theeditorssociety.com

‘Valentino กับโซโล่คอลเล็กชั่น ของ Pierpaolo Piccioli’

เมื่อมาเรีย กราเซีย คียูรี่ (Maria Grazia Chiuri) ประกาศบ๊ายบายไปแสดงฝีมือคนเดียวที่ดิออร์ (Dior) ทุกคนไม่ว่าในแวดวงแฟชั่นและสาวกแบรนด์ก็จับจ้องและรอคอยว่าวาเลนติโน่ (Valentino) ที่เหลือเพียงปิแอร์เปาโล เพียเชาลี่ (Pierpaolo Piccioli) จะเป็นยังไง?

หลังการประกาศไป 3เดือน ก็ได้เวลาอวดฝีมือกันแล้วว่างานโซโล่เดี่ยวที่ไร้คู่หูของเพียเชาลี่จะออกมาสไตล์ไหน และเขาก็ไม่ทำให้คนที่คอยผิดหวังเพราะคอลเล็กชั่น Spring/ Summer 2017 ออกมาแบบงดงามได้ใจสาวกแฟชั่นและบรรณาธิการแฟชั่นไปเต็มๆ นับว่าเป็นการแสดงฝีมือเดี่ยวหลังร่วมงานกับคียูรี่ที่ห้องเสื้อนี้มาถึง 8 ปี เพียเชาลี่เลือกแสดงโชว์ครั้งนี้ของเขาที่ Hôtel Salomon de Rothschild ซึ่งมีแสงสว่าไสวแทนที่จะจัดแสดงในเต้นท์โชว์ที่สวน Tuilerie ที่มืดทึบที่เลือกไว้ในตอนแรก ซึ่งนับว่าเป็นการเลือกที่ถูกต้องจริงๆ เหมาะกับสไตล์และสีสันของชุดคอลเล็กชั่นนี้

ส่วนหนึ่งของคอลเล็กชั่น Spring/ Summer 2017

เสื้อผ้ามาในแบบสวยหวาน โรแมนติกแต่ดูทันสมัย เรียบง่าย เสื้อผ้าทั้งหมดจะเป็นทรงหลวมๆ พลิ้วๆ มีความอ่อนหวานแมตช์กับรองเท้าสวมไม่มีส้นหรือมีส้นเตี้ยๆ มีกลิ่นอายสไตล์เสื้อผ้าหญิงสาวสมัยเรเนสซองต์ เพิ่มรายละเอียดด้วยกระเป๋าสะพายเฉียงใบจิ๋ว ไว้ใส่ลิปสติกซักแท่ง โทนสีเสื้อมาในโทนสีแดง ชมพู ขาว เขียวและดำ ที่พิเศษก็คือเพียเชาลี่ขอให้ดีไซเนอร์รุ่นเก๋ายุค ’70s ผู้มีการแต่งตัวเป็นเอกลัษณ์สุดๆ ซานดร้า โรห์ส (Zandra Rhodes) มาช่วยออกแบบลายผ้า โดยป้าโรห์สได้แรงบันดาลใจมาจากภาพวาดของศิลปินชาวดัชต์ Hieronymus Bosch สมัยศตวรรษที่ 14 โดยเธอบอกว่าเพียเชาลี่บินตรงมาหาเธอถึงลอนดอนเพื่อให้เธอช่วยออกแบบลวดลายผ้าจากภาพวาดของศิลปินดัตช์ผู้นี้ ซึ่งเธอว่าเป็นสิ่งที่น่าเหลือเชื่อมากๆ

Zandra Rhodes คุณป้าสุดเปรี้ยวกับลวดลายที่เธอมาร่วมออกแบบ

Pierpaolo Piccioli ออกมาส่งจูบขอบคุณ และมร.วาเลนติโน่กับบรรดาเซเล็บริตี้ที่มานั่งชมโชว์ครั้งนี้

เรียกได้ว่าปิแอร์เปาโล เพียเชาลี่ประสบความสำเร็จอย่างงดงามกับโชว์โซโล่ครั้งแรก แต่ละลุคที่เขาดีไซน์ล้วนสวยงามโดดเด่นในแต่ละลุค ซึ่งโดยรวมแล้วมีความสวยหวานที่ใครๆ ก็ปฏิเสธไม่ลง คุณว่ามั้ย?

ภาพ: www.mirror.co.uk; www.pinterest.com; www.thefashionspot.com; www.fashionista.com; www.dazeddigital.com; www.zinbio.com; www.fashionstylemag.com; www.coolchicstylefashion.com; www.washingtonpost.com; wwd.com

เล็งลุกส์หน้าผมนางแบบ เทรนด์บิวตี้กระหน่ำฝีมือ #ParisFashionWeek #SS17

ปิดฉาก Paris Fashion Week ไปได้ไม่กี่วัน ทางเราก็ขอรับหน้าที่รายงานเทรนด์ที่เหล่าบรรดายอดฝีมือในวงการได้สร้างสรรค์ไว้ให้แต่ละโชว์ประจำซีซั่น Spring Summer 2017 …จัดเต็ม จัดหนัก จัดให้เลยค่ะ

Dior โชว์พลังความเป็นผู้หญิงที่จับต้องได้ให้กับโชว์นี้ Street Style ถูกโยงเข้ามาเป็นส่วนหนึ่งในแรงบันดาลใจ ความเรียบง่ายถูกเติมเต็มไปด้วยรายละเอียด ผลงานเมคอัพโดยสุดยอดฝีมือ Peter Philips ผลิตภัณฑ์ที่เขาตั้งใจเน้นเป็นพิเศษก็อย่างเช่น Loose Powder, Pink Highlighter และ Lip Balm เรียวปากเฉดสีชมพูละมุน เพื่อให้ได้ลุกส์ที่ดูสบายๆ แต่งเป็นธรรมชาติ เข้าเทรนด์ที่ว่าแต่งเหมือนไม่ได้แต่ง จากปากคำของปีเตอร์ ฟิลิปส์ “คอลเล็กชั่นนี้คือจุดเริ่มต้นของการใช้ลูกเล่นผสมผสานระหว่างความเจิดจรัส และมาดมั่นในความเป็นผู้หญิงตามธรรมชาติ การเลือกนางแบบที่มีบุคลิก หน้าตาหลากหลาย ทำให้เรามีผู้หญิงรูปหน้าแตกต่างกัน ซึ่งจะทำให้ความแตกต่างเหล่านี้ดูกลมกลืน” ส่วนด้านงานผมได้แฮร์สไตล์ลิสท์ Guido Palau ครีเอททรงม้วนมวยสูง จุดสนใจอยู่ตรงที่มีถักเปียเป็นแนวประดับผม โดยตั้งใจจะผสมผสานอารมณ์ความ Classic กับ Street Style มาไว้ด้วยกันอย่างดีที่สุด (Credit : Ready-to-Wear Spring-Summer 2017, Dior show Backstage Dior make-up created and styled by Peter Philips Photographer: Vincent Lappartient for Christian Dior Parfums) #diorshow #diorss17 Makeup by @diormakeup @peterphilipsmakeup

Chanel สื่ออารมณ์ความรู้สึกหลากหลาย ความสดใสสไตล์ย้อนยุคกลับไปในปี 1990 ช่วงที่สีสันเป็นที่นิยมอย่างมาก สีสันความมีชีวิตชีวานี้เองที่ทำให้เกิดไอเดียล้ำๆ ได้ไม่รู้จบ Sam McKnight เสนอทรงผมโพนี่เทลมัดรวบต่ำเบี่ยงข้าง ผูกด้วยยางรัดผมสีสดประดับโลโก้ชาเนล C ไขว้ ส่วนงานหน้าตาตกมาอยู่ในมือของ Tom Pecheux ที่ถนัดสไตล์สวยหวานดูเฟมินีน ลิปสติกเนื้อกลอสสีชมพูสดใส นำมาจับคู่กับบลัชออนเฉดโทนเดียวกัน แต่ปัดสูงขึ้นถึงขมับ โหนกคิ้ว (Credit : 2017 Spring-Summer CHANEL Ready-to-Wear Show Backstage, Makeup CHANEL, © CHANEL 2016, Photos Benoît Peverelli)

Louis Vuitton ทรงตากราฟิกบอกถึงความเป็น ’80s ส่วนไอคอนที่เป็นอินสไปร์ทก็คือ Grace Jones นักร้องคาแร็กเตอร์สตรอง อายแชโดว์ในโชว์นี้มีทั้งสีม่วง สีเขียว สีฟ้า ระบายเป็นทรงปีกนกไล่เฉดโทนจากอ่อนไปเข้ม มีทั้งความนุ่มนวลและความเข้มแข็ง

Kenzo มาในธีมที่เรียกว่า Disco Beauty ทั้งนี้ก็เพื่อให้ดูไปกันได้ดีกับชุดเสื้อผ้าที่มีความกลิสเตอร์ริ่ง ราวกับหลุดออกมาจาก Studio 54 นี่คือจุดแรงบันดาลใจ ดังนั้นทางเมคอัพที่นำโดย Lynsey Alexander ก็เลยเบลนสีขึ้นใหม่ออกมาเป็นครีมคัลเลอร์ที่มีสีแดงนีออน เพื่อใช้แต้มแต่งดวงตาล่วงเลยมาถึงโหนกแก้มอีกเล็กน้อย ปัดบลัชสีอ่อนทับให้ดูนุ่มเบา จากนั้นสีปากลงด้วยลิควิดลิปสติกสีแดง เพื่อไม่ให้ดูแม็ตต์เกินไป เธอก็เลยเติมกลอสใสๆ ทับอีกนิด

Givenchy เปลี่ยนลุกส์นางแบบให้ดูเสมือนหนุ่มน้อยหน้าตาดี Pat McGrath จงใจโชว์ความเฟรชใส มีใช้คอนซีลเลอร์ทัชอัพเล็กน้อยเท่าที่จำเป็น เติมแต่งคิ้วให้ดูเข้มชัดเป็นแนวตรง มาถึงทรงผมที่ดูตอบโจทย์บอยๆ ได้ดี เก็บผมอย่างเนี้ยบด้วยเจลแต่งผม ผมดำมันเงาที่ดูเว่อร์เกินจริง บวกกับผมปัดเฉียงที่ตั้งใจให้ดูแตกแยก

Issey Miyake สร้างความตื่นตาตื่นใจให้กับผู้คนได้ทั้งหน้าตาและทรงผม ในธีม Geometry Play เริ่มที่ลุกส์เมคอัพโชว์ฝีมือโดย Alex Box เธอนิยามงานนี้ว่า ‘Impactful and Delicate’ อุปกรณ์ที่เธอใช้ไม่ได้ดูยุ่งยาก เพียงแค่อายไลเนอร์สีขาวมีพิกเม้นต์ในตัว จากนั้นวาดทรงกลมเหมือนกดสแต๊มซ้ำๆ ตามจุดตำแหน่งคอนทัวร์ ไล่จากปลายคาง ข้างแก้ม หน้าแก้ม วิ่งขึ้นไปถึงหน้าผาก ต่อมาเป็นงานผม โดย James Pecis ใส่ความอาร์ตเต็มๆ ใช้ความไม่เท่ากันไม่สมดุลได้อย่างน่าสนใจ ช่อผมโพนี่เทลถูกนำมาจัดวางแลดูเป็นโบว์เอียงๆ สั้นข้าง ยาวข้าง ปักด้วยปิ่นทรงเรขาคณิต

Fenty Puma by Rihanna บิวตี้ลุกส์ของสปอร์ตเกิร์ลในแบบฉบับ Rihanna ดูช่างเต็มไปด้วยสี Pink Glow ทั่วใบหน้า ไอเท็มที่ห้ามลืมเด็ดขาดสำหรับลุกส์นี้ก็คือ ขนตาปลอม และบลัชสีชมพูไฮไลต์เตอร์ ส่วนแบรนด์ผลิตภัณฑ์ที่ถูกเลือกมาใช้ครั้งนี้ ได้แก่ Marc Jacobs Beauty มีทั้ง Blush Soft Glow, Glistening Illuminator

Balmain

Saint Laurent

Emporio Armani

Nina Ricci

Giambattista Valli

John Galliano

Valentino

Vivienne Westwood

Alexander McQueen

Branquinho

Rochas

Andrew Gn

Yohji Yamamoto

Maison Margiela

เครดิตรูป : 1, 2, 3, 4, 5, 6, 7, 8, 9, 10, 11, 12, 13, 14, 15, 16, 17, 18, 19, 20, 21, 22, 23, 24, 25, 26, 27, 28, 29, 30, 31, 32

หลงเข้าไปในโลกของ Disaya

วันก่อนเดินผ่านร้าน Disaya ที่ชั้น 2 โซน Groove @ Central World ก็ต้องให้หยุดมอง และแวะไปชมร้านใหม่ ถูกใจในความโซคิ้วท์ แต่ไม่เลี่ยน ร้านดูสนุก เพราะนอกจากเสื้อผ้าดีไซน์งาม ยังมีเหล่า gadget และเครื่องประดับสนุกๆ ให้เลือกช้อปแบบเพลินๆ

นี่คือโฉมใหม่ คอนเซ็ปต์ใหม่ของแบรนด์ ดิษยา ถ่ายทอดออกมาเป็นร้านใหม่ขนาด 120 ตารางเมตร ลงตัวในความโมเดิร์นของยุคดิจิตัล และเอกลักษณ์ของแบรนด์ที่หรูหราละเมียดละไม ด้วยฝีมือออกแบบของ ดวงฤทธิ์ บุนนาค พื้นที่แบ่งออกเป็นสองส่วนที่ต่อเนื่อง ส่วนแรกคือบูติกสเปซ แสดงเสื้อผ้าคอลเล็กชั่นล่าสุดของดิษยา ครบถ้วนเต็มคอลเล็กชั่น ส่วนที่สอง #DISAYACULTURE เป็นการรวบรวมผลิตภัณฑ์ระดับพรีเมียมตั้งแต่เครื่องประดับไปจนถึงของแต่งบ้าน ประหนึ่งการเติมเต็ใตัวตนของดิษยา โดยมีสีเงินเป็นสีหลักของร้้านสื่อถึงความขบถ พื้นไม้สีอ่อนเน้นความเป็นธรรมชาติ และเฉดขมพูที่แทรกในรายละเอัยดชองร้าน ขับความเฟมินินให้ชัดเจน กระจกเงาบานใหญ่ ยิ่งทำให้ร้านดูกว้างขึ้น จนอาจจะเผลอเข้าไปในอีกมิติหนึ่ง

เห็นความซับซ้อนซ่อนอยู่ในความเรียบง่าย ชวนให้การเข้าช็อปดิษยา สนุกขึ้นร้อยเท่าพันเท่า

My Melody x Kloset นาทีนี้มีแต่ความคิ้วท์!!

เมื่อ My Melody กระต่ายฮู้ดชมพูชวนผองเพื่อนจากป่ามาริแลนด์ มาโลดแล่นอยู่บนดีไซน์น่่ารักของ Kloset แบรนด์แฟชั่นสุดฮ้อต กลายเป็นที่มาของคอลเล็กชั่นข้าวของเครื่องใช้แสนหวาน “My Melody x Kloset”

จากความสำเร็จเมื่อ 2 ปีก่อนที่แบรนด์ คลอเส็ท ร่วมกับซานริโอ นำคาแรกเตอร์ Hello Kitty มาออกแบบคอลเล็กชั่นลิมิเต็ดน่ารักน่าชัง คราวนี้ คลอเส็ท นำอีกหนึ่งคาแรกเตอร์กระต่ายน้อยฮู้ดชมพู My Melody และเหล่าผองเพื่อน ผสมผสานลวดลายผลแอปเปิ้ล อันเป็นหนึ่งลวดลายจากคอลเล็กชั่นเสื้อผ้าฤดูใบไม้ร่วงและหนาว 2017 ของแบรนด์คลอเส็ท กลายเป็นข้าวของเครื่องใช้น่ารักๆ ของเด็กสาว ไปจนถึงสาวๆ ตั้งแต่กระเป๋า แจ๊กเก็ต ทีเชิ้ต หมวก สมุด ผ้าเช็ดหน้า ผ้าเช็ดตัว รองเท้า ถุงเท้า ไปจนถึงหมอนรองคอ

พร้อมให้สาวๆ กรี๊ดเสียงดัง ในแบบจำกัดจำนวน โดยจะมีจำหน่ายครบทั้งคอลเล็กชั่นในงาน Crntral/Zen Sanrio Fair 2016 ตามสถานที่ต่อไปนี้

6 – 19 ตุลาคม ชั้น 1 เซ็นทรัลพลาซา ลาดพร้าว
10 – 26 ตุลาคม ชั้น G เซ็นทรัลพลาซา บางนา
11 – 25 ตุลาคม ชั้น 1 เซ็นทรัลพลาซา แจ้งวัฒนะ
และ 17 ตุลาคม – 4 พฤศติกายน ชั้น G เซ็นทรัลพลาซา พระราม 3

จัดไป อย่าให้ช้า!

ภาพ: ลิขสิทธิ์แบรนด์

ถ้าพระนางมารีอังตัวแนตต์อยากไปยิม

เมื่อตารางโชว์แฟชั่น Prêt-à-Porter ที่ปารีสออก มีลิสต์ชื่อแบรนด์ที่ร่วมโชว์คราวนี้จาก Fenty x Puma by Rihanna อีกแล้ว ไลน์เสื้อผ้าสปอร์ตเปรี้ยวๆ เก๋ๆ ฝีมือนักร้องสาวสุดแซ่บ “ริริ” หรือ “รีฮานน่า” (Rihanna) หลังเคยร่วมโชว์ไปแล้วเมื่อต้นปีที่ผ่านมา

ก่อนโชว์เหล่าบรรดานักข่าวแฟชั่นและแฟนคลับของริริต่างก็วาดภาพไปต่างๆ นานาว่าคอลเล็กชั่นล่าสุด Spring 2017 นี้จะเป็นแนวไหน? เพราะเมื่อคอลเล็กชั่นที่แล้ว เธอออกแบบเป็นสไตล์โกธิก ดูลึกลับ ดาร์กๆ บางคนนึกถึงภาพบรรยากาศและสถานที่ว่าต้องเต็มไปด้วยแชมเปญจ์ คาเวียร์ ปาร์ตี้สุดสนุก สถานที่จัดโชว์เก๋ๆ แถวหอไอเฟลไปโน้น แต่เมื่อเทียบเชิญออกระบุถึงสถานที่แล้วกลายเป็นว่าเธอเลือกจัดโชว์ล่าสุดนี้ที่ Hôtel Salomon de Rothschild แมนชั่นสไตล์ศตวรรษที่ 19 ในเขต 8 ของปารีสต่างหาก

แมนชั่นแห่งนี้เคยจัดแสดงโชว์แฟชั่นของวาเลนติโน่และอีฟส์ แซงต์ โลรองต์มาแล้ว ห้องแสดงสามารถเดินทะลุต่อกันแบบไม่มีเสาบังขัดตา เพดานตกแต่งด้วยศิลปะนีโอคลาสสิกและโคมไฟแชนเดอเลียร์ที่เข้ากับคอนเซ็ปต์เสื้อผ้าครั้งนี้ เพราะริฮานน่าได้แรงบันดาลใจจากสไตล์เสื้อผ้าสมัยศตวรรษที่ 18 และพระนางมารีอังตัวแนตต์ กลิ่นอายแบบจีนๆ มีทั้งคอร์เซ็ตต์ ลูกไม้ สร้อยไข่มุกผสมผสานกับแจ๊กเก็ตฮู้ด แจ๊กเก็ตกันลม บอดี้สูทแนบเนื้อ กางเกงวอร์ม กางเกงขาสั้น รองเท้าแบบครีพเปอร์ รองเท้าส้นสูงหัวแหลม บู๊ตหุ้มข้อหัวแหลม หมวกแบบเบสบอล มีการตกแต่งประดับประดาด้วยริบบิ้น พู่ห้อย การจับจีบย่น โทนสีแสนหวานผิดกับคอลเล็กชั่นที่แล้วมากๆ เป็นชมพูอ่อน ม่วงลาเวนเดอร์ เขียวมิ้นต์ ขาวและลายพราง โดยเสื้อผ้ามีทั้งของหญิงและชาย ส่วนเมกอัพฝีมือแพต แม็กกราธ (Pat McGrath) ก็ไม่ทำให้ผิดหวังเพราะแต่งหน้าเป็นแนวศตวรรษที่ 18 หน้าเนียนขาวผ่อง แก้มชมพูระเรื่อ เรียวปากอิ่มสีชมพูเข้ากันกับลุคสุดๆ

ริฮานน่าเอ่ยปากก่อนแฟชั่นเริ่มว่า “ชั้นกังวลสุดๆ ไปเลย เพราะที่นี่ (ปารีส) เป็นเมืองแฟชั่น ทำให้ชั้นกดดันมากๆ แต่ชั้นยินดีรับฟังและเคารพความเห็นและคอมเม้นต์ทั้งหลายนะคะ และเพราะว่าพูม่าเป็นแบรนด์สปอร์ต มันก็ท้าทายดีที่ชั้นจะเอามาผสมผสานให้ทั้งผู้หญิงและผู้ชายใส่ได้ โดยที่ใช้ได้จริง”

แล้วคุณๆ ว่ากันยังไงบ้างสำหรับคอลเล็กชั่น Spring 2017 ของ Fenty x Puma by Rihanna ในคอนเซ็ปต์ที่ริฮานน่าสรุปว่า ‘เหมือนกับพระนางมารีอังตัวแนตต์อยากไปยิมออกกำลัง’ ส่วนเราคิดว่าสาวๆ น่าจะชอบอยู่ไม่น้อย เพราะเป็นเสื้อผ้าแนวกีฬาแต่ไม่ดูน่าเบื่อ ดูสวยๆ หวานๆ แอบมีดีเทลแถมยังใช้ใส่ไปโน้นนี่ได้อีกด้วย ใช้ได้หลายโอกาสปรับได้หลายไอเดีย วางขายเมื่อไหร่อย่าลืมช้อปไว้ซะหน่อยนะคะ

ภาพ: tomandlorenzo.com; thedapifer.com; fashionmagazine.com; popsugar.com; thefashionspot.com; instyle.com; superselected.com; pausemag.co.uk; hypebae.com; vh1.com

The Editors Society x Lazada “แต่งหล่อตามสไตล์หนุ่ม Urban”

คราวนี้ โจทย์ของเครื่องแต่งกาย และเครื่องประดับให้หนุ่มๆ ก็คือหนุ่มเมืองมากเสน่ห์ เครื่องแต่งกายหลากหลายชิ้นที่เลือกเน้นที่ความคลาสสิก แต่ขณะเดียวกันก็แอบมีรายละเอียดสนุกๆ ที่เปิดโอกาสให้หนุ่มหยิบชิ้นโน้น มาสวมกับชิ้นนี้ ได้อย่างไม่ยากเย็น ลองดูนะ

>>ช้อป Lazada คลิ๊ก<<

CSB รองเท้าคัทชูชายสีดำ (499 บาท)

รองเท้าแฟชั่น ก็ต้องแบบนี้ล่ะ

>>ช้อป Lazada คลิ๊ก<<

Body Glove เสื้อโปโลสีดำพิมพ์โลโก้ที่อก (495 บาท)

ชิ้นเบสิก นึกอะไรไม่ออกก็สวมเสื้อโปโล ปลอดภัยสุด

>>ช้อป Lazada คลิ๊ก<<

B&B กางเกงขายาวทรง Chino สีเทา (399 บาท)

สแลคเข้ารูป เป็นอีกสไตล์หนึ่งของความเท่ ที่หนุ่มๆ ควรมี

>>ช้อป Lazada คลิ๊ก<<

B&B เชิ้ตขาวแขนยาวพิมพ์ลายรูปสุนัขที่กระเป๋าเสื้อ (399 บาท)

ไอเท็มเรียบๆ แต่ไม่เรียบจนเบื่อ เพราะเขาพาน้องหมาน้อยมาในกระเป๋า

>>ช้อป Lazada คลิ๊ก<<

B&B เสื้อสูทลำลองสีดำ (819 บาท)

ให้สมกับเป็นหนุ่มเมือง ด้วยเสื้อสูทที่เหมาะสำหรับทุกโอกาส ตัวเดียวเอาอยู่

>>ช้อป Lazada คลิ๊ก<<

Weinbrenner กระเป๋า tote ผ้าคานวาสสีน้ำตาล พร้อมสายสะพาย (850 บาท)

สำหรับวันสบายๆ กระเป๋า tote คานวาสพร้อมลุยไปกับคุณทุกที่

>>ช้อป Lazada คลิ๊ก<<

Lee เชิ้ตแขนสั้นลายตารางสีน้ำเงิน (590 บาท)

เชิ้ตลายตาราง เทรนด์เสื้อผ้าฮิตของซีซั่นนี้ ต้องหาไว้สักตัว

>>ช้อป Lazada คลิ๊ก<<

Samsonite กระเป๋าเดินทาง รุ่น Oval ขนาด 20 นิ้ว (8,050 บาท)

อีกตัวเลือกของการเดินทาง กระเป๋าสีและแบบคลาสสิกสำหรับการเดินทางไปไหนก็ได้ ง่ายๆ ไม่ต้องคิดมาก

>>ช้อป Lazada คลิ๊ก<<

Seiko Prospex Diver ‘Turtle’ (8,475 บาท)

นาฬิกาแบบสปอร์ตระบบออโตเมติก และหมุนลานเพื่อสำรองพลังงานได้ กันน้ำลึก 200 เมตร

>>ช้อป Lazada คลิ๊ก<<

Casio G-shock นาฬิกาข้อมือ (2,750 บาท)

นาฬิกา G-shock ที่มาพร้อมฟังก์ชั่นการจับเวลาครบครัน

>>ช้อป Lazada คลิ๊ก<<

Emporio Armani นาฬิกาโครโนกราฟหน้าปัดสีดำ (6,800 บาท)

นาฬิกาเรือนเรียบ ในระบบโครโนกราฟสุดคลาสิก

>>ช้อป Lazada คลิ๊ก<<

Ray-Ban Aviator (4,490 บาท)

แว่นทรงอวิเอเตอร์ กรอบแว่น และเลนส์สีทอง สำหรับทุกหนุ่มแฟชั่น

>>ช้อป Lazada คลิ๊ก<<

Loewe แว่นสายตา (1,900 บาท)

แว่นสายตาแบบคลาสสิก ผู้ชายจะต้องการอะไรมากไปกว่าความเรียบง่าย แต่ดูดี

เมื่อซูเปอร์โมเดล Kate Moss ลาแคตวอล์กเปิดโมเดลลิ่งเอง

คำว่า ‘ล้างมือในอ่างทองคำ’ ใช้กับผู้มีอำนาจชื่อเสียงอำลาวงการ ถ้าเป็นนางงามก็ต้อง ‘ถอดมงกุฎ’ แต่ซูเปอร์โมเดลก็คงต้องบอกว่า ‘โบกมือลาแคตวอล์ก’ ข่าวล่าสุดมีว่า เคต มอสส์ (Kate Moss) ซูเปอร์โมเดลคนดังให้สัมภาษณ์ขออำลาวงการผันตัวไปเปิดเอเจนซี่ของตัวเอง แล้วเธอคิดอะไรยังไงถึงจะบ๊ายบายเวทีไปซะแล้ว มาอ่านกัน

สำหรับซูเปอร์โมเดลหน้าเก๋ แปลกไม่เหมือนใคร รูปร่างผอมบาง สูงแค่ 170 เซนติเมตร ในยุค ’90s หรือเมื่อกว่า 20 ปีที่ผ่านมาถือว่าเป็นคุณสมบัติที่ไม่น่าจะได้เป็นนางแบบได้เลย แต่ด้วยความที่ยุคไนน์ตี้ส์เป็นยุคเปลี่ยนผ่านจากสไตล์แฟชั่นเยอะๆ แน่นๆ ของยุค ’80s มาเป็นยุคเรียบๆ ง่ายๆ ยิ่งน้อยยิ่งดีหรือ Less is More นั่นเอง ที่ทำให้เคต มอสส์ สาวน้อยอายุ 14 ที่มีคุณสมบัติที่ว่าผ่านฉลุยมาเป็นนางแบบชื่อดังได้ ครั้งแรกที่เธอได้ทำหน้าที่นางแบบทำเอาทุกคนสงสัยและข้องใจกันเป็นแถวๆ ว่าสาวหน้าแปลกคนนี้คือใครกัน? แต่กระแสความฮอตของเธอก็แรงดีไม่มีตก กระทั่งเดี๋ยวนี้ก็ยังขายได้

เคต มอสส์ได้รับการทาบทามเข้าสังกัดโมเดลิ่งสุดดังอย่างสตรอม โมเดลส์ (Strom Models) เคตที่มีอายุแค่ 14 ปีถูกพบเจอที่สนามบิน JFK โดยผู้ก่อตั้งสตรอมโมเดลส์ ซาร่าห์ ดูย์กาส์ (Sarah Doukas) และชวนเธอมาเป็นนางแบบที่นี่ตั้งแต่ตอนนั้นจนปัจจุบันนี้ก็ 27 ปีแล้ว และเธอกลายเป็นนางแบบที่ใครๆ ต่างต้องการ ทั้งมาขึ้นปกแมกกาซีน เดินแฟชั่นโชว์หรือเป็นพรีเซนเตอร์ และตอนนี้เธอก็เป็นหนึ่งในไอคอนของวงการแฟชั่นที่ทุกคนชื่นชม ดูได้จากการที่เคตไปร่วมงานกับแบรนด์แฟชั่นต่างๆ ไม่ว่าจะ Top Shop, Longchamp และล่าสุดร่วมออกแบบคอลเล็กชั่นเสื้อเชิ้ตกับ Equipment ต่างก็ขายดิบขายดี

ล่าสุด เธอตัดสินใจลาออกจากสังกัดสตรอม โบกมือลาแคตวอล์กชั่วคราวหรือตลอดไป (อันนี้คงต้องรอดู) เพื่อมาโฟกัสกับการเปิดโมเดลิ่งของตัวเองในชื่อ ‘เคต มอสส์เอเจนซี่ (Kate Moss Agency)’ เธอให้สัมภาษณ์ว่า “ชั้นได้แรงบันดาลใจมาจากบทเจ้าของโมเดลิ่งที่เฟย์ ดันนาเวย์ (Faye Dunnaway) เล่นในเรื่อง Gia ชั้นอยากทำแบบนั้นบ้างไม่ใช่แค่เป็นโมเดลิ่งนางแบบนะคะ แต่อยากดูแลจัดการอาชีพให้ผู้คนได้ทำงาน ชั้นไม่ได้คัดเลือกแค่คนที่สวยดูดีเท่านั้น โมเดลิ่งของชั้นจะมีคนที่อยากเป็นนักร้อง นักแสดงหรือนักเต้นด้วยค่ะ ชั้นต้องการสร้างคนที่เป็นสตาร์” และนอกจากเปิดบริษัทไปเมื่อไม่กี่อาทิตย์ที่ผ่านมาแล้ว เธอยังเปิด Instagram เป็นครั้งแรกอีกด้วยในชื่อของบริษัท (เคตไม่เคยมี instagram มาก่อน) โดยจะมีทีมงานอย่างอดีตคนดูแลคิวงานของเธอ ลูซี่ แบ็กซ์เตอร์ (Lucy Baxter) และผู้จัดการ คามิลล่า จอห์นสัน-ฮิลล์ (Camilla Johnson-Hill)

มารอดูนางแบบนายแบบหรือนักแสดงในสังกัดเคตมอสส์เอเจนซี่กันว่าจะโดดเด่นและโด่งดังแบบเจ้าของรึเปล่า? เอาใจช่วยแฟชั่นไอคอนคนนี้กันนะคะ อ้อ! นอกจากทำหน้าที่เจ้าของเอเจนซี่แล้วยังจะมีแบรนด์ข้าวของไลฟ์สไตล์ที่จะออกวางขายในปีนี้อีกด้วยค่ะ

เครดิตภาพ: nymag.com; buzzfeed.com; indepedent.co.uk; backstageedit.wordpress.com; huffingtonpost.co.uk; peregrinesalon.com; eonline.com; uniontimes.org; dailymail.co.uk; letusstyle.com; bbc.com

Brooks Brothers กับตำนานแกะทองคำ

จะเป็นอย่างไร หากได้รู้ว่า ชุดสูทของ บรูคส์ บราเธอร์ส (Brooks Brothers) เป็นสูทที่ประธานาธิบดีสหรัฐอเมริกา 39 จาก 44 คนเลือกสวม ว้าว!

แม้แต่ บารัค โอบาม่า ประธานาธิบดีคนที่ 44 ก็ยังเลือกสวมสูท บรูคส์ บราเธอร์ส แต่ที่พีคสุดเห็นจะเป็นประธานาธิบดีอับราฮัม ลินคอล์น สวมเสื้อโค้ทบรูคส์ บราเธอร์ส ในวันรับตำแหน่งประธานาธิบดีอย่างเป็นทางการ และเป็นตัวเดียวกับที่เขาถูกลอบสังหารด้วย ใม่ว่าจะเป็นเรื่องดี หรือเรื่องเศร้า แต่เพราะอะไรที่ทำให้ บรูคส์ บราเธอร์ส เป็นที่นิยมและยอมรับในระดับประเทศ

อับราฮัม ลินคอล์น (ซ้าย) ภายในเสื้อโค้ทปักมือของประธานาธิบดีลินคอล์น ปักรูปนกอินทรี และประโยค “One Country, One Destiny”

แฟล็กชิพสโตร์บนถนนเมดิสัน นิวยอร์ก

เฮนรี่ แซนส์ บรูคส์ (Henry Sands Brooks) ก่อตั้งร้านเสื้อบุรุษในนิวยอร์ก สหรัฐอเมริกาเมื่อปี 1818 หรือเกือบสองศตวรรษ โดยใช้ชื่อ H. & D.H. Brooks & Co. จากนั้นปี 1845 จึงได้เปลี่ยนชื่อแบรนด์เป็น Brooks Brothers และเริ่มให้บริการสูทสำเร็จรูป จากที่ก่อนหน้านี้เสื้อสูทจำเป็นบริการสั่งตัดทั้งสิ้น ไม่มีแบบเสื้อผ้าสำเร็จรูป แต่เนื่องจากลูกค้าในขณะนั้นเริ่มมีความต้องการสินค้าที่ซื้อแล้วสวมใส่ได้ทันทีไม่ต้องรอนานเหมือนการสั่งตัด ทำให้บรูคส์ บราเธอร์ส เป็นแบรนด์เสื้อบุรุษแบรนด์แรกในสหรัฐอเมริกาที่จำหน่ายสูทแบบสำเร็จรูปหรือ ready to wear และได้รับความนิยมอย่างสูง

โลโก้แกะทองตำ สัญลักษณ์แบรนด์ เนื่องจากการสูทที่ดีย่อมต้องเริ่มต้นจากการเลือกวัตถุดิบชั้นดี และวัตถุดิบชั้นดีที่ใช้ในการผลิตสูทคือวูลที่ได้จากขนแกะ

เชิ้ตสีชมพูในนิตยสาร Vogue

ไม่เพียงแต่จะริเริ่มนำเสื้อสำเร็จรูปมาจำหน่ายเป็นแบรนด์แรก บรูคส์ บราเธอร์ส ยังได้สร้างนวัตกรรมการออกแบบเสื้อที่กลายเป็นมาตรฐานของเชิ้ตในปัจจุบัน เมื่อจอห์น บรูคส์ ทายาทของผู้ก่อตั้งแบรนด์ออกแบบเสื้อเชิ้ตติดกระดุมปลายปกเสื้อ เมื่อปี 1896 จากแรงบันดาลใจเมื่อครั้งไปร่วมการแข่งขันกีฬาโปโล แล้วพบว่านักกีฬาโปโลมีการติดกระดุมที่ปกเสื้อเพื่อไม่ให้ปกเสื้อปลิวไปตามลม ทำให้เชิ้ตรุ่นใหม่ของบรูคส์ บราเธอร์ส นี้กลายเป็นที่นิยมและขายดีที่สุดของแบรนด์มาจนถึงปัจจุบันนี้อีกด้วย

เมื่อกิจการเจริญก้าวหน้าเป็นอันมา บรูคส์ บราเธอร์ส ขยับขยายร้านมาเปิดที่เมดิสัน อเวนิว เมื่อปี 1915 ที่ได้กลายเป็นสาขาแฟล็กชิพในปัจจุบัน ซึ่งต่อมาในปี 1949 เมื่อบรูคส์ บราเธอร์ส ครีเอทเสื้อเชิ้ตสีชมพูอันเป็นคอลเล็กชั่นพิเศษที่สร้างสรรค์สำหรับสตรี ได้ลงในนิตยสาร Vogue และกลายเป็นไอเท็มฮ้อตแห่งปี ที่สาวๆ แฟชั่นนิสต้าต้องหามาสวมใส่ ทำให้บรูคส์ บราเธอร์ส ตัดสินใจเปิดไลน์เสื้อผ้าสตรีอย่างเต็มรูปแบบในปี 1976

บรูคส์ บราเธอร์ส ร่วมงานกับดีไซน์เนอร์แถวหน้าอย่าง ทอม บราวน์ (Thom Browne) เพื่อสร้างสรรค์คอลเล็กชั่น Black Fleece เมื่อปี 2007 เพื่อมุ่งออกแบบเครื่องแต่งกายให้เป็นแฟชั่นมากขึ้น และเพื่อตอบโจทย์กลุ่มคนรุ่นใหม่ โดยเฉพาะนักศึกษาที่ชื่นชอบแนวสปอร์ต ทำให้บรูคส์ บราเธอร์ส ยุคใหม่ มีแฟนคลับเป็นคนรุ่นใหม่จำนวนมาก และเมื่อปี 2014 ทางแบรนด์ประกาศการร่วมออกแบบคอลเล็กชั่นเสื้อผ้าสตรี โดย แซค โพเซ่น (Zac Posen) มาจนถึงปัจจุบัน ฉะนั้นผู้หญิงก็เข้าไปช้อปปิ้งบรูคส์ บราเธอร์ส ได้สบายใจเช่นกัน

แฟล็กชิพสโตร์ ณ ศูนย์การค้าเกษร กรุงเทพ

และก็เป็นที่น่ายินดีว่า ตอนนี้ บรูคส์ บราเธอร์ส ได้มาถึงประเทศไทยให้แฟนๆ ได้สัมผัสถึงความสุดเนี๊ยบนิ้งของเสื้อผ้าหนุ่ม (และสาวๆ ) ในแบบอเมริกันคลาสสิก ประจำที่ ศูนย์การค้าเกสร บนเนื้อที่ 222 ตารางเมตร ตกแต่งด้วยไม้เชอร์รี่โอ๊คนำเข้า เพื่อให้ได้บรรยากาศร้านอันเป็นเอกลักษณ์ของแบรนด์ทั่วโลก สำหรับบรูคส์ บราเธอร์ส ที่เกษรนี้ถือป็นแฟล็กชิพสโตร์แห่งแรก และแห่งเดียวในประเทศไทย เพราะมีครบทุกไลน์คอลเล็กชั่น ทั้งบุรุษและสตรี พร้อมสูททั้งแบบสำเร็จรูป และแบบ made to measure (ที่พร้อมให้บริการในปีหน้า) ขอกระซิบว่าเป็นเชิ้ต และสูทในราคาดีมากๆ นอกจากนี้ยังมีสาขาย่อยที่ ชั้น M สยามดิสคัฟเวอรี่ และเคาน์เตอร์สาขาดิเอ็มโพเรียม สยามพารากอน และเซ็นทรัลชิดลม

เล่าที่มาที่ไปจนครบถ้วน ก็เหลือแค่ว่ารอให้ไปทำความรู้จักกับแกะทองคำ – บรูคส์ บราเธอร์ส ด้วยตัวเองอย่างใกล้ชิด

ปีหน้าตั้งตารอชมสิคะ ภาพยนตร์ชีวิต Kevyn Aucoin เมคอัพนักแปลงโฉมมือหนึ่ง ซูเปอร์ไอดอลของไอดอลวงการแฟชั่นและบิวตี้โลก

ย้อนไปราวๆ ปี ค.ศ. 2000 เกือบจะ 20 ปีเองค่ะ นั่นเป็นครั้งแรกที่เราได้เห็นชื่อของ Kevyn Aucoin บนปกหนังสือ Making Faces และ Face Forward วินาทีแรกที่เห็นปกก็นึกไว้ก่อน อ้อ! คงเป็นหนังสือสอนแต่งหน้าเหมือนเล่มก่อนๆ ที่รุ่นพี่ซื้อมาให้เพื่อใช้เป็นอินสไปร์ท

(L) Gina Gershon as Barbra Streisand. (R) Winona Ryder as Elizabeth Taylor

(L) Susan Sarandon as Bette Davis. (R) Karen Elson as Queen Elizabeth I

ผ่านไปหลายวัน กลับมาพลิกดูอีกที โห! คราวนี้วางไม่ลงเลยค่ะ ตื่นตาตื่นใจไปหมด แต่ละหน้าสวยงามคัลเลอร์ฟลูมาก ดาราคนนี้กลายเป็นดาราหนังในอดีต ผู้ชายแมนๆ มีหนวดแต่งเป็นลินดาซูเปอร์โมเดล ผู้หญิงคนนี้เหมือนอลิซาเบธ เทย์เลอร์ ดูอีกที ไม่ใช่อ่ะ! กลับกลายเป็นวิโนน่า ไรเดอร์ ส่วนกวินเน็ธ พัลโทรว์ถูกสั่งให้เป็นเจมส์ ดีน เวลานั้นจำได้ว่าเวลาที่ได้เจอพี่ๆ เมคอัพอาร์ติสต์ชั้นนำของเมืองไทย ทุกคนต่างพูดถึงหนังสือสองเล่มนี้อย่างชื่นชมสุดใจ

ถึงแม้ว่า Kevyn Aucoin จะเสียชีวิตไปแล้วตั้งแต่เมื่อปีค.ศ 2002 ด้วยอายุตอนนั้นคือ 40 ปี ซึ่งถือว่าเป็นการจากไปอย่างรวดเร็วเหลือเกิน ทว่าทุกผลงานและชื่อเสียงของเขายังเป็นที่ประทับใจและยังคงอยู่ในใจทุกคนเสมอ จึงทำให้รุ่นน้องในวงการอย่าง Tiffany Bartok เกิดโปรเจ็กท์ใหญ่ขึ้น เธอขึ้นแท่นเป็นผู้กำกับและสร้างภาพยนตร์เรื่อง ‘Larger Than Life, The Kevyn Aucoin Story’ เพื่อถ่ายทอดมุมส่วนตัวและการทำงานของ Kevyn Aucoin ผู้ที่ทุ่มเททั้งชีวิตให้กับวงการแฟชั่นและบิวตี้อย่างแท้จริง แน่นอนว่าภาพยนตร์เรื่องนี้จะทำให้คุณย้อนความทรงจำไปเจอกับดารานางแบบในยุคเริ่มต้นชีวิตการทำงาน ตอนที่บรรดาสื่อยังใช้คำเรียกพวกเธอว่านางแบบหน้าใหม่ ดาราดาวรุ่ง ใครกันบ้างล่ะนะ? Christy Turlington, Naomi Campbell, Cindy Crawford, Linda Evangelista, Kate Moss, Winona Ryder, Gwyneth Paltrow….รอชมกันปีหน้านี้เองค่ะ

ส่วนวันเวลานี้ถ้าคุณอยากก้าวเข้าไปสู่โลกบิวตี้ของ Kevyn Aucoin ให้มากยิ่งขึ้น คุณก็สามารถคลิกไปชมและเลือกซื้อเครื่องสำอาง Kevyn Aucoin ได้ง่ายๆ เลือกได้ตามใจชอบเลย http://www.kevynaucoin.com/ มีครบทุกสเต็ปการแต่งหน้า รวมอุปกรณ์แต่งหน้าครบทุกการใช้งาน

5 วิธีเมคอัพที่ได้ชื่อว่า Kevyn Aucoin เป็นคนต้นคิดสไตล์

1.Bright Eyes มีการลงชิมเมอร์ริ่งตรงหัวตาให้สว่างขึ้น ที่มาก็คือขณะที่ Kevyn กำลังเล่นกับหลานสาว แล้วเขาก็บังเอิญสังเกตเห็นความสุกสกาวที่สะท้อนออกมาจากดวงตาของเด็กน้อยคนนี้ นี่ก็เลยกลายเป็นแรงบันดาลใจให้เขาเติมชิมเมอร์ตรงหัวตา เพื่อให้ดวงตาดูมีแสงสะท้อนเหมือนซ่อนดวงดาวเล็กๆ เอาไว้

2.Plump Lips การจะทำให้ปากดูอิ่มได้รูป ต้องยอมรับกันตามตรงว่าผู้หญิงไม่ได้เกิดมาปากอิ่มๆ กันทุกคนซะเมื่อไหร่ และตอนโน้นพวกฉีดฟิลเลอร์ก็ยังไม่บูมซะด้วยสิ Kevyn ใช้ลิปไลเนอร์วาดรูปปากให้ใหม่เลยค่ะ มีเพิ่มแสงเงาให้ด้วย เรียกว่ามาในอารมณ์ศิลปินจริงๆ

3.Chiseled Cheekbones เทคนิกโหนกแก้มพุ่ง จัดรูปหน้า ถ้าเป็นยุคนี้ก็ประมาณเหลาหน้าเรียว คอนทัวร์ ไฮไลต์ เฉดดิ้ง ประมาณนี้ค่ะ

4.Bold Brows คิ้วเป็นคิ้ว ช่วงเวลานั้นช่างแต่งหน้ารุ่นเดียวกันมักจะชอบเขียนคิ้วเล็กๆ บางๆ แต่ Kevyn ไม่รู้สึกดีด้วยซักนิด เขาให้ค่ากับงานคิ้วมากๆ นางแบบที่ลองได้มาอยู่ในมือช่างคนนี้ รับรองเธอจะต้องมีคิ้วที่ได้รูปเรียวดูเป็นธรรมชาติ เหมือนได้คิ้วใหม่เป็นของตัวเองไปเลยนะคะเนี่ย

5.Curled Lashes ขนตางอนทำให้ตาดูกลมโต เรื่องของขนตายาวงอนถือเป็นสิ่งธรรมดามากๆ สำหรับพวกเราในตอนนี้ เพราะอะไรนะเหรอคะ เราไปถึงขั้นไหนกันแล้ว มาสคาร่ามีสูตรสุดยอดทั้งงอนทั้งยาว ยิ่งปัดยิ่งงอน ที่ดัดขนตาไฟฟ้าอย่างงี้ แต่ถึงอย่างไรก็ต้องขอบคุณต้นแบบของเรามากๆ ด้วยเช่นกัน เพราะถ้าเกิด Kevyn ไม่เซ็ตเทรนด์ขนตางอนๆ ให้เป็นที่สนใจมากเข้าไว้ ทุกวันนี้พวกเราอาจจะไม่มีขนตาปลอมมาติดเป็นแพแผงก็ได้นะคะคุณ

เครดิตภาพ : 1, 2, 3, 4, 5, 6, 7, 8, 9, 10, 11, 12, 13, 14

มองของชิ้นเด็ดจากงาน “The View From Her”

อาทิตย์ก่อนได้พาไปสัมผัสบรรยากาศงาน The View From Her งานกึ่งนิทรรศการ และงานแสดงคอลเล็กชั่นฤดูใบไม้ร่วงและหนาว 2016 ของ Hermes (คลิ๊กอ่าน “The View From Her” มองโลก Hermes ผ่านดวงตาเธอ ) และสัญญาว่าจะนำของชิ้นเด็ดจากงานนี้มาให้ชมกัน นี่ก็ถึงเวลาแล้ว ตามมาชมกัน

กระเป๋า Baton de craie ปรับประยุกต์จากทรงอานม้า เวอร์ชั่นนี้ใช้หนังจระเข้ และตัวล็อกเป็นหินหายาก

นาฬิกา Faubourg Malachit ตัวเรือนโรสโกลด์ หน้าปัดหินเขียว

นาฬิกา Cape Cod Onyx ล้อมเพชรรอบตัวเรือน สายจระเข้พันสองรอบ

เดรส และเสื้อโค้ทประดับหมุดเงิน

ดีไซน์ใหม่ของกำไลหนังประดับหมุดเงิน

คอลเล็กชั่นเครื่องเงิน และอัญมณี ออกแบบโดย Pierre Hardy

เสื้อและเสื้อหนัง ที่ออกแบบให้ทั้งรูปทรงและสีสันเข้ากับธีม Gallop

(ซ้าย) น้ำหอมกลิ่นใหม่ Gallop ที่ได้แรงบันดาลใจจากการขี่ม้า ตัวขวดได้แรงบันดาลใจจากโกลนม้า เมืองนอกจำหน่ายแล้ว แต่เมืองไทยกำหนดการณ์ล่าสุดยังเป็นปีหน้า (ขวา) กระเป๋าสะพายทรงหกเหลี่ยม ที่นำมาโชว์คู่กับน้ำหอม

ผ้าพันคอลาย Palmes Royales ลายเด่นของงาน

Twillaine คือเทคนิคการพิมพ์ลายลงบนผ้าไหม และนำไปออกแบบเป็นเสื้อผ้าและเครื่องประดับต่างๆ

(ซ้าย) กระเป๋า Maxiboxทรง tote สีคาราเมล หูจับและขอบข้างเป็นหนังสีเหลืองมาสตาร์ด เช่นเดียวกับ (ขวา) กระเป๋าทรงรุ่นเดียวกัน แต่เป็นทรง duffle ตัวกระเป๋าสีน้ำตาล หูจับและขอบข้างเป็นหนังสีเหลืองมาสตาร์ด

กระเป๋าใสธนบัติซิบข้าง เย็บลายจ๊อกกกี่ลงบนหนัง

ขาดไม่ได้สำหรับแอร์เมส คือกำไลลงยาแบบต่างๆ

กระเป๋า Constance พิมพ์ลาย tattersall วัสดุแคนวาสและหนัง

(ภาพ: Arno Frugier และ Veraphol W)

Tag: fashion

‘Valentino กับโซโล่คอลเล็กชั่น ของ Pierpaolo Piccioli’

เล็งลุกส์หน้าผมนางแบบ เทรนด์บิวตี้กระหน่ำฝีมือ #ParisFashionWeek #SS17

หลงเข้าไปในโลกของ Disaya

My Melody x Kloset นาทีนี้มีแต่ความคิ้วท์!!

ถ้าพระนางมารีอังตัวแนตต์อยากไปยิม

The Editors Society x Lazada “แต่งหล่อตามสไตล์หนุ่ม Urban”

เมื่อซูเปอร์โมเดล Kate Moss ลาแคตวอล์กเปิดโมเดลลิ่งเอง

Brooks Brothers กับตำนานแกะทองคำ

มองของชิ้นเด็ดจากงาน “The View From Her”

PARTNER

HIGHTLIGHT

FASHION

BEAUTY

LIFESTYLE

LEISURE

SOCIAL

THEEDITORSSOCIETY.COM