ถ้าอยากมีผิวสวย ก็ต้องรักษาค่า pH ให้สมดุลนะ #รู้กันหรือยัง?
January 6th, 2017
ผิวที่แห้ง ตึง หรือเป็นสิวได้ง่ายนั้น มักเป็นสัญญาณที่บ่งบอกว่าผิวมีระดับ pH ที่ไม่สมดุล แล้วจะปรับให้สมดุลได้ยังไงนะเหรอ? ศึกษาข้อมูลดีๆพวกนี้เอาไว้สิ…
ค่า pH คืออะไร?
ค่า pH หมายระดับความเป็นกรดและด่าง ถ้าค่า pH เป็น 0 ก็แสดงว่ามีค่าความเป็นกรดสุดๆ และถ้าอยู่ที่ 14 ก็แสดงว่ามีค่าความเป็นด่างสุดๆเช่นกัน ชั้นปกป้องผิวจะมีสุขภาพดีที่สุดถ้ามีค่าความเป็นกรด 5.5 ซึ่งจะช่วยกักเก็บความชุ่มชืน รวมทั้งป้องกันการอักเสบและอาการระคายเคืองได้ แต่กิจวัตรประจำวันบางอย่าง (อย่างเช่นการล้างหน้า) ก็สามารถทำให้ค่า pH เปลี่ยนไปได้

ค่า pH ของคุณอยู่ในระดับสมดุลหรือเปล่า?
ผิวที่มีค่า pH อยู่ในระดับสมดุล จะมีลักษณะเนียนนุ่ม ชุ่มชื้น และผ่อนคลาย แต่ถ้าผิวของคุณมักจะแห้งตกสะเก็ด แพ้ง่าย หรือมีสิวขึ้นง่ายล่ะก็ ปรับเปลี่ยนกิจวัตรดูแลผิวของคุณซะ ด้วยเคล็ดลับการดูแลผิวที่เหล่าแพทย์ผิวหนังให้การยอมรับพวกนี้ แล้วผิวจะมีสุขภาพดีขึ้นในสองถึงสี่สัปดาห์
– ระวังน้ำอาบ: น้ำที่มีค่า pH ในระดับ 7 จะทำให้ผิวมีความเป็นด่างมากขึ้น ฉะนั้นจึงควรทาครีมทันทีหลังอาบน้ำ เพื่อปรับค่าสมดุลให้กับชั้นปกป้องบนผิว
– ระวังสบู่ก้อน: เพราะส่วนใหญ่จะมีสารชำระล้างที่มีฤทธิ์แรง ซึ่งจะกำจัดทั้งสิ่งสปรกและน้ำมันที่ทำหน้าที่ปกป้องผิว คุณควรหลีกเลี่ยงส่วนผสมอย่าง sodium-stearate, -palmate, -tallowate และ –palmitate
– นุ่มนวลต่อผิวหน่อย: การล้างหรือถูหน้าแรงๆ อาจทำให้ค่า pH มีระดับสูงขึ้นได้ นอกจากนี้ถ้าคุณมีผิวที่บอบบางแพ้ง่าย ก็ไม่ควรใช้สครับ หรือแปรงทำความสะอาดผิวที่มีขนแปรงแข็งเกินไป เพราะนั่นเป็นอีกปัจจัยที่ทำให้ค่าpH มีระดับสูงขึ้นได้เหมือนกัน
– ใช้กรดน้อยๆหน่อย: การลอกผิวหน้าให้ดูเปล่งปลั่งด้วยกรดไกลโคลิคนั้น ชวนให้ใครๆทำกันแบบไม่ยั้ง แต่นั่นจะทำให้ค่า pH ลดต่ำอย่างรวดเร็ว ถ้าหน้าคุณแดงหรือแพ้ง่าย ก็ควรพักผิวหน้าสามถึงเจ็ดวัน ก่อนจะทำการลอกหน้าครั้งต่อไป
– ทาครีมกันแดดซะ: เวลาที่ผิวโดนแดดเผาจนไหม้นั้น น้ำที่อยู่ในร่างกายจะรีบตรงดิ่งเข้าไปช่วยเหลือ ซึ่งกระบวนการนั้นจะทำให้ค่า pH มีระดับสูงขึ้น ซึ่งจะทำให้ชั้นปกป้องผิวทำงานลดลง แถมยังฟื้นฟูตัวเองได้แย่ลงด้วย
เครดิตภาพ: 1, 2,