‘รองเท้าคัชชู…ทำไมถึงเรียกว่าคัชชู’
December 14th, 2016
รองเท้าสวมส้นสูงของสาวๆ ที่มักเรียกกันติดปากว่ารองเท้าคัชชู เคยรู้ที่มาของชื่อกันมั้ยว่าทำไมต้อง ‘คัชชู’ มีที่มาหรือทำไมถึงเรียกแบบนี้ มารู้กันเลยดีกว่า
จริงๆ แล้วรองเท้าคัชชูมาจากภาษาอังกฤษว่าคอร์ตชู (Court Shoe ศัพท์ทางอังกฤษ) และ พัมพ์ (Pump ศัพท์ทางอเมริกัน) เป็นรองเท้าสวม ตัดเว้าคว้านต่ำด้านหน้าเท้า ส้นสูง ไม่มีสายคาดเท้า รองเท้าที่เรียกว่าพัมพ์มักจะเป็นรองเท้าที่มีสายคาดตรงข้อเท้า ส่วนจะมีสายคาดขวางจะเรียกว่า ‘แมรี่เจนส์ (Mary Janes)’
ช่วงค.ศ.2007 ที่ประเทศอังกฤษจะมีรองเท้าคอร์ตชูหรือพัมพ์มากมายหลายแบบ ส่วนใหญ่จะเป็นรองเท้าของผู้หญิงและมีส้นสูงแต่ถ้าส้นสูงแหลมจะเรียกว่าสติเลตโต้ (Stiletto) และถ้าส้นสูงประมาณ 1-1/2 นิ้วมักเรียกว่าคิตเตน (Kitten) แต่ถ้าเป็นเมืองรอบๆ เมืองหลวง ความหมายของพัมพ์คือรองเท้าสวม ไม่มีส้นหรือส้นแบบเรียบคล้ายๆ รองเท้าสไตล์บัลเล่ย์ (Ballerina) แต่ในอเมริกาความหมายของพัมพ์คือรองเท้าส้นสูงแบบคิตเตนหรือรองเท้าส้นสูงมากกว่านั้น
(จากซ้าย) รองเท้า Stiletto, รองเท้า Kitten, รองเท้า Mary Janes
(จากซ้าย) รองเท้า Pump, รองเท้า Ballerina, รองเท้า Kitten แบบย้อนยุค
คอร์ตชูหรือพัมพ์ตัดเย็บจากวัสดุนานาแบบ แต่ดั้งเดิมจะตัดเย็บด้วยหนังมัน สมัยก่อน รองเท้าสไตล์นี้เป็นรองเท้าของนักเต้นรำบอลล์รูม ซึ่งรองเท้าจะตัดเย็บด้วยผ้าซาตินสีเทนหรือสีน้ำตาลเนื้อหรืออาจะเฉดสีอื่นก็ได้ โดยสวมกับรองเท้าฝึกเต้น สมัยพระเจ้าจอร์จที่ 3 ของอังกฤษ (ค.ศ.1795-1837) คอร์ตชูเป็นรองเท้าของหนุ่มๆ นะ ส่วนในยุควิกตอเรียน (คศ.1837-1901) หนุ่มๆ ใส่คอร์ตชูหรือพัมพ์ไปงานสำหรับใส่เต้นรำ บางทีก็เรียกว่ารองเท้าโอเปร่า (Opera Shoe) หรือโอเปร่า สลิปเปอร์ (Opera Slipper)
สาวๆ กับคอร์ตชูหรือคัชชูที่เรียกกันคุ้นปาก สวยดูดีได้ทุกสถานการณ์และทุกลุค
คำว่าคัชชูจึงน่าจะมีที่มาจากคำว่า ‘คอร์ตชู’ นี่เอง พูดไปพูดมาคำก็เปลี่ยนเสียงจนกลายมาเป็นคัชชูซะนี่
ภาพ: i.ebayimg.com; images.american-duchess.com; cdn.endource.com; cdnd.lystit.com; johnlewis.scene7.com; pinterest; fashionlab.pro; design-birdy.com; picture-cdn.wheretoget.it; oeildelamode.weekly.com; www.spylovebuy.com