9 เรื่องของในหลวงที่คนไทยทุกคนควรรู้ #ขอเป็นข้ารองพระบาททุกชาติไป
October 24th, 2016
แม้ตลอด 70 ปีที่ในหลวงทรงตรากตรำพระวรกาย เพื่อหาวิธีทำให้คนไทยทุกคนอยู่ดีกินดีนั้น จะเต็มไปด้วยเรื่องราวดีๆ ที่ทำให้พสกนิกรชาวไทยปลื้มปริ่ม ภาคภูมิใจ และเทิดทูนพระองค์ไว้เหนือสิ่งใด แต่เรื่องราวเล็กๆ น้อยๆ พวกนี้ ชาวไทยทุกคนก็ไม่ควรหลงลืมกัน แม้วันนี้จะไม่มีพ่อหลวงให้พวกเราชาวไทยได้ยึดเหนี่ยวเป็นศูนย์รวมของจิตใจกันอีกต่อไปแล้วก็ตาม…
1. พระนามเต็มของในหลวงคือ…พระบาทสมเด็จพระปรมินทรา มหาภูมิพลอดุลยเดช มหิตลาธิเบศรรามาธิบดี จักรีนฤบดินทร สยามินทราธิราช บรมนาถบพิตร
2. ในหลวงทรงเล่นกีฬาได้หลายชนิด แต่กีฬาที่ทรงโปรดเป็นพิเศษได้แก่ แบดมินตัน สกี และเรือใบ ทรงเคยได้เหรียญทองจากการแข่งขันเรือใบประเภทใบเดี่ยวในกีฬาแหลมทอง (ต่อมาเปลี่ยนชื่อเป็น“กีฬาซีเกมส์“) ครั้งที่ 4 ปี พ.ศ.2510
3. ในหลวงไม่ทรงโปรดสวมเครื่องประดับต่างๆ เช่น แหวน สร้อยคอ หรือของมีค่าอื่นๆ ยกเว้น นาฬิกา
4. วันที่ในหลวงเสียใจที่สุด คือวันที่สมเด็จย่าเสด็จสวรรคต มีหนังสือเล่าไว้ว่า วันนั้นในหลวงไปเฝ้าแม่ถึงตีสี่ตีห้า พอแม่หลับจึงเสด็จฯกลับ เมื่อกลับถึงวังทางโรงพยาบาลก็โทรศัพท์มาแจ้งว่า สมเด็จย่าสิ้นพระชนม์แล้ว ในหลวงรีบกลับไปที่โรงพยาบาล เห็นแม่นอนหลับตาอยู่บนเตียง ในหลวงคุกเข่าเข้าไปกราบที่อกแม่…ซบหน้านิ่งอยู่นาน ค่อยๆเงยพระพักตร์ขึ้นมาน้ำพระเนตรไหลนอง
5. โครงการส่วนพระองค์สวนจิตรลดาเริ่มต้นขึ้นจากเงินส่วนพระองค์จำนวน 32,866.73 บาท ซึ่งได้จากการขายหนังสือดนตรีที่พระเจนดุริยางค์ จากการขายนมวัวแล้วค่อยๆเติบโตเป็นโครงการ และพัฒนามาจนเป็นอย่างที่เราเห็นกันทุกวันนี้
6. ในหลวงทรงโปรดผัดผักทุกชนิด เช่น ผัดคะน้า ผัดถั่วงอก ผัดถั่วลันเตา ซึ่งผักที่ไม่ทรงโปรดคือผักชี ต้นหอม และตั้งฉ่าย ทรงเสวยข้าวกล้องเป็นพระกระยาหารหลัก ไม่เสวยปลานิลเพราะทรงเป็นผู้เลี้ยงปลานิลคนแรกในประเทศไทย โดยใช้สระว่ายน้ำในพระตำหนักสวนจิตรลดาเป็นบ่อเลี้ยง แล้วแจกจ่ายพันธุ์ไปให้กรมประมง เครื่องดื่มที่ทรงโปรดคือโอวัลติน เคยเสวยวันหนึ่งหลายครั้ง
7. ในหลงทรงฟังวิทยุคลื่น จส.100 และเคยโทรศัพท์ไปรายงานสถานการณ์ต่างๆ เกี่ยวกับกรุงเทพมหานครด้วย โดยในตอนนั้นทรงใช้พระนามแฝง
8. ในหลวงทรงเป็นพระมหากษัตริย์พระองค์แรกของโลกที่ได้รับสิทธิบัตรผลงานประดิษฐ์คิดค้นเครื่องกลเติมอากาศที่ผิวน้ำหมุนช้าแบบทุ่นลอย หรือ “กังหันชัยพัฒนา” เมื่อปี 2536
9. ในหลวงเริ่มพระราชทานปริญญาบัตรครั้งแรกเมื่อปี พ.ศ.2493 จน 29 ปีต่อมาจึงมีผู้คำนวณว่าเสด็จพระราชทานปริญญาบัตร มาแล้ว 490 ครั้ง ประทับครั้งละ 3 ชม. ทรงยื่นพระหัตถ์พระราชทาน 470,000 ครั้ง น้ำหนักปริญญาบัตรฉบับละ 3 ขีด รวมน้ำหนักทั้งหมด 141 ตัน
ที่มา: talung.gimyong.com
เครดิตภาพ: 1, 2, 3, 4, 5, 6, 7, 8, 9, 10, 11, 12, 13