12 ผลิตภัณฑ์ความงาม #ที่คุณไม่ควรใช้มากเกินไป

 

ก่อนที่จะเอื้อมมือไปหยิบไพร์มเมอร์หรือดรายแชมพูครั้งต่อไป คุณควรศึกษารายละเอียดพวกนี้ไว้ซะหน่อยนะ เพราะข้าวของบางอย่างถ้าใช้บ่อยเกินไปก็อาจกลายเป็นโทษได้ ลองมาดูซิว่ามีข้าวของอะไรบ้างที่คุณไม่ค้วรไม่ควรใช้บ่อยเกินไป!!!

 

overuse004

 

1. ไพร์มเมอร์

ไพร์มเมอร์ส่วนใหญ่มักมีส่วนผสมของซิลิโคน ซึ่งถึงแม้จะช่วยอำพรางรูขุมขนได้เลิศเลอ หรือช่วยดักจับเหงื่อและน้ำมันให้คุณได้ แต่มันคือตัวต้นเหตุที่ทำให้มีสิวอุดตันเกินขึ้นด้วย ฉะนั้นจึงควรเก็บไพร์มเมอร์ไว้ใช้ในโอกาสพิเศษจริงๆ หรือในเวลาที่ผิวของคุณมีปัญหาแล้วต้องการตัวช่วยเป็นครั้งคราว และอย่าลืมหาเคลนเซอร์ดีๆ ที่สามารถสลายคราบซิลิโคนออกไปได้อย่างหมดจดด้วยล่ะ

 

overuse003

 

2. เรตินอล

เรตินอลมักจะมีมากมายหลายสูตร และมีวางขายเกลื่อนกลาดอยู่ในโลกของความงาม แต่ถ้าไม่ได้อยู่ภายใต้การดูแลของแพทย์ผิวหนังล่ะก็ เรตินอลก็อาจจะมีฤทธิ์แรงเกินไปสำหรับผิวบางประเภท และอาจทำให้เกิดอาการข้างเคียง อย่างเช่นแดงหรือลอกได้ ซึ่งถ้าคุณเป็นคนผิวแห้งอยู่แล้ว ก็อาจเสี่ยงที่จะเกิดอาการผิวแห้งเป็นขุยได้ ผู้เชี่ยวชาญด้านผิวหนังแนะนำให้เริ่มต้นใช้ด้วยเรตินอล 0.5% และใช้แค่สัปดาห์ละหนึ่งหรือสองครั้งเท่านั้น รวมทั้งควรอยู่ภายใต้การดูแลของแพทย์ผิวหนังด้วย

 

overuse005

 

3. การต่อขนตา

ถึงแม้การแต่ขนตาจะช่วยให้ขนตาของคุณดูดีงามในโอกาสพิเศษ อย่างเช่นงานแต่งงาน แต่การต่อขนตามักจะต้องติดกาวเข้ากับขนตาจริงๆของคุณ ซึ่งนั่นคือตัวการที่ทำให้ขนตาจริงของคุณเกิดความเสียหายจนถึงขั้นหลุดร่วงได้ ฉะนั้นจำกัดการต่อขนตาเอาไว้เฉพาะเวลาต้องไปงานหรือเป็นโอกาสพิเศษจริงๆ ส่วนเวลาปกติก็ควรใช้ขนตาปลอม เพื่อเพิ่มความคมเข้มเวลาที่คุณต้องออกงานหรือไปปาร์ตี้ในยามค่ำคืน

 

overuse006

 

4. ดรายแชมพู

การใช้ดรายแชมพูมากเกินไปจะทำให้เกิดสารตกค้างอยู่บนเส้นผม ซึ่งนั่นจะทำให้การทำความสะอาดเส้นผมและหนังศีรษะด้วยแชมพูตามปกติเป็นไปได้ยากขึ้น และยิ่งถ้ามีสารตกค้างมากๆ หนังศีรษะก็จะรับออกซิเจนได้น้อยลงด้วย ซึ่งนั่นจะทำให้ต่อมรากผมอ่อนแอลง จนถึงขั้นหยุดการงอกของเส้นผมได้ ฉะนั้นจึงควรใช้ดรายแชมพูเมื่อจำเป็นจริงๆ (ไม่ควรใช้เกินสัปดาห์ละครั้ง) และอย่าลืมทำความสะอาดให้หมดจด อย่าให้มีสารตกค้างหลงเหลืออยู่ด้วยล่ะ

 

overuse002

 

5. สครับ

สครับส่วนใหญ่มักจะทำขึ้นจากผงขัดชนิดต่างๆ ซึ่งผงขัดนี่แหละที่อาจเป็นอันตรายต่อผิวหน้าหรือผิวกายของคุณได้ เพราะมันอาจทำให้ผิวสูญเสียความชุ่มชื้น และทำให้ผิวเปราะบางจนอาจเกิดปัญหาสิวจากเชื้อแบคทีเรีย เกิดความเสียหายจากการโดนแสงแดด และถึงขั้นเกิดรอยขีดข่วนที่อาจถึงขึ้นกลายเป็นแผลเป็นได้ ฉะนั้นคุณจึงไม่ควรใช้สครับเกินสัปดาห์ละสองถึงสามครั้ง ถ้าจะให้ดีก็ควรพึ่งแพทย์ผิวหนังในการขัดลอกผิวแบบมืออาชีพ

 

overuse0012

 

6. แชมพูชนิดทำความสะอาดล้ำลึก

ถึงแม้แชมพูชนิดนี้จะช่วยขจัดสารพิษและสารตกค้างบนเส้นผมออกไปได้อย่างยอดเยี่ยม แต่ถ้าคุณใช้บ่อยเกินไป มันก็จะเข้าไปทำลายน้ำมันตามธรรมชาติบนศีรษะ ส่งผลให้เส้นผมมีปัญหาแห้งกรอบจนถึงขั้นหักขาดได้ ฉะนั้นใช้แค่เดือนละสองครั้งก็พอ หรือถ้าจำเป็นจริงๆ ก็สัปดาห์ละครั้ง

 

overuse0013

 

7. กระจกส่องภาพขยาย

การส่องกระจกที่ช่วยขยายภาพให้ใหญ่ขึ้นหลายๆเท่านั้น มีผลต่อความงามของคุณจริงๆนะ เพราะมีการศึกษากันมาแล้วว่า มันจะทำให้คุณรู้สึกอยากถอนคิ้วออกมากขึ้น รวมทั้งอยากบีบสิวบ่อยขึ้นด้วย ฉะนั้นใช้ตรวจตาดูคิ้วแค่สัปดาห์ละครั้งก็พอ และอย่าส่องกระจกชนิดนี้เวลาที่คุณมีสิวขึ้นเด็ดขาด!

 

overuse0011

 

8. ปิโตเลี่ยมเจลลี่

ถึงแม้ปิโตเลี่ยมเจลลี่จะช่วยเยียวยาอาการผิวแห้งได้ดี แต่ตามความเป็นจริงแล้วมันไม่ได้ซึมเข้าไปในผิวนะ มันจะเคลือบผิวเอาไว้ไม่ให้ความชุ่มชื้นระเหยออกมาจากผิว รวมทั้งขวางกั้นไม่ให้ความชุ่มชื้นจากภายนอกซึมเข้าไปในผิวด้วย จึงอาจส่งผลให้ผิวแห้งยิ่งขึ้นเมื่อใช้ไปนานๆ ฉะนั้นมองหาตัวช่วยอย่างอื่นในการช่วยคืนความชุ่มชื้นให้ผิวในแต่ละวันดีกว่า อย่างเช่นน้ำมันมะพร้าว

 

overuse0010

 

9. ครีมหมักผมชนิดฟื้นฟูผมแห้งเสีย

ครีมหมักผมชนิดนี้เป็นอะไรที่ช่วยฟื้นฟูผมแห้งเสียได้ดีจริงๆ เพราะหลังใช้คุณจะรู้สึกว่าผมนิ่มและมีความชุ่มชื้นขึ้นทันที แต่คุณก็ควรระวังไว้ด้วยนะ เพราะถ้าคุณใช้เกินกว่าสัปดาห์ละครั้งล่ะก็ มันอาจทำให้เส้นผมของคุณลีบแบน และแต่งทรงได้ยากขึ้นด้วย

 

overuse009

 

10. ลิปมันชนิดผสมตัวยา

ลิปมันชนิดนี้จะช่วยเยียวยาริมฝีปากที่มีอาการแห้งแตกขั้นรุนแรงได้อย่างรวดเร็ว แต่ถ้าคุณใช้เป็นประจำ มันก็อาจทำให้ริมฝีปากของคุณเกิดอาการ ติดยาขึ้นมาได้ พูดง่ายๆว่าถ้าวันไหนไม่ได้ใช้ ริมฝีปากก็จะแห้งผากไปเลย ฉะนั้นควรใช้เมื่อจำเป็นจริงๆ และเมื่อริมฝีปากหายดีแล้ว ก็หันกลับมาใช้ลิปมันแบบธรรมดาแทนซะ

 

overuse008

 

11. ลิปสติกสีแมตต์ชนิดลิควิด

ลิปสติกชนิดนี้มีชื่อเสียงเป็นที่เลื่องลือถึงสีสันที่สดชัดและความติดทนนาน แต่คุณรู้หรือเปล่าว่าส่วนผสมที่ทำให้สีสันติดทนนานนั้น อาจก่อให้เกิดความเสียหายขั้นรุนแรงให้กับริมฝีปากได้ ฉะนั้นถ้าคุณยังใช้อยู่ ก็ควรทำความสะอาดให้ดีโดยใช้น้ำมันมะพร้าว และควรพักริมฝีปากบ้าง อย่างเช่นทาวันนึงก็หยุดพักวันนึง ในวันที่หยุดพักก็อาจใช้ลิปมันชนิดเจือสีแทนก็ได้

 

overuse007

 

12. คอนดิชันเนอร์

การใช้คอนดิชันเนอร์แบบรีบๆ ตั้งแต่โคนจรดปลาย แล้วล้างออกไม่หมดนั้น ก็อาจส่งผลให้เส้นผมของคุณลีบแบน เป็นมันเยิ้ม และอาจทำให้เกิดการตกค้างบนเส้นผมได้ เคล็ดลับในการใช้คอนดิชันเนอร์อย่างปลอดภัยก็คือ หลังจากสระผมเส้นผมเสร็จแล้ว ก็มัดเป็นหางม้าเอาไว้ จากนั้นก็ลงคอนดิชันเนอร์เฉพาะส่วนที่เป็นหางม้า แล้วล้างน้ำออกเป็นเวลา 1 นาทีเต็ม

 

เครดิตภาพ: 1, 2, 3, 4, 5, 6, 7, 8, 9, 10, 11, 12

3 วิธีผลัดเซลล์ผิวเพื่อให้ผิวหน้าเปล่งประกายสดใส #แบบปลอดภัยหายห่วง!

 

การผลัดเซลล์ผิวหน้าเป็นขั้นการตอนการดูแลผิวที่น่าทึ่งมากๆ เพราะคุณจะมองเห็นผลลัพท์ได้ทันที ไม่ว่าจะทำเพื่อการต่อสู้กับสิว ลดเลือนจุดด่างดำ หรือแม้แต่ลดเลือนริ้วรอยเล็กๆได้ เพียงแต่คุณต้องมองหาผลิตภัณฑ์ขัดลอกผิวหน้าให้เหมาะกับคุณเท่านั้น ยังไงน่ะเหรอ? เรามีรายละเอียดมาบอกคุณแล้ว

 

ทำไมถึงต้องขัดลอกผิวหน้าด้วยล่ะ?

ก็อย่างที่รู้ๆกันนั่นแหละว่า เมื่อเรามีอายุมากขึ้น กระบวนการผลัดเซลล์ผิวก็จะทำงานช้าลง ส่งผลให้ร่างกายไม่ค่อยผลิตเซลล์ผิวใหม่ๆที่ดูอิ่มเอิบขึ้นมา เหมือนสมัยที่เรายังอยู่ในวัยหนุ่มสาว ผิวหน้าจึงดูหม่นหมองไม่เปล่งปลั่งสดใสอย่างที่เคยเป็น ฉะนั้นการขัดลอกเซลล์ผิวเก่าๆ พวกนี้ออกไป ก็จะช่วยฟื้นฟูผิวให้สามารถดูดซับสารบำรุงจากผลิตภัณฑ์ดูแลผิวได้ดีขึ้น แถมยังทำให้ผิวรู้สึกเนียนนุ่มและเปล่งปลั่งสดใสได้ทันดีด้วย ฉะนั้นก็อย่าลืมขัดลอกผิวหน้าเป็นประจำ ด้วยผลิตภัณฑ์เริ่ดๆ และปลอดภัยต่อผิวหน้า อย่างเช่น…

 

exfoliation002

 

1. ถ้าคุณมีผิวมัน: น้ำมันส่วนเกินเมื่อรวมตัวกับเซลล์ผิวที่ตายแล้ว ก็อาจสร้างปัญหาสิวหรือรูขุมขนอุดตันขึ้นมาได้ นอกจากนี้ความมันเยิ้มยังส่งผลให้ผิวหน้าดูหม่นหมองมากขึ้นด้วย ฉะนั้นจึงควรแก้ปัญหาด้วยการใช้ผลิตภัณฑ์ขัดลอกผิวที่เป็นทั้งแบบ Chemical และ Physical อยู่ในหลอดเดียวกัน เนื่องจากจะช่วยกระตุ้นการผลัดเซลล์ผิวได้อย่างมีประสิทธิภาพ รวมทั้งช่วยลดความมันเยิ้มได้เป็นอย่างดีด้วย

 

เราชอบ: Dermalogica Charcoal Rescue Mask ขนาด 75 มล. ราคา 2,700 บาท

exfoliation0010

 

มาส์กหลอดนี้มีส่วนผสมของถ่านขาวบินโจตัน ซึ่งสกัดมาจากไม้โอ๊คอุบาเมะ ที่มีแหล่งกำเนิดในประเทศญี่ปุ่น และยังมีส่วนผสมเริ่ดๆอีกมากมาย ที่ช่วยดูดซับสิ่งอุดตัน เผยความกระจ่างใส ปลอบประโลมผิว ฟื้นบำรุงผิวให้ดูเรียบเนียน และช่วยคืนความเปล่งปลั่งสดใสกับผิว

 

เคล็ดลับการใช้: หลังทำความสะอาดผิวหน้าเสร็จแล้ว ก็เกลี่ยมาส์กตัวนี้ให้ทั่วใบหน้าและลำคอ (โดยหลีกเลี่ยงบริเวณรอบดวงตา) ทิ้งไว้ 7 – 10 นาที จากนั้นก็นำมือแตะน้ำมานวดคลึงเบาๆ แล้วล้างออกด้วยน้ำสะอาด ขอบอกว่าเนื้อมาส์กมีเม็ดสครับเม็ดเล็กๆผสมอยู่ด้วย จึงช่วยขจัดสิ่งสกปรกและเซลล์ผิวที่ตายแล้วได้ดียิ่งขึ้น ใช้แล้วผิวหน้าดูกระจ่างใสและเนียนนุ่มขึ้นแบบเห็นๆเลย!

 

2. ถ้าคุณมีผิวผสม: คุณสามารถเลือกใช้ผลิตภัณฑ์ขัดลอกผิวได้อย่างหลากหลาย ไม่ว่าจะเป็นชนิด Chemical ซึ่งใช้เอ็นไซม์หรือกรดผลไม้ในการย่อยสลายเซลล์ผิวที่เสื่อมสภาพ หรือชนิด Physical ซึ่งมักอยู่ในรูปสครับที่ช่วยขจัดเซลล์ผิวที่ตายแล้วออกไปอย่างอ่อนโยน เพียงแต่คุณจะต้องไม่ทำบ่อยเกินไป เพราะอาจเสี่ยงที่จะเกิดอาการระคายเคืองขึ้นมาได้

 

เราชอบ: Philosophy The Microdelivery Peel ขนาด 60 กรัม และ 60 มล. ราคา 2,900 บาท

นี่เป็นผลิตภัณฑ์ผลัดเซลล์ผิวแบบ 2 ขั้นตอน ที่ใช้เวลาเพียงแค่ 3 นาทีเท่านั้น โดยจะใช้การทำงานร่วมกันระหว่างการผลัดเซลล์ผิวแบบ Mechanical ที่ใช้ส่วนผสมของโซเดียมคาร์บอเนต วิตตามินซี (เม็ดสครับ) และเปปไทด์ และการผลัดเซลล์ผิวแบบ Chemical ที่มีส่วนผสมของกรดซาลิไซลิคและกรดแลคติก

 

เคล็ดลับการใช้: หลังจากทำความสะอาดผิวหน้าเสร็จแล้ว ก็ทา Microdelivery Peel Vitamin c/Peptide Resurfing Crystals ลงบนผิวหน้าพร้อมกับนวดคลึงเบาๆ เป็นเวลา 1 นาที ขั้นตอนนี้จะรู้สึกอุ่นๆที่ผิวหน้าเล็กน้อย ก็ไม่ต้องตกใจ จากนั้นก็ทา Microdelivery Lactic/Salicylic Acid Activating Gel ตามลงไป โดยคลึงนวดเบาๆ อีก 2 นาที จากนั้นก็ล้างน้ำออก ขอบอกว่าผิวจะดูปิ๊งปั๊งขึ้นมาทันทีเลย!

 

3. ถ้าคุณมีผิวแห้ง: เซลล์ผิวหนังที่เสื่อมสภาพและเกิดการทับถมอยู่บนผิวหน้านั้น คือตัวขัดขวางไม่ให้มอยส์เจอไรเซอร์ซึบซาบเข้าไปเติมความชุ่มชื้นให้ผิวได้ นั่นคือเหตุผลว่าทำไมผิวแห้งๆ จึงได้ประโยชน์จากผลิตภัณฑ์ขัดลอกผิวอย่างเห็นได้ชัด แต่คุณต้องไม่ใช้ผลิตภัณฑ์ขัดลอกผิวที่มีความรุนแรงเกินไป หรือทำการขัดลอกผิวบ่อยเกินไป เพราะอาจก่อให้เกิดรอยแดงหรืออาการระคายเคืองได้ง่าย

 

เราชอบ: Kiehl’s Nightly Refining Micro-Peel Concentrate ขนาด 30 มล. ราคา 2,650 บาท

ทรีทเม้นท์ทรงประสิทธิภาพ ที่ใช้ส่วนผสมที่เป็นสารสกัดจากเมล็ดควินัว กรดผลไม้หลากหลายชนิด สารสกัดจากกระบองเพชร และกรดไฟติก ที่ช่วยผลัดเซลล์ผิวที่เสื่อมสภาพอย่างอ่อนโยน โดยไม่ก่อให้เกิดอาการแดงหรือแพ้ จึงใช้ได้กับทุกสภาพผิวรวมทั้งผิวแพ้ง่ายด้วย

 

เคล็ดลับการใช้: หลังทำความสะอาดผิวหน้าในช่วงเย็นเสร็จแล้ว ก็หยดลงบนฝ่ามือ 2-3 หยด แล้วทาให้ทั่วใบหน้า แล้วจึงตามด้วยเซรั่มและมอยส์เจอไรเซอร์ตามปกติ ทรีทเม้นท์ขวดนี้มีความอ่อนโยนพอจะใช้ได้ทุกคืนเลยนะ หลังใช้แค่วันเดียวก็รู้สึกได้เลยว่าผิวนุ่มขึ้น และดูเปล่งปลั่งสดใสกว่าเดิมด้วย และพอใช้ไปได้ 7 วัน ริ้วรอยเล็กๆ ก็ดูลดเลือนลงด้วยนะ

 

exfoliation008

 

Tips and Tricks

ผลิตภัณฑ์ขัดลอกผิวชนิด Physical เป็นผลิตภัณฑ์ที่มีส่วนผสมของเม็ดบีด น้ำตาล หรือผลึกเกลือ รวมทั้งแปรงและผ้าขนหนู ก็ถือเป็นเครื่องมือในการขัดลอกผิวหน้าชนิดนี้ด้วย

ผลิตภัณฑ์ขัดลอกผิวชนิด Chemical เป็นผลิตภัณฑ์ที่มีส่วนผสมของเอ็นไซม์และกรดต่างๆ อย่างเช่น กรดซาลิไซลิค กรดไกลโคลิค กรดอัลฟ่าไฮดร็อกซี่ และกรดเบต้าไฮดร็อกซี่ ซึ่งจะช่วยย่อยสยายเซลล์ผิวหนังที่เสื่อมสภาพในบริเวณชั้นนอกสุด

อย่าลืมอ่านวิธีใช้ด้วยล่ะ เนื่องจากแต่ละผลิตภัณฑ์ก็มีวิธีใช้แตกต่างกันไป บางชนิดก็ใช้ได้ทุกวัน ส่วนบางชนิดก็ใช้ได้สัปดาห์ละครั้ง

ถ้าคุณมีผิวแพ้ง่าย ก็ควรทดสอบการใช้ผลิตภัณฑ์นั้นๆก่อน โดยทาในบริเวณท้องแขนเป็นพื้นที่เล็กๆก่อน ถ้าไม่อาการระคายเคืองอะไร จึงค่อยนำมาใช้กับผิวหน้า

 

เครดิตภาพ: 1, 2, 3, 4, 5, 6, 7