ชีวิตรื่นรมย์

 

***พิเศษสุดสำหรับแฟนเพจเฟสบุ๊คและ Website ของ The Editors Society เมื่อช้อปปิ้งผลิตภัณฑ์ของ Passion Dilivery ผ่านทาง Website ของ The Editors Society จะได้ส่วนลด  200 บาท (สำหรับการช้อปขั้นต่ำ 1,000 บาทจากการสั่งของครั้งแรก) เพียงใส่ code PDEDITOR ในช่องลดราคาก่อนเซ็คเอ้าท์จาก Website Passion Delivery***

 

ไม่มีสูตรสำเร็จว่าแบบไหนคือชีวิตที่สุขสมบูรณ์ ขึ้นอยู่กับช่วงเวลาและอยู่ที่ว่าเราให้ความสำคัญกับอะไรเป็นอันดับต้นๆ

 

สำหรับเรา บางครั้งหมายถึงการอยู่คนเดียวเงียบๆ กับหนังสือดีๆสักเล่ม

 

บางครั้งหมายถึงการเดินทางท่องเที่ยวกับคนที่รู้ใจ และบางครั้งก็หมายถึงการได้ใช้เวลาพบปะสังสรรค์กับคนที่ถูกใจ

 

หลายๆครั้ง ที่การพบปะสังสรรค์ก็มีอาหารเป็นสื่อ ทำอาหารเป็นน่ะมันดีหลายอย่างน้า อย่างน้อยๆ ก็เป็นตัวเชื่อมให้การพบปะสังสรรค์นั้นๆ มีอรรถรสยิ่งขึ้นไปอีก งานเลี้ยงง่ายๆ มีอาหารเด่นๆไม่กี่อย่าง ที่เหลือซื้อเอาบ้าง ให้เพื่อนๆถือมาบ้าง ทำให้สามารถจัดงานได้อย่างง่ายๆสบายๆ เจ้าภาพไม่เครียด ไม่เหนื่อย ยิ่งอากาศเย็นสบายแบบนี้น่าจะชวนกันมาพบปะสังสรค์กันนะคะ

 

foodfeb006

foodfeb005

 

วันนี้ยกให้นางเอกของงานเป็นนี่เลยค่ะ เนื้อ Australian T-Bone ( 700 g) สั่งมาจาก www.passiondelivery.com เขาส่งมาให้ถึงบ้านเป็นแบบแช่แข็ง เราเอามาวางไว้ในตู้เย็นช่องธรรมดาเสียก่อนหนึ่งคืน ให้หายแข็ง จากนั้นค่อยเอามาทำให้สุก ตามแต่ต้องการ

 

แต่วันนี้จะไม่เน้นสูตรอาหารละนะคะ จะเน้นเรื่องการทำเนื้อให้สุกพอดี ถ้าได้ตรงนี้แล้ว จะเอาเนื้อนี้ไปทานกับอะไรก็อร่อยทั้งสิ้น แม้จะรับประทานเปล่าๆกับเกลือ พริกไทย ยังอร่อยเลยค่ะ

 

สำหรับมาตรฐานของฝรั่งแล้ว ระดับความสุกของเนื้อ แยกได้ดังนี้

1. สุกน้อยเกือบดิบ Rare = Bleu (core temperature 45/47 C )

2. สุกกึ่งดิบกึ่งปานกลาง Medium rare = saignant ( core temperatue 50/52C )

3. สุกปานกลาง Medium = A point ( core temperature 55/60 C )

4. สุกปานกลางค่อนข้างสุกมากMedium well = cuit ( core temperature 63/65C )

5. สุกมาก Well done = bien cuit ( core temperature 70/72C )

 

คำว่า Core temperature ในที่นี้ หมายถึงเมื่อเอาที่วัดอุณหภูมิจิ้มลงไปที่ส่วนที่หนาที่สุดของเนื้อ อุณภูมิควรจะอยู่ไกล้เคียงกับระดับความสุกที่เราต้องการ เช่น เราชอบสุกกลางๆ เนื้อข้างนอกสีน้ำตาล ข้างในออกสีชมพู ก็คือความสุกที่ 55/60 C เราก็จะหยุดการ อบ ปิ้ง ย่าง ต่างๆของเราก่อนหน้าที่จะถึง 55/60 C สักเล็กน้อย (เช่นที่ 48-50 C) เพราะเนื้อยังมีการสุกต่อไปอีก แม้จะเอาออกจากไฟแล้ว การเช็คความสุกดิบของเนื้อนี้ บางคนทำบ่อยจนเกิดความชำนาญ เอามือกดๆเนื้อดู ก็จะรู้ทันทีว่าเนื้อสุกระดับที่เราต้องการหรือยัง ทีนี้คนที่เขาชำนาญขนาดนั้น เขาก็คงไม่อดทนอ่านมาถึงตอนนี้แน่ เอาเป็นอันว่าคนที่ยังไม่ชำนาญตอนนี้ ก้อใช้อุปกรณ์ช่วยเป็น guide line ไปพลางๆค่ะ

 

เปิดเตาอบไฟ 200 C รอท่าไว้ก่อน ระหว่างรอเตาร้อน ไปเตรียมสิ่งอื่นๆค่ะ

 

เนื้อที่ใช้ทำวันนี้ เป็นเนื้อขนาด 700 g ติดกระดูก ไม่ได้ทำอะไรมากค่ะ ก่อนจะเอามาปรุงสุก ดูว่าเนื้อนิ่มดี หายเป็นน้ำแข็งแล้ว ก็แค่นวดๆน้ำมันมะกอกทิ้งไว้ในตู้เย็นสักครู่ (อย่าใส่เกลือไว้ก่อนเด็ดขาดค่ะ เกลือจะไปดูดน้ำออกจากเนื้อ ทำให้เนื้อแห้ง) วันนี้กะจะเอาเนื้อมาทำพล่า ก็เริ่มหั่นผักต่างๆไป

ตะไคร้ ซอยบางๆ

ผักชีฝรั่ง ต้นหอม ผักชี

มะนาว

น้ำตาลปิ๊บ

น้ำพริกเผา

น้ำปลา

พริกป่น

ข้าวคั่ว คั่วใหม่ๆ พอเป็นสีน้ำตาล หอม ทิ้งไว้ให้เย็น แล้วเอาไปตำให้ละเอียด

มะเขือเปราะหั่นเป็นแว่นบางๆ

 

จากนั้นตั้งกระทะบนเตา ไฟแรง จนกระทะร้อน โรยเกลือ พริกไทย ทั่วชิ้นเนื้อทั้งสองด้าน ยกเนื้อด้านที่เป็นมันลงไปนาบ จนน้ำมันละลายออกไปบ้าง แล้วจึงวางเนื้อนอนลงบนกระทะ ราวๆด้านละ 2 นาที ไม่ต้องพลิกไปมา ถ้าหากด้านข้างหนามากก็ยกชิ้นเนื้อตั้งขึ้น ให้ได้จี่ seared จนทั่วทุกด้าน จากนั้นเอาชิ้นเนื้อวางบนถาด รองด้วยกระดาษฟอยด์ เข้าเตาอบที่ป่านนี้อุณหภูมิคงถึง 200 C ตามที่ต้องการ ชิ้นที่เห็นนี้อบไป 5 นาทีค่ะ เอาออกมาเช็ค ก็ได้ตามที่ต้องการพอดี คือราวๆ 48 C จากนั้นก็เอาเนื้อมาพัก คลุมฟอยด์ไว้หลวมๆ ราวๆ 5-7 นาที เรื่องการพักเนื้อนี่สำคัญมากนะคะ ถ้าหากไม่พักเขาเสียก่อน เวลาเอาไปเสิรฟ น้ำเลือดจากเนื้อจะไหลเจิ่งนอง หายอยากรับประทานไปทันที เวลาที่พักเนื้อ ความร้อนที่ยังอยู่ในชิ้นเนื้อ จะทำให้เนื้อค่อยๆสุกขึ้นอีกนิดหน่อยอย่างช้าๆ ได้เนื้อที่นุ่ม และไม่แห้งค่ะ

 

foodfeb004เนื้อหอมนุ่ม ชุ่มฉ่ำ หลังจากพักตามเวลาแล้ว

 

พักเนื้อครบตามเวลาแล้ว หั่นชิ้นสวยๆ จะเสิร์ฟแยก ให้แขกไปราดน้ำจิ้มเอง หรือจะจัดจานเป็นพล่าเนื้อมะเขือเปราะอย่างในรูปก็สุดแต่ใจปรารถนาเลยค่า สำคัญว่ารีบๆทำให้เสร็จ ยกไปตอนนี้เลย กำลังอร่อย ช้ากว่านี้เนื้อก็จะขึ้นไข หรือไม่ก็แห้ง พาลให้ไม่อร่อยไปเสียอีกค่ะ

 

foodfeb003

foodfeb002

 

ทานให้อร่อย คุยกันให้สนุก เก็บช่วงเวลาดีๆนี้ไว้เป็นกำลังใจยามที่ต้องการ คนเรามีประสิทธิภาพเพิ่มขึ้นเมื่อเรามีความสุข

 

ขอให้ใช้ชีวิตกันอย่างรื่นรมย์ค่ะ