“หน้าเปลี่ยน … อารมณ์ก็เปลี่ยน” IdeaLift by Emotional Approach

 

หลายๆครั้งที่เราเดินเข้าคลินิกความงามและคาดหวังว่า ออกมาเราจะสวย แต่เอาเข้าจริงกลับไม่สวย! นี่เป็นสิ่งที่พบได้บ่อยและทำให้คุณรู้สึกว่าเสียเงิน ฟรี!

ทำไม? ผลลัพท์ที่ได้ถึงผิดคาด นั่นเป็นเพราะบางทีเราไม่รู้ด้วยซ้ำว่า เราต้องปรับปรุงแก้ไขส่วนใดจึงจะสวยขึ้น และหลายๆครั้งแพทย์ก็มักจะรักษาตามที่เราชี้จุดที่ต้องการ เช่น รอยหางตา ร่องแก้ม เป็นต้น ซึ่งบางทีการแก้ไขจุดเหล่านี้ไม่ได้ช่วยให้ภาพลักษณ์โดยรวมของคนไข้ดีขึ้นซักเท่าไหร่ (Low Impact) 

ความสำคัญของการออกแบบรูปหน้าเพื่อแก้ปัญหาคนไข้ต้องมีประสิทธิภาพสูงและเห็นผลการรักษาที่ชัดเจน ต่อมาแนวคิดเรื่องการปรับรูปหน้าที่ส่งผลต่ออารมณ์หรือ perception ของทั้งตัวผู้เข้ารับการรักษาและคนรอบข้างด้วย Emotional Approach เริ่มเข้ามามีบทบาทสำคัญมากขึ้น เพราะปฏิเสธไม่ได้เลยว่าเรื่องของความสวยงามเป็นเรื่องของอารมณ์และทัศนคติล้วนๆ  Emotional Approach เป็นการปรับรูปหน้าเพื่อลด Negative messeges เช่น ความเหนื่อยล้า ความเคร่งเครียด ความหย่อนคล้อย หน้าเศร้า ในขณะเดียวกันก็ส่ง positive messeges  ออกไปเพื่อให้ใบหน้าแลดูสวยดึงดูดสายตามากขึ้น อีกทั้งยังสามารถทำให้ใบหน้าแลดูอ่อนเยาว์ อ่อนหวาน หรือเข้มแข็งขึ้นในผู้ชายได้ด้วย ด้วยทฤษฎีของ Emotional Approach ทำให้แพทย์ผู้เชี่ยวชาญด้านการปรับรูปหน้าสามารถสร้างสมการเพื่อแก้ไขปัญหาให้กับใบหน้าได้อย่างมีประสิทธิภาพ เป็นระบบ ส่งผลให้สามารถเห็นผลการรักษาได้ชัดเจนมากขึ้น ในขณะที่ใช้การรักษาด้วยสารเติมเต็มหรือสารลดเลือนริ้วรอยที่น้อยลง ทำให้ประหยัดค่ารักษามากยิ่งขึ้น

การรักษาด้วยสารเติมเต็มและสารลดเลือนริ้วรอยเริ่มเป็นที่นิยมแพร่หลายมากขึ้น โดยเฉพาะอย่างยิ่งในช่วง 10 ปีที่ผ่านมา เนื่องจากเป็นการรักษาที่ง่าย ไม่ต้องพักฟื้น และดูเป็นธรรมชาติ และที่สำคัญผลข้างเคียงน้อยกว่ามากเมื่อเทียบกับการผ่าตัดทำศัลยกรรม มาดูกันว่าคนดัง Hollywood คนไหนบ้างที่ชื่นชอบการรักษาด้วยสารเติมเต็มและสารลดเลือนริ้วรอย และผลลัพท์ที่ได้ออกมาปังหรือแป้ก

 

#1 Sharon Stone

botox001

ชารอนออกมายอมรับอย่างเปิดเผยว่า ชื่นชอบการรักษาด้วยสารเติมมาก ชารอนสโตนให้สัมภาษณ์ว่า เธอรู้สึกตื่นเต้นมากที่วิทยาการด้านวิทยาศาสตร์ความงามสามารถสร้างสรรค์ความสวยอย่างเป็นธรรมชาติ ซึ่งสิ่งนี้เป็นแรงบันดาลใจที่ยอดเยี่ยมและเธอเชื่อมั่นว่า ผู้คนจะประทับใจในการรังสรรค์ความงามที่เป็นธรรมชาติด้วยสารเติมเต็มและสกินบูสเตอร์เช่นเดียวกับเธอ” 

ต้องยอมรับเลยว่า แพทย์ผิวหนังของเธอ did such a good job เพราะหน้าชารอนดูสวยอ่อนกว่าวัย แต่ไม่กระชากวัย แลดูอ่อนเยาว์เป็นธรรมชาติ ยังคงมีริ้วรอยบ้างตามกาลเวลา หมอบอกเสมอว่า “เราชะลอวัยได้ แต่จะกระชากวัยไม่ได้” ถ้าคุณอายุ 50+ แต่อยากดูเป็นเด็ก 18+ ไม่มีทางเป็นไปได้ คนไข้เองก็ต้องมี “Realistic Expectation” ด้วยเช่นกัน

Specialist’s Recommended : ควรใช้สารเติมเต็มผิวแบบชั่วคราวเท่านั้น

สารเติมเต็มผิวมีหลากหลายชนิด ควรเลือกใช้สารเติมเต็มชนิดชั่วคราวที่อยู่ได้ 6 เดือน ถึง 2 ปี เท่านั้น เพราะสารเติมเต็มแบบถาวรหากการรักษาไม่เป็นไปตามที่ต้องการแล้วแก้ไขได้ยาก หรือในบางรายอาจแก้ไขไม่ได้เลย สารเติมเต็มแบบชั่วคราวนั้น หากไม่ชอบผลการรักษาหรือเกิดผลข้างเคียง สามารถฉีกสารที่ช่วยสลายสารเติมเต็มได้ รวมทั้งควรปรึกษาแพทย์เพื่อเลือกสารเติมเต็มที่มีความเหมาะสมกับบริเวณที่จะรักษาอีกด้วย เนื่องจากสารเติมเต็มมีหลากหลายความเข้มข้นและใช้แก้ปัญหาในจุดต่างๆได้ดีแตกต่างกันไป

 

#2 Courteney Cox

botox005

ดาราหลายๆคนดูดีซะยิ่งกว่าตอนเป็นสาวซะอีก ดูอย่าง Courteney Cox ที่สวยขึ้นอย่างเป็นธรรมชาติ แน่นอนหมอไม่เถียงว่าหน้าตาเธอดู mature ขึ้น อย่างหนึ่งที่หลอกกันไม่ได้ คือ แววตา เพราะตาเธอดูมีความเชื่อมั่นมากขึ้น แต่ถ้าลงลึกรายละเอียดจะเห็นเลยว่า คิ้วและเปลือกตาบนของเธอยกสวยขึ้น และ Cheekbone ก็ให้ดูมีเสน่ห์มากยิ่งขึ้น ซึ่งโดยทั่วไปเรามักจะเกิดการแบนลงของพวงแก้มเมื่ออายุมากขึ้น (Midface Volume loss) ที่สำคัญที่สุดที่หมอคิดว่า ทำให้เธอสวยขึ้นคือสัดส่วนของริมฝีปาก โดยปกติความหนาของริมฝีปากบนต่อล่างควรเป็น Divine proportion คือ 1.618 ในรูป Before เห็นได้ชัดเลยว่า ริมฝีปากบนบางไป แต่ในรูป after จะเห็นสัดส่วนที่สมดุลย์มากขึ้น

Specialist’s Recommended : ระวังอย่า overcorrect

หลายๆครั้งที่คนมักจะกลัวการฉีดปากกันมากเพราะเราเห็นปากแบบบวมฉึ่งแบบ super juicy lips ของ Pamela Anderson ซึ่งจริงๆแล้วการเติมสารเติมเต็มริมฝีปากสามารถครีเรารูปปากเป็นกระจับสวยงามได้ราวกับไปผ่าตัดมาเลยทีเดียว ทั้งนี้ต้องระลึกอยู่เสมอว่า ไม่ควรใช้ product มากเกินไปและหลังการรักษาสารเติมเต็มจะสามารถอุ้มน้ำทำให้ริมฝีปากอิ่มขึ้นอีกสูงสุดถึง 20% เลยทีเดียว คนไทยเรายังไม่เท่าไหร่ครับ แต่ถ้าคนไข้ต่างชาติหมอต้องบอกเสมอว่า “Imperfection is just perfect” เพราะหมอไม่ต้องการให้หน้าแลดูเฟคนั่นเอง

 

#3 Demie Moore 

botox004

เห็นรูปแล้วไม่ต้องบอกก็รู้ว่าทำอะไรมา แค่การ touch up นิดหน่อย บวกกับเทคนิคที่ดี นอกจากจะทำให้ริ้วรอยต่างๆหายไป ยังช่วยให้ดวงตากลมโตเป็นประกายมากขึ้นอย่างเป็นธรรมชาติได้อีกด้วย หมอว่านอกจาก Botox แล้ว Demie น่าจะมีการเติมสารเติมเต็มอีกเล็กน้อยเพื่อให้ผิวแลดูยกกระชับขึ้นด้วย เพื่อให้ผิวแลดูอ่อนเยาว์หมอมักใช้การทำสกินบูสเตอร์ เปรียบเสมือนการเติมน้ำให้กับผิว ผิวจะแลดูชุ่มชื้น สุขภาพดีขึ้น

Specialist’s Recommended : Free motion BOTOX

เทคนิกการฉีดโบท๊อกซ์ที่ที่ดี คนอื่นต้องจับไม่ได้ว่าเราไปแอบจิ้มมา ดังนั้นควรเลือกฉีดให้ยังสามารถแสดงสีหน้าได้ตามปกติ โดยเติมแค่เพื่อคลายกล้ามเนื้อบางส่วนเพียง 70-80% เท่านั้น การใช้ท้อกซินเอที่ดีนอกจากไม่ทำให้หน้าแข็งเกร็งแล้ว ยังช่วยปรับรูปหน้าให้สดใส แลดูเหนื่อยล้าลดลงอีกด้วย

 

#4 Renee Zellweger

botox003

ไม่น่าแปลกใจที่แม้แต่ดาราชายที่ร่วมแสดงก็จำเธอไม่ได้ เพราะเมื่อเรเน่เปิดตัวบนพรมแดงในงาน Elle magazine annual Women ครั้งที่ 21 เธอเปลี่ยนไปมาก เปลี่ยนไปเสียจนไม่สามารถรักษาอัตถลักษณ์ของตัวเองไว้ได้ หมอมองว่า ไม่ผิดที่ผู้หญิงอยากสวยขึ้น และเชื่อว่าทุกคนก็เป็น แต่สิ่งสำคัญอย่างหนึ่งคือ ต้องเป็นความสวยที่ยังคงอัตถลักษณ์ของบุคคลคนนั้นไว้ด้วย 

Specialist’s Recommended : Beautification

การสร้างความงามให้กับใบหน้าเริ่มจากการสร้างดุลยภาพให้กับใบหน้า ใบหน้าที่สวยมักมีสมดุลย์ระหว่าง ซ้ายขวา สัดส่วน และดัชนีของใบหน้า ตลอดจนความสัมพันธ์ของขนาดดวงตา จมูก และรีมฝีปาก เมื่อใบหน้าได้สมดุลย์มักจะทำให้เกิดใบหน้าที่สวยงามแล้ว แต่สิ่งที่ขาดไม่ได้เลยคือ “อัตถลักษณ์” ซึ่งแต่ละบุคคลแตกต่างกัน การช่วยเสริมอัตถลักษณ์ให้โดดเด่นขึ้นจะเพิ่มความงามและความหน้าสนใจให้กับใบหน้า แต่สิ่งที่ควรระวังคือ ต้องไม่ทำมากเกินไปจนใบหน้าเสียอัตถลักษณ์เฉพาะตัว

 

#5 Nicole Kidman

botox002

ผมเคยชอบเธอมาก คนอะไรสวยไปหมดทุกอย่างทุกท่วงท่า จำได้ว่า เห็นเธอครั้งแรกใน Batman Forever ปี 1995 แต่ตอนนี้นิโคลเปลี่ยนไปมาก หมอบอกคนไข้เสมอครับว่า เราลดเลือนริ้วรอยได้ แต่ไม่ควรลบริ้วรอย 100% เพราะนั่นจะทำให้หน้าเหมือนใส่หน้ากาก แสดงสีหน้าไม่ได้ รวมทั้งหน้าก็จะดูบวมๆ ฉุๆ แปลกๆไป ไม่เป็นธรรมชาติ เราเริ่มเห็นความเปลี่ยนแปลงของนิโคล คิดแมนที่แสดงภาพยนตร์โดยปราศจากสีหน้ามากขึ้นเรื่อยๆ จนตอนนี้รู้สึกว่า เธอคงแสดงได้บทเดียว คือ บทหน้านิ่ง” บอกได้อย่างเดียวเลยครับสำหรับเธอ คือ “Too much BOTOX”

Specialist’s Recommended : There is the only one BOTOX

รู้หรือไม่ว่า Botulinum Toxin A คือสารลดเลือนริ้วรอย ซึ่งมีหลายยี่ห้อ แต่ “BOTOX คือ BOTOX” โบท๊อกซ์ คือ ชื่อทางการค้าของ Botulinum toxin A จาก Allergan สหรัฐอเมริกา ถ้าฉีด Toxin A จากเกาะอังกฤษไม่ใช่ BOTOX แต่คือ Dysport ซึ่งต้องฉีดถึง 4 unit จึงจะได้ผลเท่าเทียมกับการฉีด BOTOX 1 unit ดังนั้นสมมติว่า คุณไปฉีด BOTOX จากอังกฤษ (ซึ่งจริงๆ คือ Dysport) ยูนิตละ 120 บาท เท่ากับคุณฉีด BOTOX 1 ยูนิตในราคา (120×4) 480 บาทเลยทีเดียว ทั้งๆที่ปกติ BOTOX มักมีราคา 300-450 บาท/ยูนิต เท่านั้น อันนี้ยังไม่นับอีกว่า ถ้าคุณฉีด Toxin จากจีน หรือเกาหลี ซึ่งราคาถูกกว่านี้มาก ซึ่งถ้าถามว่าแล้วฉีด toxin A แต่ละยี่ห้อมีความแตกต่างกันอย่างไร

1. ระยะเวลาการเห็นผลการรักษาในแต่ละยี่ห้อต่างกัน ตั้งแต่เห็นผลแค่ 2 เดือน ไปจนถึงเห็นผลนาน 4-6 เดือน ถ้าฉีดถูกแต่ต้องฉีดซ้ำบ่อยๆ ไม่แน่ว่า ฉีดแพงกว่าเล็กน้อย แต่คิดราคารวมทั้งปี อาจจ่ายเงินฉีดของแพงรวมแล้วถูกกว่าก็ได้

2. ยาแต่ละชนิดมีการกระจายตัวที่ต่างกัน ทำให้ผลการรักษาต่างกัน และโอกาสเกิดผลข้างเคียงต่างกัน โดย BOTOX มีอัตราการกระจายยาที่คาดการได้ง่าย เนื่องจากมีขนาดโมเลกุล 900kDA เท่ากันหมด ทำให้แพทย์สามารถทำการรักษาได้อย่างเฉพาะเจาะจงและโอกาสเกิดผลข้างเคียงน้อย

3. ยาที่ต่างกันก่อให้เกิดภูมิต้านทานต่อต้าน Toxin A ต่างๆกัน ถ้าร่างกายคุณสร้างภูมิต้านทานต่อต้าน Toxin A แสดงว่า คุณจะฉีดแล้วไม่ได้ผล อย่าหลงเชื่อคำพูดที่ว่า ฉีดของถูกก่อนถ้าดื้อยาแล้วค่อยไปฉีดของแพง เพราะ Toxin A นั้นแม้จะมีกรรมวิธีผลิตต่างกันจึงมีวิธีใช้และให้ผลการรักษาต่างๆกัน แต่ก็เป็นยาตัวเดียวกัน ถ้าดื้อยาแล้วจะดื้อทุกยี่ห้อ คราวนี้ฉีดยี่ห้อไหนๆ ก็ไม่ได้ผล นอกจากนี้อัตราการดื้อยายังขึ้นอยู่กับปริมาณการใช้ยารวม (accumulative dose) และความถี่ในการให้ยาด้วย ดังนั้นถ้าคุณฉีดยาที่ต้องฉีดซ้ำบ่อยๆ ทำให้คุณต้อง expose ต่อยาปริมาณมากขึ้นและบ่อยขึ้น ก็ส่งผลทำให้เกิดการดื้อยาได้เร็วขึ้นด้วย

 

botox007

 

อย่างไรก็ดีเรื่องความปลอดภัยเป็นเรื่องสำคัญที่สุด การใช้สารเติมเต็มและสารลดเลือนริ้วรอยเป็นเรื่องละเอียดอ่อนที่เป็นส่วนผสมของทั้ง science และ arts เท่ากัน เราต้องยอมรับว่า ไม่มีอะไรปลอดภัย 100% ครับ การรักษาทางการแพทย์ทุกอย่างเกิดผลข้างเคียงขึ้นได้ ผู้เข้ารับการรักษาทราบถึงผลข้างเคียงที่อาจเกิดขึ้นได้ ในส่วนของแพทย์ควรสามารถป้องกันผลข้างเคียงร้ายแรงที่อาจเกิดขึ้นได้ด้วยความเชี่ยวชาญทั้งด้านกายวิภาคและการรักษา ทั้งนี้ต้องเลือกใช้เฉพาะตัวยาที่ได้มาตรฐานและปลอดภัยอีกด้วย แน่นอนว่าตัวยาที่ได้มาตรฐาน และแพทย์ที่เชี่ยวชาญมากๆนั้น ย่อมตามมาด้วยราคาที่สูงกว่าแน่นอน แต่สิ่งหนึ่งที่ควรระวัง คือ บางครั้งการเห็นแก่ของถูกจะกลายเป็นช่องโหว่ให้กลุ่มมิจฉาชีพหลอกลวงและเกิดอันตรายได้ เช่น การใช้ตัวยาปลอมหรือ ไม่ได้มาตรฐาน หรือการรักษาโดยคนที่ไม่ใช่แพทย์หรือไม่มีความเชี่ยวชาญ การลักลอบฉีดยานอกสถานพยาบาลมักเกิดกับบุคคลที่แอบอ้าง เพราะด้วยศักดิ์ศรีวิชาชีพแพทย์ เชื่อว่า ไม่มีหมอคนไหน ยอมไปฉีดให้คนไข้ตามบ้าน ตามคอนโดหรอกครับ เพราะหากเกิดปัญหาอะไรขึ้น มันแก้ไม่ทันเพราะเครื่องไม้เครื่องมือมันไม่พร้อม

 

เครดิตภาพ: 1, 2, 3, 4, 5, 6, 7, 8, 9, 10, 11, 12

รู้อย่างนี้ สวยมาตั้งนานแล้ว: “5 จุดที่ทำให้คุณดูแก่ แม้อายุยังไม่มาก แก้ไขด่วน!”

บางทีคุณก็ไม่เข้าใจว่ากับเพื่อนวัยเดียวกัน ทำไมมองดูเหมือนเราหน้าแก่กว่า ไม่ใช่ริ้วรอย ไม่ใช่ผิวหมอง แต่มันเพราะอะไร ลองสำรวจ 5 จุดนี้ดู ว่าเข้าเป้าบ้างไหม?

 

1 ริมฝีปากย่น

จริงๆ ปัญหานี้ไม่ค่อยเกิดกับคนเอเชีย เพราะเราจะมีริมฝีปากเต็ม อิ่ม (Full Lips) และมักเป็นปัญหาใหญ่มากของสาวฝรั่ง ที่มักมีริมฝีปากบาง เหี่ยวย่นง่าย แต่หากว่าริมฝีปากที่ไม่ไหญ่ไม่เล็ก แต่มีความย่น แห้ง เป็นร่อง ปากแบบนี้ทำให้คุณดูแก่ และไม่สดใส บำรุงริมฝีปากให้ชุ่มชื่นอยู่เสมอ เป็นเรื่องง่ายมาก แต่ต้องการความสม่ำเสมอ ลองเลือกใช้ผลิตภัณฑ์บำรุงผิวปากที่เหมาะกับคุณ

 

www.beautezine.com

Glamglow Poutmud Fizzy Lip Exfoliating & Wet Lip Balm Treatment Duo

 

2 หางตาตก

เมื่อมาถึงจุดที่คิ้วตก หางตาตก มองยังไงหน้าก็ตก ปัญหานี้แก้ไขยากเพราะครีมวิเศษก็ยกผิวหนังต้านแรงดึงดูดโลกไม่ได้แล้ว ช่วยรูปหน้าแบบนี้ด้วย

– ฝึกเขียนคิ้วโดยเขียนหางคิ้วให้สูงขึ้น รวมถึงการแต่งตาเพื่อช่วยอำพรางให้หางตาดูยกขึ้น

– ปรึกษาแพทย์เพื่อทำโบท็อกซ์ โดยแพทย์จะฉีดโบท็อกซ์บริเวณคิ้วและหน้าผาก เพื่อช่วยยกหางคิ้วและหางตาให้สูงขึ้รนอีก

– วิธีที่ดาราชอบใช้แก้ปัญหาหางตาตก ให้ถักเปียปอยผมบริเวณข้างขมับให้แน่น และมัดเปียทั้งที่ขมับซ้าย-ขวา ไว้บริเวณหลังศีรษะ ก็จะช่วยดึงผิวหางคิ้วและตาให้ยกและตึงขึ้นได้

 

3 เหนียง

ไขมันที่คล้อยบริเวณแนวกราม ทำให้เห็นแนวกรามไม่ชัด ก้มหน้าแล้วเหนียงดัน ไม่ใช่แก้มยุ้ยอย่างเคย หนังและก้อนไขมันที่ลงมากองบริเวณกรอบหน้าทำให้คุณดูอืดบวม แก้ไขโดย

– ปรึกษาแพทย์เพื่อฉีดเมโสโบท็อกซ์เพื่อสลายไขมันที่กระจุกตัวเป็นบริเวณเล็กใต้แนวกรามได้

– หากไม่อยากเจ็บตัว ช่วยแก้ปัญหาชั่วคราวด้วยการเฉดดิ้ง เมื่อใบหน้าได้รูปชัดขึ้น คุณจะดูเนี้ยบและกระฉับกระเฉงขึ้น เลือกใช้เฉดดิ้งแบรนด์ของเอเชีย จะได้เฉดสีที่เหมาะกับสีผิวชาวเอเชีย

 

howto-beauty-03

Innisfree Shading Powder

 

4 ขมับตอบ

มักไม่ค่อยมีใครนึกถึงบริเวณขมับเวลาที่ต้องการแก้ไขใบหน้าให้ดูเด็ก แต่จริงๆ ในคนที่เริ่มมีอายุ เมื่อผิวยุบตัว บางคนบริเวณขมับจะยุบตัวลงด้วย (รวมถึงโหนกแก้มที่สูงขึ้นและแก้มตอบ) การแก้ไขขมับตอบ ไม่ได้ทำได้ง่ายๆ คุณหมออาจใช้วิธีฉีดฟิลเลอร์เติมเข้าไปใต้ผิวบริเวณขมับ แต่เป็นวิธีการที่แนะนำให้ปรึกษาคุณหมอผู้เชี่ยวชาญเท่านั้นในการทำ เพราะบริเวณขมับมีเส้นประสาทอยู่มากมาย หากฉีดไม่ดีอาจทำให้เกิดอาการปวดศีรษะหรือเกิดอันตรายอื่นได้ ส่วนวิธีอื่นที่จะช่วยได้เช่น เปลี่ยนทรงผมโดยตัดหน้าม้า ช่วยปกปิดบริเวณขมับ

 

5 คิ้วโล้น

ผู้หญิงเมื่อมีคิ้ว ไม่เพียงแต่จะช่วยให้โครงหน้าดูสมบูรณ์แบบขึ้น แต่คิ้วที่ดกหนา ยังช่วยให้ดูเด็ก สังเกตดีๆ ผู้ใหญ่ที่อายุเยอะ ขนคิ้วมักร่วงเหลือน้อย เดี๋ยวนี้การสักคิ้วก็เป็นทางเลือกหนึ่งสำหรับคนที่ต้องการขจัดปัญหาการดูแลคิ้วแบบสิ้นเชิง แต่มีข้อพึงระวังสำหรับสาววัยย่างเข้า40 ที่อยากสักคิ้ว เพราะผิวอยู่ในช่วงหย่อนคล้อย เมื่อใดที่ผิวคล้อย คิ้วและหางตาตก การแก้ไขด้วยการวาดเส้นคิ้วใหม่เพื่อยกหางคิ้ว ก็ทำไม่ได้แล้วเพราะมีสีถาวรอยู่ หากไม่อยากสักคิ้ว มีผลิตภัณฑ์ในท้องตลาดมากมายที่ช่วยให้การเขียนคิ้วง่ายขึ้น ลองหาใช้กันดู

 

howto-beauty-02

Chosungah Ver. 22 Eyebrow Tint

 

 

(เดรดิตภาพ: beautezine.com, innisfreeworld.com)

รู้อย่างนี้สวยมาตั้งนานแล้ว ตอน: เลือกฉีดโบท็อกซ์ให้สวยเหมือนดารา

‘อัดแน่นเกินไปนะคราวนี้คางโยนเชียว’ (เพื่อนจับได้)
‘เธอเห็นยัยนุ่นยิ้มป่ะ ชั้นนึกว่าหุ่นหินอ่อน แข็งมาก’ (เมาท์ลับหลัง)
‘แหม หน้าพิมพ์นิยมแล้วนะ’ (เมนต์เพื่อนบนหน้าเฟสเรา)29

 

เมื่อคุณยิ้มได้ครึ่งทาง เมื่อคิ้วคุณหนักเหมือนผีอำนั่งทับ เมื่อหน้าคุณรั้งจนปวดหัว มันยังไม่ทรมานเท่า โลกจับได้ว่าไปฉีดโบท็อกซ์มันเจ็บ!

เดี๋ยวนี้โบท็อกซ์ปรับรูปหน้าได้มากกว่าที่คุณคิด เทคนิคการฉีดโบท็อกซ์เกิดขึ้นมากมาย แต่ไม่ว่าโบท็อกซ์จะถูกหรือจะแพง เป็นโบท็อกซ์จากประเทศไหน เทคนิคคืออะไร อย่าหลงกลโบท็อกซ์โดยมัวแต่ไปสนใจยี่ห่อและราคา เพราะการตัดสินใจพวกนั้น ไม่ได้ทําให้คุณสวยที่สุดจากการฉีดโบท็อกซ์

 

สิ่งสำคัญที่สุดในการเลือกฉีดโบท็อกซ์อยู่ที่ “มือของหมอ”

 

โบท็อกซ์ไม่ได้แก้ไขปัญหาผิวพรรณด้วยการฟื้นฟู แต่ข้อดีของโบท็อกซ์คือ สามารถแก้ไขรูปหน้าและซ่อมแซมผิวบางส่วนที่เลเซอร์หรือทรีตเมนท์อื่นๆ ทําไม่ได้ ดังนั้นหมอผู้ฉีดจะต้องมีความรู้ และชั่วโมงบินสูงในการเลือกใช้โบท็อกซ์ให้เหมาะในแต่ละจุดบนใบหน้า

 

3

 

หากคุณต้องการฉีดโบท็อกซ์ให้สวย เรามีข้อแนะนำในการสังเกตหมอค่ะ

 

1 คลินิกที่มักมีแต่คนไปฉีดโบท็อกซ์อย่างเดียว คนนั่งรอเป็นทิว ราคาย่อมเยาอาจไม่ให้ความใส่ใจในรายละเอียดเล็กๆ น้อยๆ บนใบหน้าเรา

2 ผลงานของคลินิกที่เห็นตามโฆษณา ไม่ได้เป็นตัวรับประกันฝีมือ ยิ่งถ้าหากว่าคลินิกนั้นมีหมอหลายคน ต้องพิจารณาให้ดีว่าหมอคนไหนจะเป็นคนฉีดให้เรา และฝีมือหมอคนนั้นเป็นอย่างไร

3 ดูฐานลูกค้าส่วนใหญ่ในร้าน เป็นลูกค้าประเภทไหน หากเป็นประเภทคิ้วเลิก หน้าแน่น หน้าหนู แก้มลูกแมว ให้ระวัง

4 ความใส่ใจและการให้ความรู้ของหมอในการเลือกฉีดโบท็อกซ์การให้ความเข้าใจเรื่องสัดส่วนของใบหน้ายิ่งถ้ามีการวัดสัดส่วนของใบหน้าก่อนฉีด ยิ่งช่วยเพิ่มความมั่นใจว่าใบหน้าจะออกมาสมมาตร ไม่เบี้ยว ไม่โยน

5 หมอแต่ละคนมีนิยามความ ‘สวย’ แตกต่างกัน เหมือนนักวาดหรือนักปั้นที่สร้างใบหน้าในอุดมคติ ถ้าเป็นไปได้ เห็นผลงานของหมอจะชัวร์สุด
เพราะถ้าฉีดโบท็อกซ์ได้สวยเหมาะกับใบหน้าจะช่วยให้จมูกดูโด่งขึ้น ใบหน้าเรียว คางจะได้รูปขึ้นเหมือนอย่างดาราได้จริงๆ

 

(photo credit: jamienelsonphoto.blogspot.com )