City Break: New York City, part II
September 22nd, 2016
เบรก-เที่ยว (แนะนำเรื่องเที่ยว) (ตอนต่อจาก City Break: New York City, Part I )
3. ไปดูละคร Broadway ที่ Theater District
Cr: pixiz
ถ้าต้องการสัมผัสย่านที่ไม่เคยหลับใหลเอกลักษณ์ของ “City that never sleeps..”จากเพลงดังของ Frank Sinatra ละก็ต้องไปแถบ Theater District ที่อยู่ระหว่างถนน 7th กับ 8th ตัดกับถนน 42 ขึ้นไปจนถึงถนน 57 ที่นี่คือย่านละครบอร์ดเวย์ที่เป็นละครแบบมิวสิกคัลกว่า 30 โรงมีทั้งแบบลงทุนสูง และแบบทุนน้อยแต่ไม่ด้อยคุณภาพ ดูแล้วเพลินครับ แต่ต้องศึกษาเนื้อเรื่องมาก่อนจึงจะสนุก เลือกเอาครับจะเป็นเรื่องคลาสสิก แบบ Les Miserables ที่ Victor Hugo เขียนเป็นหนังสือไว้ หรือ Cats ที่เป็นผลงานชิ้นเอกของ Andrew Lloyd Webber จากลอนดอน หรือยุคใหม่หน่อยชอบเพลงของ ABBA ก็ Mama Mia! เขียนบทโดย Catherine Johnson ชาวอังกฤษ ตั๋วเริ่มต้นจากราคาประมาณ $57 แต่ต้องเช็คเวลาแสดง และจองล่วงหน้าซะหน่อยครับ แต่ถ้าไม่เลือกโชว์เราสามารถแวะซื้อตั๋วที่บู๊ท TKTS booth ที่ Times Square ที่นี่ขายตั๋วลดราคาที่มีการแสดงวันนั้น แล้วที่นั่งว่างอยู่เหมือน last minute ticket ทำนองนั้น
ถ้าไม่ชอบละครเพลง มาแถวนี้ก็ควรแวะไปเดินเล่น Times Square ทีนี่หลายคนมักจะถามว่านาฬิกามันอยู่ตรงไหน เพราะนึกว่าที่เรียกว่า Times Square ก็คงเพราะมีหอนาฬิกาเพื่อดูเวลา แต่ไม่ใช่ครับ เมื่อก่อนที่นี่เรียกว่า Long acre square แต่พอปี 1904 บริษัทหนังสือพิมพ์ท้องถิ่นที่ชื่อ The New York Times ย้ายมาสร้างตึกสำนักงานใหญ่ที่นี่ ก็เลยเปลี่ยนชื่อมาเป็น Times Square ตั้งแต่นั้น
Cr:suburbantours.com
สำหรับ เหตุการณ์สำคัญของ Times Square ก็คือทุกวันส่งท้ายปีเก่าต้อนรับปีใหม่ ที่นี่จะมีประเพณี count down หย่อนลูกบอลหรือ ‘Ball drop’ ตอนเที่ยงคืน ซึ่งทำมาตลอดตั้งแต่ปี 1907 จนถึงทุกวันนี้ เป็นมหกรรมเฉลิมฉลองปีใหม่ที่หลายๆ ประเทศพยายามเอาไปเลียนแบบแม้แต่บ้านเรา
4.ไปปิคนิคที่ CENTRAL PARK
Cr: wikipedia
เมื่อผมมานิวยอร์ก สิ่งที่ผมชอบอย่างหนึ่งคือ เวลาเดินเหนื่อยแล้วอยากพักผมจะไปหาซื้ออาหารและดื่มแบบ to go ในร้านชื่อดังหน่อยเช่น ฮ็อตด็อกจากร้าน Papaya King ที่ถนน 86th แล้วมาปิคนิคใน Central Park (ถ้าเลือกอาหารไม่ถูก เดี๋ยวรออ่านในตอนผมแนะนำของกินใน NYC ได้) หรืออาจหาซื้อฮ็อตด็อกหรือเบอร์เกอร์จากรถเข็นในปาร์คเลยก็ได้
อีกอย่างที่ชอบคือการไปดูคน ‘people watching’ คืออยากดูและสังเกตกิจกรรมของคนท้องถิ่น ที่ไม่ใช่นักท่องเที่ยว แม้ว่าจะยากหน่อยสำหรับสมัยนี้ เพราะนักท่องเที่ยวมักไปทุกที่ แต่ ที่ Central Park จริงๆ แล้วออกแบบมาให้ ชนิวยอร์กเกอร์ เพราะรูปแบบการอยู่อาศัยแบบ อพาร์เมนต์มันต้องมีปาร์ค และบรรยากาศแบบตึกระฟ้าทั้งหลายมันก็ต้องเบรคด้วย green area ในสัดส่วนที่พอเหมาะ ช่วงทางใต้ของปาร์คระหว่างถนน 59th ถึง 72nd จะคนเยอะหน่อย ถ้าต้องการความสงบก็ให้เดินขึ้นเหนือไปอีกครับ
5. ไปเซลฟี่กับ BROOKLYN BRIDGE
ในยุคของการเดินทางท่องเที่ยวในยุคที่ทุกคนต้อง ‘Selfie’การถ่ายรูปกับแบคกราวน์เท่ห์ๆ มันจำเป็นมากๆ ผมว่าภาพถ่ายที่ถ่ายมาจากฝั่ง Brooklyn ตรงแถว Brooklyn park ริมแม่น้ำ East แล้วเห็นสะพานชื่อเดียวกัน แล้วมองไปทางฝั่ง Lower Manhattan ที่เป็นย่านfinancial districtนั้น จำต้องมีเลยครับ หรือถ้าเป็น hardcore เราไปถ่ายบนสะพานบนทางที่จัดให้เดินแบบ promenade เป็นแบบ boardwalk อยู่สูงกว่าระดับถนนถ้ามาจากทางฝั่ง Brooklyn มันจะมีทางลงใต้ดินตรงถนน Washington แล้วทางจะพาไปทางขึ้นสะพานเองมีผู้ที่มาเล่นสเก็ตบอร์ดหรือขี่จักรยานเล่นเยี่ยมมากๆวิวสวยสุดแม้จะต้องเดินนานหน่อยกว่าจะข้ามได้เป็นสุดยอดประสบการณ์ ข้างๆ กันจะเป็นสะพาน Manhattan แต่ไม่ถือเป็นแลนด์มาร์คของ NYC
เมื่อข้ามไปฝั่ง financial district ก็มีจุด Photo point เยอะที่ผมแนะนำก็คือ ‘Charging Bull – กระทิงบุก’ สัญลักษณ์ของ NYSE ตลาดหุ้นนิวยอร์ก ที่เป็นที่สุดของตลาดที่มีอิทธิพลต่อเศรษฐกิจโลก และเดินไม่ไกลก็จะเป็นอนุสรณ์สถาน 9/11 Memorial ที่มีรูปแบบเป็นน้ำตกฝีมือมนุษย์ man-made waterfalls ที่ใหญ่ที่สุดในทวีปอเมริกา คือมีขนาดเท่ากับฐานของตึก WTC ที่เคยอยู่ที่นี่เดิมทั้ง 2 ตึกนั่นเอง แล้วก็มีรายชื่อผู้เสียชีวิตจากเหตุการณ์นี้ทั้ง 2,983 คน จารึกไว้บนแผ่นทองแดงที่จะอยู่รอบๆ
6.ไปดูงานศิลปะ และศึกษาความเป็นมาของธรรมชาติวิทยาที่ MUSEUM OF MODERN ART และ AMERICAN MUSEUM OF NATURAL HISTORY
ผมมักให้ความสำคัญกับการเรียนรู้เสมอ การที่เรามีโอกาสได้ไปที่ไหนแล้วเราควรต้องฉลาดขึ้นไม่ใช่มีแค่เซลฟี่ หรือช้อปปิ้งเท่านั้น Museum of Modern Art มีผลงานชิ้นเอกของ Picasso ที่ชื่อ Les Demoiselles d’Avignon หรือของ Van Gogh ที่เป็นภาพที่เราคุ้นกันดีที่ชื่อ Starry Night ส่วน American Museum of Natural History คือพิพิธภัณฑ์ธรรมชาติวิทยาที่ใหญ่ที่สุดในโลก
7. ไปดูวิวแบบซูเปอร์แมน โดย Liberty Helicopters
หนังเรื่องซูเปอร์แมน ตอนที่แสดงโดย Christophe Reeve เป็นตอนที่เทคนิคการถ่ายทำด้วย blue screen เริ่มนำมาใช้ใหม่ๆ ทำให้การบินของ ซูเปอร์แมนดูเหมือนจริงน่าทึ่งสำหรับแฟนหนังในยุคนั้น ซึ่งจำได้ว่า ซูเปอร์แมนบินโชว์บ่อยเหลือเกินแต่ก็วนไปมาอยู่เหนือนครนิวยอร์กนี่เอง เพราะในหนัง นครนี้ถูกสมมุติให้เป็นนคร Metropolis ที่ Clarke Kent มาทำงานเป็นนักหนังสือพิมพ์ The Daily Planet ผมจึงขอแนะนำว่า ถ้าต้องการสุดยอดทิวทัศน์ของมหานครแห่งนี้แบบที่ซูเปอร์แมนเห็น คงต้องใข้บริการของ Liberty Helicopter ในราคา $150 เราจะได้ชมวิวจากจุดที่ถูกนำไปถ่ายโปสการ์ดจากมุมสูงของนครแห่งนี้ ในเวลาบินประมาณ 15 นาทีก็ไม่เลวครับให้ไปที่ Downtown Heliport, East River Piers หรือโทร 212-967-6464 เว็บไซด์ libertyhelicopter.com
ตอนต่อไปเราจะมาคุยกันเรื่องของกินของที่นี่ ว่ามาแล้วห้ามพลาดอะไร….
เรื่อง: ภูษิต แสนโสภณ