกาสรักษาหายได้ มะเร็งระยะนี้จะมีทั้งแบบขนาดไม่เกิน 2 ซม. หรือแบบที่ไม่มีก้อนบวมแต่ตรวจพบว่ามีเซลล์มะเร็งที่ต่อมน้ำเหลืองบริเวณใต้รักแร้ไม่เกิน 4 ต่อม แต่ก็มีบางรายเหมือนกันที่มะเร็งขนาด 2-5 ซม.แต่ยังไม่มีการกระจายไปที่ต่อมน้ำเหลืองหรืออาจมีการกระจายไปเพียงเล็กน้อย ซึ่งจะรักษาโดยการตัดเต้านมและตัดต่อมน้ำเหลือง ร่วมกับการฉายแสงและให้คีโมบำบัด ต่อจากนั้นอาจมีการรักษาด้วยยาต้านฮอร์โมนและการให้ยารักษาแบบมุ่งตรงตามลักษณะของมะเร็งที่เรียกว่า targeted cancer therapy ร่วมด้วยเพื่อให้ได้ผลดี ซึ่งการรักษาในระยะที่ 2 นี้ มักจะมีการตัดต่อมน้ำเหลืองออกไปด้วย
มะเร็งเต้านมระยะที่ 3: เป็นระยะที่เซลล์มะเร็งมีการกระจายไปที่ต่อมน้ำเหลืองแต่ยังไปไม่ถึงเนื้อเยื่อของอวัยวะอื่นๆของร่างกาย มะเร็งระยะนี้จะมีทั้งขนาดและการกระจายตัวที่มากกว่าระยะต้นๆ เช่นเพิ่มขนาดก้อนโตกว่า 5 ซม.หรือมีเส้นผ่าศูนย์กลางเกิน 2 นิ้ว หรืออาจพบว่ามีเซลล์มะเร็งไปที่ต่อมน้ำเหลืองมากกว่า 4 ต่อม หรือเซลล์มะเร็งที่ต่อมน้ำเหลืองซึ่งเป็นต่อมที่อยู่ใกล้กับบริเวณกระดูกทรวงอก หรือเป็นเซลล์มะเร็งที่ผิวเต้านมซึ่งอาจมีการบวมและมีโอกาสกระจายไปที่ต่อมน้ำเหลืองใต้รักแร้ได้มากกว่า 9 ต่อมและอาจกระจายไปใกล้กระดูกไหปลาร้า ซึ่งการรักษามะเร็งระยะที่ 3 นี้จะวิธีหลากหลาย ทั้งการตัดเต้านม ทิ้งทั้งหมด หรือการผ่าตัดแบบสงวนเต้านม ตามแต่อาการของโรค การฉายแสงร่วมกับการให้เคมีบำบัดและการตัดต่อมน้ำเหลือง ซึ่งหลังการผ่าตัดแล้วบางรายก็จะต้องให้ยาต้านฮอร์โมนหรือยารักษาแบบเฉพาะ (targeted cancer therapy) ซึ่งหากมะเร็งเต้านมระยะที่ 3 นี้มีขนาดใหญ่ ก็อาจให้คีโมบำบัดก่อนเพื่อลดขนาดก้อนมะเร็งให้เล็กลง จากนั้นจึงตามด้วยการผ่าตัดเต้านม การตัดต่อมน้ำเหลืองและการฉายแสง และตามด้วยการให้ยาต้านฮอร์โมนและยา targeted cancer therapy ร่วมด้วย
มะเร็งเต้านมระยะที่ 4: เป็นระยะที่เซลล์มะเร็งกระจายตัวไปยังอวัยวะอื่นๆ เช่นที่กระดูก ตับ สมองหรือปอด แล้ว เรียกว่าMetastatic breast cancer ซึ่งถึงแม้จะเป็นระยะที่ถูกระบุว่าไม่สามารถรักษาให้หายได้ แต่นวัตกรรมการรักษาก็จะช่วยให้คนไข้สามารถมีชีวิตอยู่ได้ยาวนานขึ้น ลดความทรมานจากอาการให้น้อยลง การรักษาระยะนี้ มักใช้การให้ยาและให้เคมีบำบัดเป็นหลักแทนการผ่าตัด และใช้ยาต้านฮอร์โมนเพศหญิงเพื่อไม่ให้เซลล์มะเร็งเติบโตเพิ่มขึ้น
นวัตกรรมเทคโนโลยีของการตรวจหามะเร็งเต้านม
ที่น่าภูมิใจก็คือ ความรู้ความสามารถของแพทย์และเครื่องมือการรักษาโรคมะเร็งเต้านม ที่ประเทศไทยเราขึ้นชื่อว่าก้าวหน้าที่สุดชาติหนึ่งในอาเซียนและในโลก ซึ่งนอกจากการรักษาให้หายขาดได้แล้ว ก็ยังสามารถคืนความสวยงามให้กับเต้านมให้ร่างกายกลับสู่สมดุลทั้งความสวยงามและสรีระสุขภาพที่ดี มาดูกันถึงความก้าวหน้าของวิทยาการกับอุปกรณ์และเครื่องตรวจล้ำสมัยที่ประเทศไทยไม่น้อยหน้าใคร กับเครื่องมือตรวจมะเร็งเต้านมที่นำร่องนวัตกรรมของศูนย์สิริกิติ์บรมราชินีนาถ เพื่อโรคมะเร็งเต้านม โรงพยาบาลจุฬาลงกรณ์
1. แมมโมแกรม 3 มิติ: เป็นเครื่อง 3D แมมโมแกรม ที่ศูนย์สิริกิติ์บรมราชินีนาถฯ มีเป็นแห่งแรกในประเทศไทย และเป็น 1 ใน 4 แห่งแรกของโลก ซึ่งหลังจากนั้น ที่นี่ก็มีเครื่องแมมโมแกรมเครื่องที่สองที่สามารถจะทำ biopsy การตัดชิ้นเนื้อเพื่อนำไปตรวจหามะเร็งเต้านมได้ด้วย และล่าสุดนี้ก็ได้มีเครื่องที่สามที่เป็นรุ่นใหม่ล่าสุดที่สามารถทำการฉีดสีเพื่อดูเส้นเลือด และดูเนื้อเยื่อต่างๆทั้งในเต้านมและต่อมน้ำเหลือง ทำให้ดูก้อนมะเร็งที่มีความก้ำกึ่งได้ชัดเจนยิ่งขึ้น ซึ่งที่ศูนย์สิริกิติ์บรมราชินีนาถฯ แห่งนี้ จะเป็นที่เดียวในโลกที่มีแมมโมแกรม 3 เจเนเรชั่น และยังทำงานได้ทั้ง 3 เครื่อง
2. Magnetic Resonance Image: เป็นเครื่อง MR ที่ถูกออกแบบมาเพื่อการตรวจวินัจฉัยเต้านมโดยเฉพาะ ซึ่งมีที่ศูนย์สิริกิติ์บรมราชินีนาถฯ นี้เท่านั้นในประเทศไทย ข้อดีก็คือ ช่องนอนที่กว้างและสั้นทำให้ความรู้สึกกลัวที่แคบของคนไข้ลดลง และฮาร์ดแวร์ของเรื่องที่ถูกออกแบบเพื่อใช้ตรวจเต้านมเป็นหลัก ทางศูนย์ใช้เครื่องนี้ในการตรวจหามะเร็งเต้านมมา 5 ปีครึ่งแล้วโดยใช้ร่วมกับการตรวจแมมโมแกรม
3. เครื่อง CT mammogram: เป็นเครื่องเหมือนโดนัท ใช้วิธีตรวจหามะเร็งเต้านมโดยให้ผู้ป่วยนอนคว่ำแล้วเลื่อนเข้าออก ที่นี่เป็นที่แรกในเอเชียที่ใช้เครื่องนี้มาราวๆ 5 เดือน ใช้เวลาในการตรวจไม่ถึง 5 นาที โดยใช้เสริมการตรวจแมมโมแกรมปกติในกรณีแมมโมแกรมและอัลตร้าซาวด์ไม่สามารถตอบโจทย์ได้ในบางสิ่ง
4.Breast Thermography: เครื่องนี้เป็นการตรวจโดยการใช้แสงในกลุ่มของอินฟราเรดในระดับความถี่ระดับหนึ่ง เหมือนกับการถ่ายภาพโดยใช้แสงที่นอกเหนือจากสายตาเรา ซึ่งจะตรวจพบเซลล์มะเร็งได้จากความผิดปกติของอุณหภูมิผิวหนังหรือเนื้อเยื่อที่อยู่ใกล้เคียง เครื่องนี้ใช้เป็นส่วนเสริมการตรวจด้วยแมมโมแกรมซึ่งเป็นการตรวจหลัก
5. Sculp Cooling: อุปกรณ์ให้ความเย็นกับหนังศีรษะ เพื่อลดผมร่วงจากเคมีบำบัด ผลข้างเคียงของการให้เคมีบำบัดที่รู้กันดีก็คือเรื่องของผมร่วง ซึ่งอุปกรณ์นี้จะใช้สวมศีรษะระหว่างให้เคมีบำบัด ความเย็นที่ต่ำกว่า 0 องศาจะช่วยให้เลือดที่มาเลี้ยงศีรษะน้อยลง ทำให้ผมร่วงน้อยลงด้วย ซึ่งประเทศไทยเป็นที่แรกที่มีเครื่องนี้ในแถบเอเชียตะวันออกเฉียงใต้
นอกจากที่ศูนย์สิริกิติ์บรมราชินีนาถแห่งนี้แล้ว การรักษามะเร็งเต้านมด้วยวิทยาการก้าวหน้าทางการแพทย์ก็มีใช้แพร่หลายในโรงพยาบาลรัฐและสถาบันอีกหลายแห่ง อาทิ การผ่าตัดมะเร็งเต้านมด้วยการส่องกล้องของภาควิชาศัลยศาสตร์ คณะแพทยศาสตร์ โรงพยาบาลรามาธิบดี ซึ่งจะใช้กล้องขนาดเล็กผ่าตัดเอาเนื้อส่วนที่เป็นมะเร็งเต้านมออกไปและสามารถใช้กล้องนั้นตัดเนื้อที่ส่วนหลังมาสร้างเต้านมใหม่ได้ในการผ่าตัดเดียวกัน หรือการแช่น้ำยาเคมีเพื่อลดผมร่วงของสถาบันมะเร็งแห่งชาติ ก็ล้วนเป็นนวัตกรรมการรักษามะเร็งเต้านมที่มีอยู่ในขณะนี้ทั้งสิ้น
ข่าวดีของผู้หญิงที่สูญเสียเต้านมหลังการผ่าตัดรักษาโรคร้ายนี้ก็คือ ปัจจุบันนี้ได้มีการผ่าตัดเพื่อเสริมสร้างเต้านมใหม่ที่เรียกว่า Oncoplastic Breast Surgeryจะทำให้ผู้หญิงเราสามารถคงสรีรภาพความเป็นผู้หญิงไว้โดยไม่ต้องรู้สึกว่าสูญเสีย ทั้งให้ผลดีกับสมดุลการทรงตัวของร่างกาย ซึ่งการทำผ่าตัดเพื่อเสริมสร้างเต้านมใหม่นี้ จะสามารถทำได้หลังจากที่ได้รักษามะเร็งเต้านมหายขาดแล้ว
มะเร็งเต้านม – ฝากไว้ให้คิด
นพ.อธิศพันธ์ ศูนย์มะเร็ง รพ.จุฬา
“ประมาณครึ่งหนึ่งของคนไข้มะเร็งเต้านมรายใหม่ของทุกปี มักจะอยู่ในระยะ 4 ที่โรคลุกลามแล้ว ซึ่งน่าเสียใจว่าคนไข้มาเมื่อเกินจุดที่เราคาดหวังว่ามันจะหายขาด มะเร็งเต้านมสามารถรักษาได้ และถึงแม้จะอยู่ในระยะลุกลามแล้วก็ต้องรักษา ผู้หญิงมักมีธรรมชาติของแม่ ที่เมือรู้ว่าตัวเองเป็นมะเร็งเต้านม ก็จะมองแต่ในมุมของตัวเองว่าไม่รักษาเพราะอยากเก็บเงินไว้ให้ลูกกลัวครอบครัวลำบาก แต่สำหรับครอบครัว ผมเชื่อว่า การลำบากด้วยกันแต่เราได้อยู่ด้วยกันนานๆ นั่นต่างหากคือสิ่งที่เป็นความสุขของครอบครัวที่แท้จริงนะครับ” – นายแพทย์อธิศพันธ์ จุลกทัพพะ อาจารย์แพทย์ หัวหน้าหน่วยศัลยกรรมทั่วไป ภาควิชาศัลยศาสตร์ คณะแพทยศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย, ศัลยแพทย์ประจำศูนย์สิริกิติ์บรมราชินี เพื่อโรคมะเร็งเต้านม โรงพยาบาลจุฬาลงกรณ์ สภากาชาดไทย
นพ.ไกรภพ จารุไพบูลย์
“ศัลยกรรมเสริมสร้างเต้านม จะช่วยให้ผู้หญิงหลังจากผ่าตัดเอาเต้านมออก ได้คืนสู่ความสมดุลของอวัยวะ ซึ่งสำคัญเกี่ยวกับสมดุลการทรงตัวของร่างกายนอกจากเรื่องของความสวยงาม ส่วนความรู้สึกสูญเสียอวัยวะที่รักไป ก็เป็นเรื่องที่แพทย์พยายามจะช่วยด้วยการคงสรีระสภาพของความเป็นผู้หญิงไว้ให้คุณให้มากที่สุด เพราะปัญหาหนึ่งของการรักษาก็คือคนไข้มักกลัวการสูญเสียนี้จนบางครั้งปฏิเสธการผ่าตัด ศัลยแพทย์เต้านมทุกคนตระหนักว่านี่คือสิ่งที่คนไข้กังวลและพยายามรักษาสิ่งนี้ไว้ให้ แต่มีข้อแม้คือเราจะเอาเรื่องการหายจากโรคมาก่อนเป็นสิ่งแรก” – นายแพทย์ไกรภพ จารุไพบูลย์ ศัลยแพทย์ผู้เชี่ยวชาญศัลยศาสตร์มะเร็งเต้านมและเสริมสร้างเต้านม ( Oncoplastic Breast Surgery)
เล่ามาถึงสุดท้ายนี้ ดิฉันเชื่อว่า ความรู้เรื่องของมะเร็งเต้านมวันนี้ จะสามารถช่วยทั้งในการเป็นข้อมูล และการตัดสินใจให้ใครก็ตามที่ต้องการความช่วยเหลือให้คุณเป็นคู่คิดคู่ปรึกษาได้ในอนาคต ไม่มีใครอยากพบกับโรคร้าย แต่การทำความเข้าใจกับสิ่งนี้ตั้งแต่เนิ่นๆก็จะช่วยให้เราจัดการปัญหาหากมันเกิดขึ้นได้ดีที่สุด ตุลาคมนี้ ใส่ใจสุขภาพอวัยวะที่รักและหวงแหนของคุณ ด้วยการไปตรวจแมมโมแกรมกันนะคะ
Copy right © 2016 The Editors. All right reserved.
For Advertising Contact
086-3260374
, 081-7856188