มองของชิ้นเด็ดจากงาน “The View From Her”

อาทิตย์ก่อนได้พาไปสัมผัสบรรยากาศงาน The View From Her งานกึ่งนิทรรศการ และงานแสดงคอลเล็กชั่นฤดูใบไม้ร่วงและหนาว 2016 ของ Hermes (คลิ๊กอ่าน “The View From Her” มองโลก Hermes ผ่านดวงตาเธอ ) และสัญญาว่าจะนำของชิ้นเด็ดจากงานนี้มาให้ชมกัน นี่ก็ถึงเวลาแล้ว ตามมาชมกัน

 

theviewfromher-01

theviewfromher-02

กระเป๋า Baton de craie ปรับประยุกต์จากทรงอานม้า เวอร์ชั่นนี้ใช้หนังจระเข้ และตัวล็อกเป็นหินหายาก

 

theviewfromher-03

นาฬิกา Faubourg Malachit ตัวเรือนโรสโกลด์ หน้าปัดหินเขียว

 

theviewfromher-04

นาฬิกา Cape Cod Onyx ล้อมเพชรรอบตัวเรือน สายจระเข้พันสองรอบ

 

theviewfromher-05

เดรส และเสื้อโค้ทประดับหมุดเงิน

 

theviewfromher-06

ดีไซน์ใหม่ของกำไลหนังประดับหมุดเงิน

 

theviewfromher-07

theviewfromher-08

theviewfromher-09

theviewfromher-10

theviewfromher-11

theviewfromher-12

คอลเล็กชั่นเครื่องเงิน และอัญมณี ออกแบบโดย Pierre Hardy

 

theviewfromher-13

เสื้อและเสื้อหนัง ที่ออกแบบให้ทั้งรูปทรงและสีสันเข้ากับธีม Gallop

 

theviewfromher-22

(ซ้าย) น้ำหอมกลิ่นใหม่ Gallop ที่ได้แรงบันดาลใจจากการขี่ม้า ตัวขวดได้แรงบันดาลใจจากโกลนม้า เมืองนอกจำหน่ายแล้ว แต่เมืองไทยกำหนดการณ์ล่าสุดยังเป็นปีหน้า (ขวา) กระเป๋าสะพายทรงหกเหลี่ยม ที่นำมาโชว์คู่กับน้ำหอม

 

theviewfromher-14

ผ้าพันคอลาย Palmes Royales ลายเด่นของงาน

 

theviewfromher-15

Twillaine คือเทคนิคการพิมพ์ลายลงบนผ้าไหม และนำไปออกแบบเป็นเสื้อผ้าและเครื่องประดับต่างๆ

 

theviewfromher-16

(ซ้าย) กระเป๋า Maxiboxทรง tote สีคาราเมล หูจับและขอบข้างเป็นหนังสีเหลืองมาสตาร์ด เช่นเดียวกับ (ขวา) กระเป๋าทรงรุ่นเดียวกัน แต่เป็นทรง duffle ตัวกระเป๋าสีน้ำตาล หูจับและขอบข้างเป็นหนังสีเหลืองมาสตาร์ด

 

theviewfromher-19

กระเป๋าใสธนบัติซิบข้าง เย็บลายจ๊อกกกี่ลงบนหนัง

 

theviewfromher-17

ขาดไม่ได้สำหรับแอร์เมส คือกำไลลงยาแบบต่างๆ

 

theviewfromher-18

กระเป๋า Constance พิมพ์ลาย tattersall วัสดุแคนวาสและหนัง

 

 

(ภาพ: Arno Frugier และ Veraphol W)

พาชมคอลเล็กชั่นจากนอกโลก โดย Charlotte Olympia …และ Berbie!

charlotte-olympia-05

charlotte-olympia-06

charlotte-olympia-08

แว็บเห็นความวิบวับของรองเท้า Charlotte Olympia แล้วก็ได้แต่แสบตา ระคนความตื่นเต้น แต่พอได้ยินได้ฟังเท่านั้น ความตื่นตาตื่นใจก็มาปะทุ เพราะคอลเล็กชั่นหน้าหนาวนี้ ชาลอตต์ โอลิมเปีย ออกแบบมาจากนอกโลก โดยมีมนุษย์ต่างดาวชื่อ ซีโอน่า เป็นลูกมือ!

ก็เขียนให้เว่อร์วังไปอย่างนั้นเอง เพราะที่จริง ซีโอน่า เป็นชื่อของกระเป๋าใส่สตางค์รูปเอเลี่ยนน่ารัก ซ่อนอยู่ในยานยูเอฟโอ ซึ่งก็คือกระเป๋าเป้ ที่ออกแบบเป็นรูปจานบินสุดจะมุ้งมิ้ง และเพื่อให้เข้ากับกระเป๋าเป้เอเลี่ยน หรือจะเป็นกระเป๋าคลัทซ์ที่ออกแบบงาน 3D เป็นรูปจรวด โดดเด่นท่ามกลางหมู่ดาว และถ้าจะให้ดี ต้องสวมคู่กับรองเท้าส้นสูงดาวเด่นของซีซั่น มีชื่อเรียกเก๋ไก๋ว่า Miss Universe ความพิเศษคือส้นรูปดาวเคราะห์ต่างดาวสีชมพู ที่สเปรย์สีด้วยมือทุกคู่ เรียกว่า มีครบทั้งกระเป๋าและรองเท้า ก็พร้อมบินไปนอกโลก

charlotte-olympia-01

charlotte-olympia-02

charlotte-olympia-07

คอลเล็กชั่นหน้าหนาว 2016 ชาลอตต์ ตั้งชื่อให้ว่า “The Girl Who Feel To Earth” ในเมือสาวจากต่างดาวจะมาฟีลโลก เลยทำให้หลายๆ ไอเท็ม เต็มไปด้วยความวิบวับกลิตเตอร์แบบกาเล็กซี่ แน่นอนที่สุดคือรองเท้าที่ประดับด้วยคริสตัสและผงเพชรหลากสี เมทาลิกเงิน ผงทอง และอเมทิสต์

charlotte-olympia-03

charlotte-olympia-04

ปิดท้ายกันด้วยคอลเล็กชั่นที่ ชาลอตต์ นำคาแรกเตอร์ของเธอเอง ขมวดเกลียวกลายร่างเป็นตุ๊กตาบาร์บี้ ที่ผลิตออกมาจำนวนจำกัดสุดๆ เพียง 2700 ตัวทั่วโลก และนำมาจำหน่ายที่บูติกชาลอตต์ โอลิมเปีย เพียง 18 ตัว โดยบาร์บี้ชาร์ลอตต์ หิ้วกระเป๋าโบการต๋สีแดงสด รองเท้าส้นสูงรุ่นดอลลี และรองเท้าคิตตี้ และรองเท้ารุ่นอีฟมาให้สลับสับเปลี่ยน กระเป๋าคลัชต์ใสรุ่นแพนโดรา กระเป๋ารุ่นบานาน่า เครื่องสวมศรีษะโลโก้ใยแมงมุม ต่างหูใยแมงมุม แว่นกันแดดแคตอายและกล่องรองเท้า พร้อมกับเสื้อดาวบรูซคาบถุงช้อปปิ้ง

charlotte-olympia-09

 

และเพื่อเอาใจคนรักบาร์บี้ให้ยิ่งรักขึ้นไปอีก ชาลอตต์ จึงออกแบบรองเท้าส้นสูงสีชมพูประดับขนนกมาราบูและรูปหน้าบาร์บี้ ให้ชื่อว่า Barbie Girl พร้อมกับกระเป๋าคลัชต์สีชมพู ประดับชิ้นแม่เหล็กที่เป็นเครื่องสำอางของบาร์บี้ ให้ชื่อว่า Barbie World

เข้าไปที่บูติกชาลอตต์ โอลิมเปียทีไร ต้องมีเรื่องสนุกๆ ติดไม้ติดมือกลับมาทุกครั้ง!

charlotte-olympia-10

 

 

“The View From Her” มองโลก Hermes ผ่านดวงตาเธอ

คลิปวิดีโอแนะนำ The View From Her

 

the-view-from-her-29

อุโมงค์สีส้ม ทางเข้างาน The View Form Her

 

the-view-from-her-43

 

แอร์เมส (Hermes) นำเสนอเรื่องราวของเสื้อผ้า เครื่องหนัง และเครื่องประดับคอลเล็กชั่นฤดูใบไม้ร่วงและหนาว 2016 ผ่านมุมมองจากผู้หญิงในแบบแอร์เมส ผ่านงานแสดง และนิทรรศการ “The View From Her” ที่กรุงปักกิ่ง ประเทศจีน

ทุกคอลเล็กชั่น นอกเหนือจากแสดงแฟชั่นในตารางปารีสแฟชั่นวีคแล้ว แอร์เมส ก็ยังจะได้จัดงานแสดงคอลเล็กชั่นเสื้อผ้า เครื่องหนัง และเครื่องประดับ หมุนเวียนเปลี่ยนไปตามเมืองหลักต่างๆ ภายใต้โปรเจ็กต์ Women’s universe สะท้อนถึงโลกของผู้หญิงในแบบของแอร์เมสนั้นเป็นอย่างไร เพื่อให้แฟนคลับแอร์เมส สื่อมวลชน และคนทั่วไป ได้เข้าในถึงความเป็นแอร์เมส คราวนี้ถึงคิวของกรุงปักกิ่ง ที่ซึ่ง The Editors Society จะพาไปชมโลกของแอร์เมส ผ่านมุมมองของเธอ The View From Her ซึ่งก็คือการตีความว่าเธอคนนั้น มองแอร์เมสไว้ว่าอย่างไรบ้าง ไม่ใช่แค่เสื้อผ้า เครื่องหนัง และเครื่องประดับ หากรวมถึงบรรยากาศ การตกแต่ง และอาหารการกิน ภายใต้การควบคุมของ Bali Barret ผู้อำนวยการฝ่ายศิลป์ของโปรเจ็กต์ Women’s Universe

 

the-view-from-her-31

บริเวณโถงรับรอง หรือ Vision Room

 

เริ่มต้นการเดินทางครั้งนี้ ยังสถานที่จัดงาน Beijing Minsheng Art Museum ซึ่งก็ถือว่าอยู่ในย่านเดียวกับ 798 Art District ศูนย์กลางและย่านอยู่อาศัยของผู้นิยมงานศิลปะของกรุงปักกิ่ง ใครรักงานศิลปะ ขอให้พุ่งตัวมาที่นี่ เพราะมีงานศิลป์แทบทุกรูปแบบที่นึกออก อัดแน่นกันอยู่ในย่านนี้ อันนี้ต้องยอมเขาในเรื่องความทุ่มเท และความอยากให้คนของเขาอุดมศิลปะจริงๆ ตัวพิพิธภัณฑ์โมเดิร์นมาก เสียดายที่มาถึงมืดค่ำเพราะฝนตกแบบไม่ลืมตา ปักกิ่งน้ำท่วมก็ได้เห็นคราวนี้ สถานที่จัดถูกเนรมิตให้รู้สึกว่ากำลังเข้าไปในโลกของแอร์เมส ผ่านอุโมงค์ทางเข้าสีส้มแบบอสมมาตร เมื่อเข้าไปแล้ว จะพบห้องโถงรับรองขนาดใหญ่ เรียกว่า Vision Room มีจุดเด่นที่เสารูปดวงตา ประหนึ่งสารบัญบอกว่า โลกของเธอคนนี้จะมองอะไรบ้าง

 

the-view-from-her-32

the-view-from-her-33

ดีเทลงานออกแบบเครื่องแต่งกาย Hermes โดย Nadege Vanhee-Cybulski ภายในห้อง Secret Drawers

 

the-view-from-her-05

"Ensemble for Nine Dresses", created by Lucinda Childs #TheViewFromHer

A video posted by THE EDITORS SOCIETY (@theeditorssociety) on

การแสดง Ensemble for Nine Dresses ออกแบบโดย Lucinda Childs และคลิปวิดีโอการแสดงจากอินสตาแกรม The Editors Society

 

ไม่มีเวลาลำไย เพราะผลพวงรถติดหนัก จึงเลี้ยวซ้ายเข้าห้องแสดงแรก Secret Drawers จัดแสดงเดรส 9 ชิ้นจากคอลเล็กชั่นฤดูใบไม้ร่วงและหนาว 2016 ออกแบบโดย Nadege Vanhee-Cybulski ดีไซน์เนื้อเสื้อผ้าสตรีแอร์เมส ที่แต่ละชิ้นนั้นมีการทอลายในตัวเดรสอย่างมีชั้นเชิง และแสดงเทคนิค bias-cut อันเกิดจากทักษะการออกแบบอย่างเชี่ยวชาญอย่างใกล้ชิดแบบลูบได้ คลำได้ด้วย (แต่หยิบขึ้นมาลองไม่ได้) จากนั้นเข้าไปชมการแสดงในห้องติดกัน Ensemble for Nine Dresses ที่นำเดรสทั้ง 9 ชิ้นนั้น มาแสดงให้เห็นความพลิ้วไหวยามเคลื่อนไหว บนร่างของนักบัลเลย์ร่วมสมัย ผสมผสานกับไปภาพวิดีโอในเทคนิคสามมิติอย่างน่าตื่นตา ภายใต้การสร้างสรรค์ของ Lucinda Childs โคโรกราฟเฟอร์ชื่อดังชาวอเมริกา

 

the-view-from-her-40

กระเป๋าทรงโค้งอานม้าหนังจระเข้ประดับหินมีค่า ภายในห้อง Mineralogy Unmined

 

the-view-from-her-03

the-view-from-her-07

สื่อผสมวิดีโอ และผ้าพันคอผ้าไหม ภายในห้อง Hypnotic Square

 

จบการแสดงราว 20 นาที ก็มาต่อกันที่ห้อง Mineralogy Unmined อันเป็นห้องแสดงกระเป๋า นาฬิกา และจิลเวลรี่สุดหรูของแบรนด์ ที่แยกกันไปตามธาตุดินน้ำลมไฟ ห้องนี้จัดแต่งราวกับดูงานศิลปะชิ้นสำคัญในมิวเซียมสุดหรู ซึ่งต้องขอเล่าเพิ่มว่า ทุกปีแอร์เมส จะกำหนดแนวทางการสร้างสรรค์และการสื่อสารที่แตกต่างกันไป ทำให้ทุกปี เวลาเราเห็นตั้งแต่การออกแบบเสื้อผ้า เครื่องประดับ ตลอดจนวินโดว์ดิสเพลย์ หรือแคมเปญโฆษณา จะต้องมีกลิ่นของแนวทางหลักนั้น เช่นกันปีนี้แอร์เมสกำหนดให้เป็น Nature at Full Gallop ทำให้ทุกอย่างที่เห็นในงานนี้ เต็มไปด้วยกลิ่นอายธรรมชาติ และเรื่องราวการขี่ม้า ที่จะได้เห็นต่อไป

ไม่ไกลกันคือห้อง Hypnotic Square จัดแสดงวิดีโอกราฟิก คู่กันกับคอลเล็กชั่นผ้าพันคอผ้าไหม 10 ผืน ผ้าพันที่นำมาจัดแสดงขนาด 90 x 90 ซม อันเป็นขนาดมาตรฐานของผ้าพันคอแอร์เมส ที่ได้รับความนิยมมากที่สุด โดยคัดสรรลายเด่นๆ จากฤดูกาลล่าสุดมาจัดแสดง

 

the-view-from-her-01

the-view-from-her-15

the-view-from-her-16

the-view-from-her-06

การแสดงดนตรีโดย Sophie Auster (รูปบน) และบรรยายกาศภายในห้อง Studs in Space

 

เดินย้อนกลับออกมา เพื่อไปยังห้องจัดแสดงฝั่งขวามือ ทางเข้าเล็กๆ สีเขียวๆ แต่สุดทางกลับเจอพื้นที่ขนาดใหญ่สุด Studs in Space ที่ตกแต่งพื้นผนังทั้งหมดด้วยหมุดโลหะ แบบเดียวกับคอลเล็กชั่นเสื้อผ้า กระเป๋า และเครื่องประดับหนัง ที่ตกแต่งด้วยหมุดโลหะเช่นกัน พื้นที่ตรงกลางเป็นเวทียกพื้นเตี้ยเพื่อรอการแสดงดนตรีของ Sophie Auster นักร้องชาวอเมริกัน

 

the-view-from-her-35

ปีนป่ายกับการแสดง ณ Vertical

 

the-view-from-her-13

the-view-from-her-18

การแสดงภายในห้อง Twillaine Techniques แสดงการสร้างสรรค์ลายผ้าไหม

 

ติดกันกับห้องหมุดเงิน เป็นพื้นที่จำลองแบบหน้าผา Vertical จัดแสดงรองเท้ากีฬาหนังในแบบคลาสสิกของแอร์เมส พร้อมการแสดงผาดโผนโชว์การไต่ผนังและรองเท้ากีฬา อันว่าสนีกเกอร์แอร์เมส เลื่องลือกันไปทั่วว่านุ่มเท้าเป็นที่สุด ถัดมาเป็นห้องเล็กๆ มีการแสดงและจัดแสดงงานสร้างสรรค์ลวดลายบนผ้าไหมที่เรียกว่า Twillaine Techniques อันเป็นเทคนิคเฉพาะของแอร์เมส ที่ใช้กับงานผ้าไหมทั้งกับผ้าพันคอ หรือที่นำมาออกแบบเครื่องแต่งกาย ออกแบบการแสดงโดย Lucinda Childs สำหรับลวดลายที่ใช้บนการแสดงนี้มีชื่อเรียกว่า Palmes Royales เป็นรูปใบปาล์ม และดวงดาวน่าสอยนัก!

 

the-view-from-her-08

the-view-from-her-20

the-view-from-her-25

เครื่องหนังและเครื่องประดับที่ได้กลิ่นอายจากม้า สัญลักษณ์แบรนด์แอร์เมส

 

ถัดมาคือ Thoroughbred เขานำคอกม้ามาจัดแสดงครบทั้งโรงม้า และกลิ่นคอกม้า! ทำเอาเวียนหัว! ในแต่ละคอกม้า ตกแต่งด้วยเครื่องหนังคอลเล็กชั่นล่าสุด ให้พินิจกันแบบเพลินๆ พื้นที่ทั้งหมดของห้องนี้ อุทิศให้ความเป็นแอร์เมส ที่มาพร้อมกับตำนานของม้า สะท้อนผ่านเสื้อผ้า เครื่องหนัง นาฬิกา รองเท้า ผ้าพันคอ ไปจนถึงน้ำหอม Gallop ที่จะเปิดตัวปีหน้า แต่ที่เด่นสุดเห็นจะไม่พ้นเครื่องประดับ จากการสร้างสรรค์ของ Pierre Hardy

 

the-view-from-her-11

the-view-from-her-44

the-view-from-her-28

สีสัน และกิจกรรมแข่งม้า ภายในบริเวณ At The Races

 

At the Races ชื่อห้องก็บอกอยู่แล้วว่าเป็นเรื่องของความเร็ว ตกแต่งให้เหมือนงานวัดแบบฝรั่งที่เต็มไปด้วยสีสัน ไฮไลต์คงหนีไม่พ้นเครื่องประดับลงยาหลากสีสัน ลวดลายผ้าพันคอจี๊ดจ๊าด รวมทั้งกระเป๋าหลากหลายสี และเกมแข่งม้าให้ร่วมประลองฝีมือความไวและความแม่น

 

the-view-from-her-38

the-view-from-her-09

the-view-from-her-37

เต็มไปด้วยลายตารางสีส้มส้ม ภายในบริเวณ Tattersall Vroom Room

 

ห้องสุดท้าย Tattersall Vroom Room เป็นห้องเล็กๆ ต้องสังเกตจึงจะเห็นทางเข้า ห้องนี้ออกแบบพื้น ผนัง และเครื่องแต่งห้องทั้งหลาย อาทิ รถยนต์ และมอเตอร์ไซค์ เป็นลายตารางสีส้มทั้งหมด ให้อารมณ์ย้อนกลับไปยังยุค’50s เพื่อนำเสนอเทรนด์ลายตาราง และลายทางในแบบฉบับของแอร์เมส

 

the-view-from-her-19

the-view-from-her-36

ขนม และเครื่องดื่มส่วนหนึ่งภายในงาน ที่ออกแบบมาสำหรับผู้หญิงแอร์เมส (ผู้ชายก็ทานดื่มได้เช่นกัน)

 

เดินดูจนทั่วก็พบว่า ไม่เพียงแต่เครื่องแต่งกายสตรี หรือบรรยากาศการตกแต่ง จะเป็นมุมมองของสาวแอร์เมส แต่ยังรวมถึงอาหาร และเครื่องดิ่มที่เตรียมไว้ภายในงานก็ต้องคิดแล้วว่า เธอคนนี้จะทานอาหารแบบไหน ดื่มเครื่องดื่มแบบใด เรียกว่าเป็นงานที่พาสาวๆ (และหนุ่มๆ) ไปรู้จักกับอีกหนึ่งตัวตนของสาวแอร์เมสแบบถึงส่วนลึกสุดของหัวใจ

อ่านมาจนถึงตอนนี้ คงรู้สึกอีดอัดว่าทำไมไม่ค่อยจะเห็นอะไรจากแอร์เมสเลย ยัง! ยังไม่จบเพียงเท่านี้ เพราะตอนหน้า จะนำเสื้อผ้า เครื่องหนัง เครื่องประดับ จากงาน The View From Her มาให้ชมกันแบบเต็มๆ ตา ว่ามีชิ้นไหนเด็ดดวง และเข้าตาเราบ้าง ติดตามชม

 

 

(ภาพ: Arno Frugier และ Veraphol W)

Uniqlo U ผลผลิตจาก Uniqlo และ Lemaire ตรงดิ่งสู่ไทย 7 ตุลาคมนี้

Uniqlo U 101

Uniqlo U 102

Uniqlo U 103

Uniqlo U 104

Uniqlo U 105

Uniqlo U 106

 

“ยูนิโคล่ ยู” (Uniqlo U) ไลน์เครื่องแต่งกายของ ยูนิโคล่ (Uniqlo) ที่เกิดจากการออกแบบของ คริสตอฟ เลอแมร์ (Christophe Lemaire) อดีตดีไซน์เนอร์ของห้องเสื้อดังอย่าง Hermes และ Lacoste ล่าสุด ประกาศจำหน่ายในประเทศไทย วันศุกร์ที่ 7 ตุลาคมนี้ ตามหลังญี่ปุ่นหนึ่งอาทิตย์

 

ก่อนหน้านี้ คริสตอฟ เลอแมร์ เคยออกไลน์เสื้อที่เป็นการร่วมมือกันกับยูนิโคล่ในชื่อ Uniqlo x Lemaire ออกแบบได้เพียง 2 คอลเล็กชั่น ทางยูนิโคล่ก็ประกาศเลยว่า คริสตอฟ ได้มาร่วมงานกับทางแบรนด์ในตำแหน่งอาร์ทิสติกไดเร็กเตอร์ ของศูนย์วิจัยและพัฒนาของยูนิโคล่ที่เพิ่งตั้งขึ้นในปารีส หนึ่งในความรับผิดชอบของคริสตอฟ ก็คือการสร้างสรรค์ไลน์เครื่องแต่งกายที่ชื่อ Uniqlo U ที่เป็นเหมือนการพัฒนารูปแบบแฟชั่นรูปแบบใหม่ ทั้งการคัดเลือกผ้า การเย็บ และองค์ประกอบอื่นๆ เพื่อให้ได้เป็นผลงานแฟชั่นที่สวมใส่ได้จริง สวมใส่ได้นาน และยังคงเอกลักษณ์ของผู้สวมใส่

 

แน่นอน ว่าผู้ที่เคยเป็นเจ้าของ Uniqlo x Lemaire ก็ตั้งหน้าตั้งตารอคอยกัน เพราะดีทั้งดีไซน์ วัสดุ และการตัดเย็บจัดได้ว่าเนี๊ยบ ซึ่งไลน์ Uniqlo U ที่กำลังจะเปิดตัวนี้ มาครบทั้งเสื้อผ้าชาย และหญิง รวมไปถึงเครื่องประดับอย่างหมวกไหมพรม ถุงมือ ผ้าพันตอ กระเป๋า และรองเท้า ที่สำคัญออกแบบและพัฒนาโดยทีมดีไซน์จากปารีสเสียด้วย!

 

และก็เปิดตัวมาพร้อมกับภาพอิมเมจทั้ง 12 ลุคๆ ละ 12 ภาพ พร้อมวิดีไอคลิป ให้เข้าไปอุ่นเครื่องกันก่อนในเว็บไซด์ www.uniqlo.com/UniqloU แล้วค่อยมาเจอวันจริง

 

Uniqlo U 107

Uniqlo U 108

Uniqlo U 109

Uniqlo U 110

Uniqlo U 111

Uniqlo U 112

 

Uniqlo U  คืออะไร?

คริสตอฟ เลอแมร์ และยูนิโคล่ หยิบเอาความเรียบง่ายมานำเสนอใหม่เพื่อแสดงถึงความยั่งยืนแห่งแก่นแท้ เขาเชื่อว่า เสื้อผ้าที่มีรูปแบบอยู่เหนือสมัยนิยม ช่วยบ่งบอกตัวตนได้อย่างแท้จริง ทุกรายละเอียดจึงตอบสนองเพื่อการใช้งาน ทุกดีไซน์ลบเลือนคำจำกัดความแบบเดิม และในทุกความเรียบง่ายนำเสนอสิ่งที่ดีที่สุดเพื่อสิ่งที่ดีขึ้น

2_b_1500_Logo_Statements

โดยอักษร U นั้น นอกจากจะเป็นชื่อต้นของแบรนด์ ยูนิโคล่ ที่ให้มั่นใจได้ว่าไลน์ Uniqlo U มีแก่นความเป็นยูนิโคล่อยู่ในทุกการออกแบบ และภายในโลโก้ มีตัว U ทั้งสิ้น 12 ตัว ซึ่งเป็นตัวเลขที่พบได้ทั่วไปในชีวิตประจำวัน ตั้งแต่ปีในจักราศี เดือนในหนึ่งปี เวลาในแต่ละวัน เหมือนเช่นที่การออกแบบเพื่อใช้ในชีวิตประจำวันอย่างแท้จริง และภายใต้คำประกาศของแบรนด์ 12 ข้อ ที่ขึ้นต้นด้วย “U have..” ประหนึ่งคำสัญญาจากทีมดีไซน์ของศูนย์วิจัยและพัฒนาของยูนิโคล่ ปารีส