Focus Ultrasound นวัตกรรมยกกระชับหน้าล่าสุด #ไม่ต้องทนเจ็บจี๊ดเหมือนธูปจี้หน้า
September 13th, 2016
ใครที่เคยทำการยกกระชับผิวหน้าด้วยนวัตกรรม Ulthera ต่างก็รู้แก่ใจกันดีว่า นี่เป็นอะไรที่เวิร์คมากๆ ถึงขนาดยกให้เป็นนวัตกรรมที่สามารถเข้ามาแทนที่การผ่าตัดยกกระชับหน้าได้เลยด้วยซ้ำ และขอบอกว่าดาราดังอย่าง Courteney Cox, Julianne Moore และ Jennifer Aniston ต่างก็ชื่นชอบทรีทเม้นท์นี้กันมาก แต่ ‘ข้อเสีย‘ ที่ทำให้สาวๆ บางคนถึงกับ ‘ส่ายหน้า‘ ไม่ยอมใช้นวัตกรรมนี้ก็คือ ความร้อนจากเครื่องโฟกัสอุลตร้าซาวด์ตัวนี้ ที่ไม่ค่อยมีใครทนทานไหว เพราะ “มันจะเจ็บจี๊ด…เหมือนถูกธูปจี้บนใบหน้า” นั่นแหละ
แต่ตอนนี้สาวๆ หลายคนคงยิ้มหน้าบานกันได้แล้ว เพราะนวัตกรรมนั้นก็ได้รับการพัฒนาขึ้นใหม่ จนไม่ทำให้คนไข้รู้สึกเจ็บจี๊ดๆ อีกต่อไปแล้ว ยังไงน่ะเหรอ? เราไปฟังคำชี้แจงจากคุณหมอวรพจน์ ศิรามังคลานนท์ แพทย์ผู้เชี่ยวชาญด้านเลเซอร์ผิวพรรณและความงาม แห่ง Hertitude clinic กันได้เลย…

Ultratherapy คืออะไร?
“Ultratherapy” เป็นชื่อเรียกทางการค้าที่รู้จักติดปากกัน แต่ชื่อจริงๆ คือ High Intensity Focus Ultrasound (HIFU) ซึ่งเป็นคลื่นเสียงอุลตร้าซาวด์ชนิดหนึ่ง
ทำงานยังไง?
นวัตกรรมนี้ต่างกับการทำเลเซอร์ ที่ใช้ความเข้มข้นของแสงเป็นหลัก แต่ Focus Ultrasound เป็นการใช้คลื่นเสียงอุลตร้าซาวด์มาบีบให้โฟกัสในระดับความลึกตามที่แพทย์ต้องการ คือตั้งแต่ 1.5mm 2.0mm 3.0mm และ 4.5 mm ซึ่งจะตรงเข้าไปกระตุ้นผิวในลักษณะต่างๆ กัน
ถ้ายิงในระดับความลึก 1.5mm และ 2.0mm ก็จะเป็นการกระตุ้นให้เกิดการหดตัวของชั้นผิวแท้ และกระตุ้นให้เกิดการสร้างคอลลาเจนและอีลาสติน เพื่อช่วยลดเลือนริ้วรอยต่างๆ แต่ถ้ายิงในระดับความลึก 3.0mm และ 4.5mm ก็จะกระตุ้นให้เกิดการหดตัวของชั้นพังผืดเหนือกล้ามเนื้อ ซึ่งเป็นชั้นเนื้อเยื่อชั้นเดียวกับที่หมอศัลยกรรมตกแต่งใช้เย็บดึงหน้า

ทำเสร็จเห็นผลเลยมั้ย?
ทำเสร็จจะเห็นผลเลยประมาณ 20% แต่ผลจะดีขึ้นเรื่อยๆ ภายใน 6 เดือน ซึ่งจะดูเป็นธรรมชาติ ไม่มีใครรู้ คนไข้จะชอบมาก เพราะไม่มีใครสังเกตว่าเค้าไปทำอะไรมา เค้าจะค่อยๆ สวยขึ้นเรื่อยๆ
Focus Ultrasound รุ่นนี้ต่างกับรุ่นก่อนยังไง?
Foucus Ultrasound รุ่นล่าสุดต่างกับของเดิมในแง่ประสิทธิภาพการรักษาที่มีมากขึ้น และมีหลาย mode ในการรักษา เพื่อตอบสนองสภาพปัญหาที่แตกต่างกัน ที่สำคัญคือ…เจ็บน้อยกว่ากันมาก เนื่องจากปรับรูปแบบพลังงานที่สงสู่ผิวแบบ High Peak Power ซึ่งส่งผลให้พลังงานลงสู่ผิวได้มากกว่าแต่รวดเร็วกว่า จึงทำให้รู้สึกได้น้อยมาก นอกจากนี้พลังงานก็จะโฟกัสเฉพาะจุดที่ทำการรักษา โดยไม่ส่งผลต่อเนื้อเยื่อใกล้เคียง จึงช่วยลดอาการข้างเคียงหลังการรักษาได้อย่างมาก

ใช้เวลาในการรักษานานแค่ไหน?
เนื่องจากพลังงานในแต่ละ line มีความคงตัว แถมยังยิงได้อย่างรวดเร็ว โดยไม่ก่อให้ก่อให้เกิดอาการข้างเคียง จึงใช้เวลาในการยิงน้อยมาก คือประมาณ 20 นาทีถึง 1 ชั่วโมงเท่านั้นเอง สาวๆคนไหนจะแอบไปทำตอนพักเที่ยง ก็ไม่มีใครจับได้แน่นอน! แถมผลลัพท์ยังอยู่ได้นานถึง 1-2 ปีเลยนะ
ต้องเสืยค่าใช้จ่ายเท่าไหร่?
โดยเฉลี่ยราคาขึ้นอยู่กับ line ที่คนไข้ใช้ คือตั้งแต่หลักพันไปจนถึงหลักแสน โดยถ้าทำเฉพาะแค่รอบดวงตา ก็ใช้แค่ 40-60 lines ราคาก็จะประหยัดลง แต่บางคนทำทั้งใบหน้าและลำคอ ก็จะตกอยู่ประมาณ 600 lines ซึ่งคนไทยส่วนใหญ่ที่ทำหน้าก็จะตกอยู่ประมาณ 500-700 lines

ที่มา: นายแพทย์วรพจน์ ศิรามังคลานนท์
Medical Director, Hertitude Clinic
เครดิตภาพ 1, 2, 3, 4